นักบัญชีสาว ชาวราชบุรี หันหลังให้อาชีพ ทำสวนผสมอินทรีย์ส่งขาย ไปโลด

คงไม่มีกรอบหรือข้อจำกัดใดๆ สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่ต้องการมาทำเกษตรอินทรีย์ว่าจะต้องมี ความรู้ ร่ำเรียนมาเฉพาะสายเกษตร เดี๋ยวนี้หากสนใจสามารถหาข้อมูล ทั้งเนื้อหา ภาพ เสียง จากสื่อออนไลน์จำนวนมาก ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร มีความรู้ระดับไหน ก็สามารถเข้าถึงวงการเกษตรได้ไม่ยาก ขอเพียงใส่ใจให้เต็มที่เท่านั้น

อย่างเรื่องราวการทำเกษตรอินทรีย์ของหญิงสาวชาวราชบุรีท่านนี้ ที่ร่ำเรียนจนมีดีกรีปริญญาตรี ด้านบัญชีแล้วเบื่ออยู่กับตัวเลขที่นั่งทำงานในห้องแอร์ แต่กลับมาชอบเข้าสวนตากแดดปลูกผักอินทรีย์ ส่งขายกลุ่มลูกค้ารักสุขภาพในชุมชนท้องถิ่น พร้อมจับมือกับกลุ่มสมาชิกขยายผลส่งพืชผักผลไม้เข้าโมเดิร์นเทรด

คุณผกามาศ เพิ่มแสงสุวรรณ หรือ คุณนก เจ้าของไร่ทรงสุวรรณ อยู่เลขที่ 48/1 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองโพ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เล่าที่มาของความชอบทำเกษตรว่า แต่เดิมทำงานด้านบัญชีอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยนิสัยที่ชื่นชอบปลูกต้นไม้ จึงใช้เวลาในวันหยุดกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด แล้วทำสวนปลูกพืชไว้เป็นงานอดิเรก เนื่องจากที่บ้านมีพื้นที่ในการเลี้ยงวัวนมอยู่

คุณผกามาศ เพิ่มแสงสุวรรณ หรือคุณนก

ภายหลังลงมือปลูกพืชผักหลายชนิดจนประสบความสำเร็จ ทำให้ยิ่งมีความรู้สึกสนุกและผูกพัน จึงค่อยๆ พัฒนารูปแบบการปลูก ตลอดจนเพิ่มพันธุ์พืชอีกหลายชนิด กระทั่งพบว่าตัวเองหลงรักงานเกษตรเข้าอย่างเต็มที่ จากนั้นตัดสินใจเลิกอาชีพนักบัญชี แล้วผันตัวเองมาสู่วงการเกษตรอินทรีย์อย่างเต็มตัว แม้จะไม่ได้รับความเห็นชอบจากครอบครัวสักเท่าไร

คุณนก เล่าว่า จากสภาพพื้นที่เดิมก่อนจะมาใช้ประโยชน์ พบว่า ดินมีคุณภาพแย่มาก เพราะใช้ดินก้นบ่อที่ไม่มีธาตุอาหารมาถม ปลูกอะไรก็ไม่ได้ผล ทำให้ต้องปรับปรุงฟื้นฟูสภาพดินด้วยการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ผสมคลุกเคล้ากับหญ้า นำไปใส่ในดินแล้วไถกลบไป-มา หลายครั้ง ทำเช่นนี้นานประมาณ 2 ปี จึงทำให้ดินกลับมามีสภาพดีขึ้นมาก สามารถปลูกพืชอะไรก็เจริญงอกงาม

เกษตรกรสาวรายนี้ตั้งใจทำเกษตรอินทรีย์ที่ไม่พึ่งเคมี แม้จะเป็นเรื่องยากและหนัก แต่มีความมุ่งมั่นต้องทำให้ได้ จึงเริ่มจากปลูกพืชผักที่ตัวเองชอบก่อน จนสามารถเรียนรู้เทคนิคการปลูกอย่างลึกซึ้ง แล้วเพิ่มจำนวน/ประเภทพืชผักสำหรับใช้บริโภคที่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกหลายชนิด เพื่อปลูกส่งขายให้แก่ลูกค้าที่รักสุขภาพ จนในที่สุดสามารถทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสานได้อย่างลงตัวครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืช ทำปุ๋ยอินทรีย์ เลี้ยงสัตว์ แถมยังนำไปขายทำการตลาดเองด้วย

พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ สำหรับใช้ทำสวนอินทรีย์ผสมผสานสำหรับหญิงสาวคนนี้ถือว่ากำลังเหมาะสม คุณนก บอกว่าเมื่อก่อนเคยใช้พื้นที่ถึง 10 ไร่ แต่ประสบปัญหา เพราะเกินกำลังตัวเอง จึงปรับลดพื้นที่ลงเพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพผลผลิตได้อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน

จากเวลา 4 ปี ของการสะสมประสบการณ์ที่ผ่านการลองผิด-ถูก ล้มเหลวและสำเร็จได้สร้างความแข็งแกร่งต่อคุณนกจนประสบความสำเร็จตามความตั้งใจ ในชื่อ “ไร่ทรงสุวรรณ” พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย

  1. กลุ่มพืชผักสวนครัว อาทิ ผักชีฝรั่ง (ปลูกไว้จำนวนมาก) ผักชีไทย ขึ้นฉ่าย พริก มะนาว ตะไคร้ (ปลูกไว้บริเวณโดยรอบ)
  2. ผักใบ อย่างผักโขม ดอกชมจันทร์ ถั่วฝักยาวสีม่วง ดอกขจร (ถือเป็นพืชชนิดแรกสำหรับการเริ่มต้นทำเกษตรอินทรีย์ของคุณนกที่ประสบความสำเร็จเป็นที่สนใจของลูกค้า ขายดีมาก จนต้องมาทำกิ่งพันธุ์ขายควบคู่ไปด้วย) นอกจากนั้น ยังเพาะเลี้ยงเห็ดหลินจือเพื่อไว้สำหรับนำมาแปรรูปเป็นน้ำเห็ดแล้วใส่เฉาก๊วยบรรจุใส่กระปุก ขนาด 200 มิลลิลิตร เพื่อเป็นของว่างสุขภาพที่ขายดีมากในกลุ่มผู้รักสุขภาพ
  3. กลุ่มสัตว์เลี้ยง ได้แก่ ไก่ไข่ เป็ด วัวนม (ใช้มูลทำปุ๋ย) เลี้ยงปลา สำหรับไก่ที่คุณนกเลี้ยงไว้เพื่อขายไข่ โดยในตอนแรกที่เริ่ม มีจำนวนไก่เพียง 10 ตัว เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ แล้วเลี้ยงด้วยอาหารที่หาได้ในพื้นที่ทั้งเปียก/แห้ง ถ้าเป็นอาหารเปียกจะใช้หยวกกล้วย ร่วมกับพืชผักสมุนไพรและผลไม้ ส่วนอาหารแห้งจะเลี้ยงด้วยธัญพืชที่หาได้ง่ายในพื้นที่ ทั้งนี้เป็นการเลี้ยงเพื่อนำไข่ไปขาย จึงเป็นไข่ออร์แกนิกจากไก่อารมณ์ดีที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง

จากกิจกรรมดังกล่าว จึงสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทั้งแบบวันเว้นวัน จนไปถึงสัปดาห์ละครั้ง ส่วนผักก็ปลูกแบบหมุนเวียน ซึ่งแต่ละชนิดจะไม่ปลูกมาก แต่เน้นให้หลากหลายเพื่อสะดวกและง่ายต่อการเก็บผลผลิตนำไปขายสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยยึดตามรอบการสั่งของลูกค้าตามแผนการปลูกที่วางไว้ ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้บริโภคของใหม่/สด ขณะเดียวกันผู้ผลิตก็สามารถขายสินค้าได้หมดโดยไม่เหลือเก็บไว้ให้เสียหาย

