ทัณฑสถานเกษตรฯ เขาพริก เปิดสูตรใช้พื้นที่คุ้มประโยชน์ ปลูก “ทุเรียน-กล้วย-ฟักทอง” 3 ชั้น

เมื่อเอ่ยถึง ทัณฑสถาน หรือ เรือนจำ หลายคนอาจจะนึกถึงภาพผู้ต้องขังหรือนักโทษที่ถูกจองจำไร้อิสรภาพ แต่สำหรับทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นอีกภาพที่คนทั่วไปไม่ค่อยได้รับรู้กันในวงกว้างมากนัก โดยเฉพาะในส่วนที่ว่าเรือนจำแห่งนี้มีฐานะเป็นศูนย์การเรียนรู้เกษตรอุตสาหกรรมด้วย ซึ่งเป็นที่แรกของกรมราชทัณฑ์ พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ การปลูกพืชผักผลไม้อินทรีย์ และการเลี้ยงสัตว์

ศูนย์นี้ตั้งขึ้นมาเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังสมัครใจฝึกวิชาชีพก่อนพ้นโทษ เพื่อให้ออกไปเป็นพลเมืองดี มีงานทำ ซึ่งถือเป็นเกษตรแปลงใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งส่งผลผลิต อย่าง กล้วยหอมทอง และกล้วยน้ำว้า ขายในห้างใหญ่ๆ อย่าง เทสโก โลตัส

 

เตรียมปลูก องุ่น-แก้วมังกร

คุณวิเชียร ทองพุ่ม ผู้อำนวยการทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ให้ข้อมูลว่า มีนักโทษทั้งหมด 4,115 คน โดยได้คัดผู้ต้องขังประพฤติดีที่ใกล้จะพ้นโทษ จำนวน 315 คน มาปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ ในศูนย์การเรียนรู้ฯ ซึ่งทางเรือนจำมีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 30,000 ไร่ ส่วนที่ปลูกพืชได้ มีประมาณ 1,000 กว่าไร่ และในจำนวนผู้ต้องขัง 315 คน นี้จะทยอยพ้นโทษไปเรื่อยๆ ดังนั้น จะคัดเลือกผู้ต้องขังรายใหม่เข้ามาทดแทน

คุณวิเชียร เล่าว่า ความจริงเรือนจำแห่งนี้มีการฝึกอาชีพให้กับนักโทษหลากหลายสาขา แต่อาชีพเด่นๆ ของที่นี่คือด้านการเกษตร ซึ่งเน้นด้านการปลูกพืชไม้ผลเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นกล้วย มะละกอ ข้าวโพด แตงโม และทุเรียน นอกจากนี้ กำลังจะปลูกองุ่นและแก้วมังกร อย่างไรก็ตาม พืชเด่นๆ ในช่วงนี้เป็น กล้วย ข้าวโพด และมะละกอ ที่มีอยู่แปลงใหญ่ๆ

ส่วนการเกษตรด้านอื่นๆ เป็นการเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่สัตว์เล็กจนถึงสัตว์ใหญ่ โดยมีไก่อยู่ 100,000 ตัว มีหมูอยู่ 2,400 ตัว ซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ที่ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณามาดำเนินการที่นี่ เปิดมาร่วมปีแล้ว และพระองค์ท่านจะเสด็จทรงเปิดศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้

ศูนย์ดังกล่าว ปลูกพืชหลากหลายชนิด มีทั้ง เมล่อน ไผ่เลี้ยง และไผ่กิมซุง รวมถึงพืชผักสวนครัวด้วย ส่วนสัตว์มีทั้งโค ไก่ดำมองโกเลีย ไก่งวง ไก่พันธุ์ และนกกระจอกเทศ

คุณวิเชียร อธิบายถึงจุดเด่นของศูนย์การเรียนรู้ฯ นี้ว่า เป็นเรื่องของการเกษตรแบบครบวงจร อย่างเช่น พืชจะมีตั้งแต่พืชสวน อย่าง ทุเรียน และกล้วยน้ำว้า ถือเป็นตัวอย่างการจัดการพื้นที่ 16 ไร่ ที่มีการปลูกพืช 3 ชั้น พืชชั้นบนเป็นทุเรียนหมอนทอง ชั้นกลางเป็นกล้วยน้ำว้า ส่วนชั้นล่างเป็นพวกฟักทอง พืชทั้ง 3 ชนิดนี้ ปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมด เป็นการเรียนรู้การจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ปลูกเมื่อปีที่แล้ว ยังไม่มีผลผลิตออกมา ต้องใช้เวลาอีก 4 ปี เพราะทุเรียนปลูก 5 ปี ถึงจะออกลูก ซึ่งในช่วงระยะเวลา 4-5 ปี ก่อนที่จะได้รับผลทุเรียน เราจะมีผลผลิตของกล้วย เป็นกล้วยน้ำว้า ที่ใช้เวลาประมาณ 10 เดือนกว่าจะได้รับผล ขณะที่ปลูกฟักทอง 90 วัน ก็ออกลูกแล้ว เพราะฉะนั้นจะมีพืชพวกนี้เป็นตัวอย่างการจัดสรรพื้นที่ให้กับประชาชนที่เข้ามาดูหรือมาเรียนรู้ที่ศูนย์เรียนรู้ในการจัดสรรพื้นที่ให้มีรายได้ เป็นพืชที่ปลูก 3 เดือน ได้ผลผลิต ปลูก 1 ปี ได้ผลผลิต และปลูกทุเรียน 5 ปี ได้ผลผลิต ซึ่งเป็นผลไม้ที่ยั่งยืน”

