ผู้เขียน | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ดร. รุ่งเรือง พัฒนากุล นักวิทยาศาสตร์ระบบลำเลียงแสง สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เปิดเผยว่า “ถั่งเช่า” เป็นสมุนไพรที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในประเทศจีนนานนับศตวรรษ มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศทิเบต สรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย บำรุงอวัยวะภายใน เช่น ปอด ตับ และไต นอกจากนี้ ยังช่วยชะลอความแก่ชรา ลดคอเลสเตอรอล บรรเทาและรักษาอาการโรคหอบหืด เป็นต้น ถั่งเช่าทิเบตเป็นที่ต้องการสูงในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการอาหารเสริมสุขภาพ ประกอบกับเป็นของหายาก จึงทำให้ถั่งเช่าทิเบตมีราคาแพง
ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการหลายประเทศเพาะเลี้ยงถั่งเช่าธรรมชาติสายพันธุ์อื่นๆ (มีมากกว่า 350 สายพันธุ์) เพื่อให้ได้สารสำคัญมาทดแทนแต่ยังคงคุณสมบัติการออกฤทธิ์ทางยาเช่นเดิม สำหรับในประเทศไทย พบว่า มีบริษัท เซโก้ฟาร์ม และกลุ่มผู้ประกอบการ OLINTA จาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถเลี้ยงถั่งเช่าสีทอง จากด้วงสาคูที่เป็นวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนได้
ทั้งนี้ บริษัท เซโก้ฟาร์ม หนึ่งในกลุ่มธุรกิจ SME ของประเทศไทย ผู้เลี้ยงและพัฒนาวิธีการเพาะเลี้ยงถั่งเช่าสีทอง ได้เข้ามาหารือกับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ถึงแนวทางการพัฒนากรรมวิธีในการเลี้ยงถั่งเช่าตามแนวคิด “Smart Farmer” ทำให้เกิดเป็นความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานภายใต้โครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ได้เข้ามาร่วมในโครงการดังกล่าว ซึ่งโครงการนี้มุ่งหวังให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัย พัฒนาและสร้างนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร โดยปัจจัยที่จะทำให้การขับเคลื่อนนี้ประสบผลสำเร็จคือ กลไกการสนับสนุนให้นักวิจัยในภาครัฐและเอกชนได้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ดร. รุ่งเรือง กล่าวอีกว่า สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ร่วมกับ บริษัท เซโก้ฟาร์ม พัฒนาระบบอัจฉริยะเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมการเพาะเลี้ยงถั่งเช่าสีทองให้ได้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ถั่งเช่าเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และอุดมไปด้วยสารอันเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในประเทศ
นอกจากนี้ เมื่อทีมวิจัย นำถั่งเช่าที่เพาะเลี้ยงด้วยวิธีการดังกล่าว ไปวิเคราะห์สารสำคัญด้วยแสงซินโครตรอน พบว่า มีปริมาณสารคอร์ไดซิปิน และสารอะดีโนซีนสูงกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาด ซึ่งสารอะดีโนซีน เป็นสารสำคัญที่มีอยู่ในถั่งเช่า มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอล กระตุ้นการเผาผลาญ สร้างเสริมพละกำลัง และสร้างความกระปรี้กระเปร่าให้กับร่างกาย ส่วนสารคอร์ไดซิปิน มีบทบาทในการต้านมะเร็ง ปรับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ยับยั้งการเกิดและต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบ เพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด
สำหรับวิธีการเลี้ยงถั่งเช่า แบบ “Smart Farmer” ตามแนวคิดของ บริษัท เซโก้ฟาร์ม เป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยาก สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้และส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรกรใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้อย่างดี รวมทั้งยังสร้างรายได้เสริมให้แก่ประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล นำพาประเทศสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างแท้จริง
ดร. รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า ล่าสุดทีมวิจัยได้ผลิตเครื่องเพาะถั่งเช่าอัตโนมัติต้นแบบออกมาแล้ว มีลักษณะคล้ายตู้เย็น 2 ประตู มีความพิเศษคือควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ และจะผลิตให้เกษตรกรเครือข่ายเพื่อใช้ในการเพาะเลี้ยงถั่งเช่าคุณภาพต่อไป โดยใช้งบประมาณ 60,000-70,000 บาท/เครื่อง ซึ่งเป็นอีกนโยบายของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะมอบให้กับประชาชนชาวไทยเป็นของขวัญปีใหม่ 2561 ด้วย คาดว่าจะส่งมอบให้เกษตรกรนำไปใช้ประมาณเดือนมีนาคม 2561 นี้แน่นอน โดยขณะนี้ทีมวิจัยกำลังดำเนินการในเฟส 2 คือ การพัฒนาเครื่องเพาะถั่งเช่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด สามารถคอนโทรลได้ทั้งแสง อุณหภูมิ ความชื้น และระยะเวลาการเพาะเลี้ยง เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่เกษตรกรต่อไป
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณศศิพันธุ์ ไตรทาน และ คุณกุลธิดา พิทยาภรณ์ โทรศัพท์ (044) 217-040 ต่อ 1251-2 โทรสาร (044) 217-047