ไปดูบ้านสวนป่า “อภิวัฒน์” เมืองสกลนคร ปลูกตั้งแต่ผักชี ถึงไม้ยืนต้น

หลังได้รับข้อมูลว่า ณ บ้านพะโค ตำบลท่าแร่ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร มีเกษตรกรท่านหนึ่งรักการเกษตรเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้-ใบหญ้า ตั้งแต่ปลูกผักชี ไปจนถึงไม้ยืนต้นที่ให้ผลผลิตแทบทุกชนิด แม้วัยจะล่วงเข้าเกือบ 80 ปี ก็ยังขยันขันแข็ง ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติด้วยการปลูกพืชไว้มากมาย แต่ที่สำคัญท่านผู้เฒ่ารายนี้ปลูกแล้วมักจะมอบให้หรือแจกฟรี สำหรับผู้ที่ต้องการนำไปปลูก

วันนี้มีโอกาสดี จึงเดินทางไปที่บ้านพะโค ห่างจากตัวเมืองสกลนคร ราว 35 กิโลเมตร ขับรถเลาะเลียบริมหนองหาร แหล่งทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ ที่รองลงมาจากบึงบอระเพ็ด มุ่งหน้าออกจากตัวเมืองสกลนคร ไปตามถนนสายสกลนคร-นครพนม ที่มองดูท้องทุ่งนาเริ่มเขียวชอุ่ม ด้วยข้าวกล้าที่เกษตรกรลงมือหว่านและปักดำ ด้วยใจเบิกบาน มองผ่านไปทางด้านทิศตะวันออก มองเห็นท้องน้ำกว้างใหญ่ของหนองหาร สายหมอกและก้อนเมฆ ลอยอ้อยอิ่ง จับกันเป็นกลุ่มก้อน ขาวเป็นเงาทะมึนเมื่อกระทบแสงแดด ทำให้มองแล้วเพลินตา ฟากน้ำโพ้น มองเห็นทิวเทือกเขาภูพาน เป็นสีเขียวครามเย็นตาเป็นเงางาม หมอบสงบนิ่งอย่างทรนง สวยงามแฝงไว้ความน่าเกรงขาม

ใช้เวลานั่งรถประมาณครึ่งชั่วโมงมาถึงหมู่บ้าน “บ้านแร่” หมู่บ้านนี้ ที่เอ่ยชื่อแล้วน้อยคนนักที่ไม่รู้จัก เพราะบ้านท่าแร่แต่เดิมเคยเป็นแหล่งเลื่องลือ เกี่ยวการค้าขาย “สุนัข” แต่ปัจจุบัน บ้านท่าแร่ เป็นชุมชนที่อยู่ติดหนองหาร ภาพเก่าไม่มีให้เห็น เป็นชุมชนประมงและทำการเกษตร โดยเฉพาะข้าวโพดและแตงกวา ปลูกได้ตลอดปี

จากนั้นเลี้ยวตรงไฟแดง เส้นทางท่าแร่-ศรีสงคราม ขับรถผ่านออกมาหน้าเทศบาลตำบลท่าแร่ ประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านพะโค ที่มีบ้านเรือนเรียงรายยาวจากท่าแร่ ออกมาที่บ้านพะโค ประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะพบกับบ้านสวนอภิวัฒน์ ที่อยู่ติดริมถนนหาง่าย ที่สะดุดตา เป็นป่าไม้ที่มีความชุ่มชื่น มีไม้ ทั้งไม้ประดับและไม้ยืนต้นเต็มพื้นที่

คุณลุงสำเริง และ คุณป้าทองหล่อ สกลธวัฒน์

พอเลี้ยวรถเข้าไปด้านในก็ต้องตะลึง เนื่องจากมีไม้ประดับและไม้ยืนต้นมีมากมาย ได้รับการต้อนรับจาก คุณลุงสำเริง สกลธวัฒน์ หรือชาวบ้านเรียก อาจารย์เริง วัย 75 ปี และ คุณป้าทองหล่อ สกลธวัฒน์ ภรรยาวัย 74 ปี อยู่ด้วยกันสองคน

เมื่อทักทายเข้าใจกันดีแล้ว คุณลุงสำเริงหรืออาจารย์เริง บอกว่าตนเองเขียนจดหมายไปถึงบรรณาธิการ คุณพานิชย์ ยศปัญญา ที่รู้จักเนื่องดีจากเป็นแฟนหนังสือพิมพ์ในเครือมติชน โดยเฉพาะที่รับเป็นประจำคือ เทคโนโลยีชาวบ้าน เพราะอ่านแล้วได้ความรู้และพัฒนาตนเอง

“ผมไม่ได้ต้องการอยากดังหรืออยากให้ทางคุณพานิชย์ ช่วยอะไร เพียงแต่อยากบอกว่า ผมศึกษาพืชและต้นไม้มาน้อย แต่ก็ปลูกพืชและไม้ประดับไว้มากเหมือนกัน โดยแต่เดิมทำมาควบคู่กับงานที่เป็นอาชีพรับเหมา ส่วนหนึ่งโดยศึกษาจากตำรา” คุณลุงสำเริง บอก