นำผลผลิตมาแปรรูป

สำหรับวิธีการดูแลบำรุงพืชผลไม้นั้น คุณวิเชียร ระบุว่า สภาพดินบริเวณทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกนั้น เป็นดินที่ราบเชิงเขา ที่มีเขาอยู่ 2 ลูก คือเขาพริก กับเขาสะเดา ดินเดิมจึงไม่ค่อยเหมาะกับการปลูกพืชสักเท่าไร แต่ที่สามารถปลูกพืชได้ดีเป็นเพราะได้พัฒนาปรับปรุงคุณภาพดินให้เหมาะสมกับการปลูกพืช ซึ่งทางเรือนจำไม่ได้ใช้สารเคมีอะไรเลย เป็นสารอินทรีย์ที่ผลิตขึ้นเองทั้งหมด โดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ ไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีแต่อย่างใด

ผู้อำนวยการทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก บอกด้วยว่า กรณีผลผลิตที่เหลือ ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตที่ไม่ผ่านเกณฑ์ คือตกเกรด จะนำมาแปรรูป เช่น กล้วย แปรรูปเป็นกล้วยฉาบบ้าง กล้วยอบ หรือกล้วยตาก เพราะทางเรือนจำมีศูนย์แปรรูปผลิตภัณฑ์เหล่านี้ด้วย

อย่างที่เกริ่นไปแต่แรกว่า เรือนจำเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกปลูกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอมทองส่งขายห้างเทสโก้ โลตัส ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ได้เชิญสื่อมวลชนจากส่วนกลางไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรอุตสาหกรรมด้วย พร้อมสาธิตการตัดกล้วยหอมและกล้วยน้ำว้าให้ดู ทำให้ได้รู้ได้เห็นวิธีการตัดกล้วยแต่ละหวีแบบไม่ให้มีร่องรอยขีดข่วนหรือช้ำ โดยเมื่อใช้บันไดสูงตัดจากต้นกล้วยแล้ว จะนำมาตัดแบ่งเป็นหวีๆ ในถังน้ำขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้กล้วยถูกกระแทกช้ำ พร้อมใช้มีดคมๆ ที่เป็นลักษณะโค้งตัด แค่นี้ก็จะได้กล้วยหวีงามๆ ที่พร้อมจะส่งห้างได้

คุณวิเชียร แจกแจงว่า ที่ผ่านมาทางทัณฑสถานได้อบรมความรู้เรื่องเกษตรให้แก่ผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ผลผลิตที่ปลูกได้ไม่ตรงตามความต้องการของตลาด ทำให้มีข้อจำกัดในด้านช่องทางการขายอย่างมาก จนกระทั่ง เทสโก้ โลตัส เข้ามารับซื้อผลผลิตในราคาตลาด และมีซัพพลายเออร์ คือ บริษัท วัน บานาน่า ซึ่งปลูกกล้วยขาย เทสโก้ โลตัส อยู่แล้ว เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ทำให้เรียนรู้ถึงการปลูกพืชตามที่ตลาดต้องการ โดยเฉพาะกล้วยหอมทองและกล้วยน้ำว้าในเชิงพาณิชย์ ทำให้ผลผลิตที่ออกมามีคุณภาพตามมาตรฐานของโมเดิร์นเทรด สามารถขายผลผลิตในช่วงแรกเป็นระยะเวลา 3 ปี

สำหรับรายได้จากการขายผลผลิต 50% ใช้ดำเนินการ อีก 50% จะกลับไปที่ผู้ต้องขัง เพื่อเป็นเงินขวัญถุงเมื่อถึงเวลากลับบ้าน ซึ่งเป็นการคืนคนดีสู่สังคม ตามนโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์ของอธิบดีกรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้ ในการปลูกกล้วยหอมนั้น บริษัท วัน บานาน่า ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการปลูกกล้วยหอมและเป็นบริษัทที่ส่งกล้วยหอมให้ เทสโก้ โลตัส ได้เข้ามาให้คำแนะนำในการปลูก เริ่มตั้งแต่การวางแผนเพาะปลูก และการจัดการอย่างเป็นระบบ

