ชาวนาธาตุพนมเมินข้าวราคาตก แปรรูปข้าวเม่าขายรับทรัพย์วันละ 5 หมื่น หน้าหนาวยิ่งรับไม่อั้น

วันที่ 1 พฤศจิกายน  แม้จะมีปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำ แต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ ต.ฝั่งแดง และ ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  เพราะเป็นช่วงโอกาสทองของเกษตรกรชาว  ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถือเป็นพื้นที่แห่งเดียวของ จ.นครพนม ที่สืบทอดอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ทำข้าวเม่ามานานกว่า 30 ปี  โดยชาวบ้านจะเริ่มลงมือปลูกข้าวเม่า  หรือข้าวพันธุ์ กข. 15  และ กข. 10  ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมของทุกปี  ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน  ถึงช่วงใกล้ออกพรรษา เดือน กันยายน-ตุลาคม ไปถึงเทศกาลปีใหม่ จะเป็นช่วงที่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวมาทำข้าวเม่า โดยจะใช้ข้าวที่อยู่ระหว่างตั้งท้องออกรวง  ที่เป็นเมล็ดข้าวน้ำนม  ตามต้นตำรับภูมิปัญญาชาวบ้าน  นำมาแปรรูป  คั่วให้สุก  ก่อนนำไปสีกะเทาะเปลือกออกมาเป็นข้าวเม่า และนำไปตำด้วยครกกระเดื่องให้เกิดความนุ่ม  เพื่อให้ได้ข้าวเม่าที่มีความนุ่ม หอมอร่อย  เป็นข้าวเม่าแท้ 100 เปอร์เซ็นต์  นำส่งขายตลาดในช่วงประเพณีบุญออกพรรษาที่ตลาดมีความต้องการสูง สร้างรายได้หมุนเวียนปีละกว่า 10  ล้านบาท  ซึ่งจะขายในราคากิโลกรัมละประมาณ  80-100 บาท ถือเป็นการแปรรูปข้าวนำไปขายในราคาดี  แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำอีกด้วย  ทำให้ทุกปีมีพ่อค้า แม่ค้า มาสั่งซื้อจนผลิตไม่ทัน กลายเป็นผลผลิตจากอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี

201611011122182-20111216140823-768x432

นายสว่าง  คำมุก  อายุ 54 ปี  ผู้ใหญ่บ้านแก่งโพธิ์  ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม กล่าวว่า สำหรับข้าวเม่าถือเป็นอาชีพของชาวบ้าน สืบทอดกันมาแต่โบราณ ที่นิยมนำข้าวน้ำนม มาทำเป็นข้าวเม่า เพื่อนำไปถวายพระทำบุญ และรับประทานตามงานบุญประเพณีต่างๆ  เนื่องจากช่วงออกพรรษา ไปถึงเทศกาลปีใหม่ จะเป็นช่วงที่ชาวอีสานมีงานบุญประเพณีมากมาย  ทำให้ข้าวเม่าเป็นเมนูภูมิปัญญาชาวบ้านที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถนำไปปรุงเป็นของหวานได้ เนื่องจากมีรสชาติอร่อยหอม สร้างรายได้แต่ละปีมีเงินหมุนเวียนในหมู่บ้านปีละกว่า 10 ล้านบาท ทำให้เกษตรในพื้นที่ส่วนใหญ่ จะทำนาเก็บผลผลิตมาทำข้าวเม่า  มีพื้นที่มากกว่า 1,000  ไร่  ซึ่งในรอบ 1 ปี จะสามารถทำนาได้ถึง 3 ครั้ง เพราะมีโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ทำให้มีน้ำทำนาตลอดหน้าแล้ง ไม่เพียงสร้างรายได้แก่คนที่มีอาชีพทำข้าวเม่าเท่านั้น ยังส่งผลดีต่อชาวบ้านที่เป็นแรงงานเก็บเกี่ยว จนถึงแรงงานแปรรูป  ได้ค้าจ้าง 300 บาทต่อวัน  ทำให้ชาวบ้านมีงานมีรายได้เสริมอีกทาง แก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำได้เป็นอย่างดี