ก่อนมาปลูกต้นไม้

คุณลุงสำเริง เล่าว่า แต่ก่อนมีอาชีพค้าขายและรับเหมา แต่ต่อมาอายุมากขึ้น จึงได้หันพลิกผันตัวเองออกมาอยู่ที่บ้านสวน ในปัจจุบัน ส่วนลูกๆ ก็มีอาชีพค้าขาย ออกมาอยู่ที่บ้านสวนหวังจะมุ่งมั่นทำตามใจรัก ครั้งแรกก็ใช้พื้นที่ที่มีอยู่ 30 ไร่ ปลูกไม้ยืนต้นที่คิดว่าทั้งกินผลและไม่กินผล แซมให้เป็นร่มเงา จากนั้นก็ขุดบ่อไว้เลี้ยงปลา 13 บ่อ นำปลาที่คิดว่าสามารถจับขายได้เร็ว เช่น ปลานิล ตะเพียน ตลอดจนปลาธรรมชาติมาลงไว้ และสิ่งที่ทำอีกอย่างคือการเลี้ยงหมู ขายส่งทำเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ควบคู่ไปกับการปลูกต้นไม้

หลังจากนั้นไม่นาน ปัญหาหมูราคาถูกและไม่มีความรู้เกี่ยวกับกลไกตลาด ทำให้ต้องเลิกเลี้ยงหมูและไก่ คงเหลือไว้เฉพาะปลาและไก่พื้นบ้านเท่านั้น

จากนั้นจึงหันมาศึกษาและปลูกไม้ประดับอย่างจริงจัง ไม้ประดับมีมากมายหลายชนิด โดยการเพาะเองปลูกเอง จนพื้นที่ในโรงเรือนไม่พอ จึงขยายออกไปอีก โดยการทำงานจะช่วยกับภรรยา 2 คนเท่านั้น ไม่มีการจ้างคนงาน ทุกอย่างทำเองหมด ตั้งแต่ผสม คลุกดิน ยัดถุงดำ จนลูกๆ บอกขอให้เลิกปลูกเลิกทำเพราะอายุมากแล้ว แต่ด้วยความที่คิดว่าการอยู่กับธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้ จะทำให้มีสุขภาพดี แข็งแรง ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง ไม่เคยเจ็บป่วยถึงขั้นรุนแรง

คุณป้าทองหล่อ บอกว่า ในแต่ละวันจะไม่ไปไหน ตื่นมาก็ปลูก ดูแลต้นไม้ที่มีอยู่จำนวนมากมาย มีทุกชนิด ขนุน มะม่วง ลำไย มะกรูด มะนาว มีครบ นอกจากนั้น ทุกวันนี้ยังมีการเพาะไม้ประดับประเภทจันทน์ผาไว้จำนวนมากจนแน่นบ้าน

การจำหน่ายก็ขายเฉพาะคนที่มาขอซื้อถึงสวน จะเป็นการให้ฟรี มอบให้กับองค์กร หรือสถาบันการศึกษา รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ไปปลูกและประดับ ซึ่งหน่วยงานก็ช่วยค่าดิน ค่าปลูกบ้าง แต่ไม่มาก เรียกว่า ที่ทำเพราะใจรักมากกว่า เคยชวนหยุดปลูก แต่คุณลุงสำเริง บอกว่า บั้นปลายชีวิตและก็ชอบ ดีกว่าไปทำอย่างอื่นอย่างน้อยก็ออกกำลังกาย ไม่เหงา ก็เอาเวลาว่างมาดูแลต้นไม้ เดินไปเดินมา ก็ค่ำมืดแล้ว มีความสุขไปอีกแบบหนึ่ง

สำหรับจันทน์ผาและไม้ประดับหลากหลายชนิด ขณะนี้เพาะกล้าไว้จำนวนมาก ทั้งจำหน่ายทั้งแจกฟรี คุณลุงสำเริงท่านเป็นคนใจดี หากใครแวะเวียนมาเที่ยวหาก็จะนำกระถาง หรือต้นไม้ฝากให้ไปปลูก โดยท่านบอกว่าดีกว่าให้อย่างอื่น เพราะต้นไม้จะทำให้อากาศดีและสดชื่น

สวนอภิวัฒน์หาง่าย หากใครที่อยากศึกษาหรือเรียนรู้เกี่ยวกับต้นไม้-ใบหญ้า หากมีเวลาและโอกาสผ่านไปก็สามารถแวะเยี่ยมชมได้ คุณลุงสำเริงยินดีให้คำแนะนำในการปลูกทั้งไม้ยืนต้นและไม้ประดับ และยินดีที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชุมชน

ก่อนจาก วันนั้นผู้เขียนยังได้รับต้นไม้จำนวนหนึ่งจากคุณลุงสำเริง เพื่อนำไปมอบให้กับมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ซึ่งเป็นความประสงค์ของท่านที่จะมอบให้กับส่วนราชการเป็นการปลูกฝังในการรักต้นไม้ และส่งเสริมการปลูกป่า เพราะท่านบอกว่า “ป่าไม้คือชีวิต”

ผู้สนใจถามได้ตามที่อยู่ หรือโทรศัพท์ (085) 119-1474

 

………………….

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2561