ชวนร่วมทำเกษตรแปลงใหญ่

ด้าน คุณพรเพ็ญ นาถพิริยรัตน์ รองประธานกรรมการฝ่ายกำกับดูแลคุณภาพสินค้า เทสโก้ โลตัส เล่าถึงความร่วมมือระหว่างเรือนจำแห่งนี้กับ เทสโก้ โลตัส ว่า ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริกมีพื้นที่เพาะปลูกที่ดี และมีผู้ต้องขังที่มีศักยภาพที่พร้อมจะเป็นเกษตรกรที่มีคุณภาพ จึงได้เริ่มดำเนินโครงการกับทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2560 เพื่อส่งเสริมการปลูกกล้วยหอมทองและกล้วยน้ำว้า เพื่อส่งขายให้กับ เทสโก้ โลตัส โดยมีการปลูกกล้วยหอมทองทั้งหมด 10,180 ต้น บนพื้นที่ประมาณ 50 ไร่ และกล้วยน้ำว้าทั้งหมด 6,136 ต้น บนพื้นที่ 58 ไร่

กล้วยทั้งหมดเพาะปลูกโดยผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เพื่อเป็นการฝึกทักษะวิชาชีพด้านการเกษตรให้กับผู้ต้องขังได้มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงหลังจากพ้นโทษไป

“จากความร่วมมือกันครั้งนี้ มองว่าเรือนจำเขาพริกน่าจะปลูกผลไม้อื่นๆ เพื่อส่งขายให้ทางห้างเทสโก้ โลตัส ได้อีกหลายอย่าง โดยเฉพาะแก้วมังกร ซึ่งเป็นผลไม้ที่ปีหนึ่งๆ สั่งนำเข้ามาจำนวนมาก เพราะผลผลิตในประเทศมีไม่เพียงพอ จึงอยากจะให้ทางเรือนจำเขาพริกปลูกขายให้กับเรา เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลไปประเทศอื่น” คุณพรเพ็ญกล่าว

ขณะเดียวกันทางเรือนจำเขาพริกยังได้ร่วมกับบริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งในการปลูกพืชผักผลไม้ ซึ่งจะทำให้มีตลาดแน่นอน เนื่องจากบริษัทเอกชนจำนวนไม่น้อยต้องการผลผลิตจากเกษตรกรที่มีการรวมกลุ่มกัน โดยเฉพาะเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อให้ได้ผลผลิตจำนวนมากตามความต้องการ โดยมีทั้งปลูกเพื่อขายในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศด้วย

อย่างเช่น ก่อนหน้านี้ มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด หรือ ซีพี ในการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรฯ ซึ่งแผนความร่วมมือดังกล่าว มีระยะเวลา 15 ปี และผลผลิตที่ได้ทาง ซีพี จะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับบางบริษัทในการปลูกกล้วยหอมเขียว ส่งขายในต่างประเทศ

ผู้ที่ผ่านไปยังศูนย์การเรียนรู้เกษตรอุตสาหกรรมเรือนจำเขาพริก จะเห็นผลผลิตของที่นี่นำออกมาขายที่หน้าศูนย์ฯ ในราคาค่อนข้างถูก ที่สำคัญสดใหม่ มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพดสวีท ฟักทอง ผักสวนครัว และไข่ไก่ ฯลฯ

ผู้อำนวยการ ทัณฑสถานเกษตรอุตสาหกรรมเขาพริก ฝากบอกด้วยว่า ทางศูนย์มีพื้นที่อีกเยอะที่จะปลูกพืชผักผลไม้ในปริมาณมากๆ ถ้าผู้ประกอบการรายใดสนใจจะทำเกษตรแปลงใหญ่ หรือต้องการผู้ต้องขังที่ประพฤติดีใกล้พ้นโทษไปทำงานข้างนอก ก็สามารถติดต่อมาได้ ที่เรือนจำ และหากผู้สนใจการทำเกษตรอินทรีย์ ไม่ว่าจะเป็นการทำปุ๋ยชีวภาพหรือการทำปุ๋ยหมัก ก็เข้ามาศึกษาดูงานได้

นับเป็นแหล่งผลิตพืชผักผลไม้ที่มีคุณภาพได้มาตรฐานอีกแห่งของบ้านเรา ทั้งยังเป็นแหล่งฝึกอบรมเพิ่มพูนทักษะให้ผู้ต้องขังได้เรียนรู้อาชีพเกษตรกรรมอย่างครบวงจร ซึ่งเมื่อพ้นโทษไปแล้วสามารถนำวิชาความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติจริงไปใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างแน่นอน