คุณนก ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ประสบความสำเร็จจากเกษตรอินทรีย์ แต่เธอยังมีเพื่อนสมาชิกภายใต้อุดมการณ์เดียวกันอีกหลายคนที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน จึงทำให้พวกเขาสร้างกิจกรรมผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ร่วมกันขึ้นมา แล้วนำเสนอขายลูกค้าในแบบ “ปิ่นโต” คือเป็นแนวทางการขายสินค้าผลผลิตทางการเกษตรที่รวมกันหลายชนิด ทั้งพืช ผัก ผลไม้ หรืออาหารที่นำมาจากบรรดาสมาชิกในกลุ่ม เพื่อนำไปเสนอขายเป็นรายการให้แก่ลูกค้ากลุ่มผู้รักสุขภาพให้เลือกตามความต้องการ ขณะเดียวกันสมาชิกแต่ละรายไม่จำเป็นต้องปลูกพืชหลายชนิดก็ได้ โดยดูว่าใครถนัดปลูกอะไร แล้วนำมารวมกันขาย วิธีนี้จะช่วยให้การปลูกพืชไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนได้อีก

เจ้าของไร่ทรงสุวรรณ เผยถึงแนวคิดการผลิตอาหารอินทรีย์ว่า จากการที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจกับสุขภาพกันมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันสินค้าอินทรีย์ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีตลอดจนความใส่ใจที่มีวางจำหน่ายยังมีไม่มากนัก ดังนั้นเมื่อมองถึงความจำเป็น จึงปักหลักแล้วร่วมมือกับเพื่อนสมาชิกอีกหลายจังหวัดในเขตภาคตะวันตกผลิตอาหารอินทรีย์ที่ได้คุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคที่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เป็นแม่บ้านและผู้สูงวัย นอกจากนั้น ยังเปิดบู๊ธจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีหลากหลายจากสมาชิกกลุ่มในชื่อแบรนด์ “ตะนาวศรี” ในห้างท็อปส์ สาขามหาชัยด้วย

พืชสมุนไพรที่เป็นอาหารแห้งของไก่

ส่วนรายได้ คุณนก เผยว่า ต่อเดือนไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นบาท เนื่องจากสินค้าประเภทนี้ต้องใช้ความอดทน ความพยายาม และใส่ใจกว่าจะมีผลผลิตที่มีคุณภาพ แล้วหาไม่ง่ายในตลาดทั่วไป ทำให้มีราคาสูงกว่าท้องตลาด ซึ่งลูกค้าต่างเข้าใจ เพราะต้องการอาหารที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง

แม้สินค้าเกษตรอินทรีย์แบรนด์ตะนาวศรีจะไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานตามหลักสากล แต่ด้วยความมุ่งมั่น ขยัน อดทนที่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะมาถึงจุดนี้ ดังนั้น พวกเขาจึงเลือกใช้วิธีตรวจสอบมาตรฐานกันเองโดยอาศัยความซื่อสัตย์เป็นที่ตั้ง จนทุกวันนี้สินค้าเกษตรอินทรีย์ทุกชนิดที่วางขายต่างได้รับความเชื่อมั่นแล้วอุดหนุนจากลูกค้าอย่างดีมาตลอดอย่างต่อเนื่อง

บู๊ทใน TOP มหาชัย

คุณนก บอกว่า การได้เข้ามาทำกิจกรรมในลักษณะนี้ถือเป็นโชคดีที่ได้มีสังคมกับเพื่อนใหม่ๆ ที่มีเจตนาตรงกัน มีความตั้งใจที่เหมือนกัน ขณะเดียวกันยังได้มีโอกาสใช้ความรู้ ความสามารถ จากสติปัญญาที่มีเข้าไปช่วยพัฒนากิจกรรมทางด้านเกษตรเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า ให้มีความทัดเทียมกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามามีบทบาทในวงการเกษตรกรรม

“อยากให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจต่อสุขภาพตัวเอง ด้วยการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การเลือกบริโภคอาหารสุขภาพ ควรจะตรวจสอบแหล่งที่ผลิตควบคู่ไปด้วยว่า มีความน่าเชื่อถือมาก-น้อยเพียงใด เพราะจะได้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายอย่างแท้จริง” เจ้าของไร่ทรงสุวรรณ กล่าว

สอบถามรายละเอียด สั่งซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์จากไร่ทรงสุวรรณ ได้ที่ คุณผกามาศ เพิ่มแสงสุวรรณ หรือ คุณนก โทรศัพท์ (081) 551-5857 fan page:ไร่ทรงสุวรรณ Line : 081-551-5857

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ.2564


สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354