กาแฟอะราบิก้า กับ กาแฟโรบัสต้า ถ้าจะปลูกแถบภาคใต้ตอนบน ควรปลูกชนิดไหนจึงจะได้ผลดี

จากสถิติของกรมส่งเสริมการเกษตร ปัจจุบัน ประเทศไทยผลิตกาแฟได้ประมาณ 3 หมื่นตัน ลดลงจากในอดีตที่เคยผลิตได้ 7 หมื่นตัน ทั้งนี้ เนื่องจากทางภาคใต้ได้ตัดโค่นกาแฟลง เพื่อปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมันทดแทน ทั้งนี้ กาแฟที่ปลูกในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ อะราบิก้า และ โรบัสต้า ชนิดแรกไทยเราผลิตได้เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ของทั้งหมด ส่วนโรบัสต้าผลิตได้มากถึง 95 เปอร์เซ็นต์

กาแฟอะราบิก้า ให้กลิ่นและรสชาติ ต้องปลูกบนที่สูงอากาศเย็นในบางช่วง จึงปลูกกันมากที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ตาก และแม่ฮ่องสอน ลักษณะอะราบิก้า มีทรงต้นเล็ก พุ่มเตี้ย สูงประมาณ 2-5 เมตร ใบมีขนาดเล็กเขียว ผิวบนเป็นมัน มีความสามารถต้านทานโรคศัตรูต่ำ ตั้งแต่เริ่มผลิดอกถึงระยะเก็บเกี่ยว ประมาณ 5-9 เดือน

กาแฟโรบัสต้า มีทรงต้นใหญ่กว่าอะราบิก้า มีความสูง 3-6 เมตร มีข้อปล้องยาว ใบมีขนาดใหญ่สีเขียว แต่ไม่เป็นมัน ชอบอากาศร้อนชื้น ฝนตกสม่ำเสมอ มีปลูกกันมากที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา

จากรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประเทศไทยต้องเปิดตลาดนำเข้ากาแฟตามข้อตกลงของ WTO ระหว่างปี พ.ศ. 2555-2557 เป็นเมล็ดกาแฟในปริมาณ 5.25 ตัน และกาแฟสำเร็จรูปอีก 134 ตัน ในช่วงเวลาเดียวกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยวิธีส่งเสริมการใช้ทรัพยากรดินอย่างมีประสิทธิภาพ และปรับปรุงสวนที่เสื่อมโทรมให้ดีขึ้น ที่สำคัญส่งเสริมการขายเมล็ดกาแฟตามชั้นและคุณภาพ ก็คงต้องติดตามกันต่อไป