มะม่วงไม้ผลสามัญประจำบ้าน ปลูกอย่างไรให้มีผลผลิตเก็บกิน

เมืองไทยนั้นอุดมสมบูรณ์ เมื่อกินผลไม้สักอย่างหนึ่ง เหลือเมล็ด โยนออกจากนอกชาน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม อาจจะงอกเป็นต้นใหม่ เจริญเติบโต ออกดอกให้ผลกับเจ้าของได้

คนไทยนั้นมีนิสัยชอบปลูกต้นไม้ มีที่ว่างเป็นไม่ได้ ต้องปลูกพืชผัก ตะไคร้ มะกรูด

เมืองใหญ่ แม้แต่หน้าร้าน ก็มีปลูกต้นไม้กัน ไม่มีดินจริงๆก็ปลูกในกระถาง

มะม่วงเป็นไม้ผลที่เจ้าของบ้านนิยมปลูกรอบๆบ้าน จำนวนอาจจะไม่มากต้นนัก

ทำไมต้องปลูกมะม่วงไว้รอบบ้าน

เปรียบเทียบกับไม้ผลชนิดอื่น มะม่วงอยู่ใกล้ครอบครัวคนไทยมากที่สุด มีปลูกไว้รอบๆบ้านมากที่สุด

สาเหตุที่มะม่วงมีปลูกไว้ใกล้บ้านนั้นเพราะ

หนึ่ง.มะม่วงมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้ง รวมทั้งน้ำท่วม

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า เมื่อใช้ต้นตอที่แข็งแรงเป็นส่วนขยายพันธุ์ มะม่วงจะเจริญเติบโตในที่ฝนน้อยได้ดี ขณะเดียวกัน หากน้ำท่วม ก็ยืนต้นอยู่ได้นาน ถึงนานที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับไม้ชนิดอื่น

สอง.ดูแลไม่ยาก ผู้ปลูกบางคน อาศัยหย่อนต้นลงดินต้นฝน ไม่ต้องรดน้ำ ปล่อยให้เทวดาเลี้ยง ต้นก็เจริญเติบโตได้ อาจจะมีแมลงมากัดกินใบ แต่ก็กินไม่หมด ใบทีเหลือจะช่วยหุงหาอาหารเลี้ยงต้น ให้กิ่งก้านใหม่

สาม.ปลูกได้ในหลายภูมิภาค ตั้งแต่ภาคเหนือ อิสาน กลาง ส่วนภาคใต้อาจจะมีปัญหาเรื่องการออกดอกติดผล แต่ก็มีมะม่วงประจำถิ่น อย่างมะม่วงเบา และมะม่วงนาทับ ที่ไม่กลัวฝน

สี่.ปลูกไปนานๆ พุ่มใบของมะม่วงให้ร่มเงา นอกจากนก กา กระรอก กระแต จะได้อาศัยแล้ว คนยังได้หลบร้อนอีกด้วย

ห้า.สถานที่ ที่มีปัญหาเรื่องเสียง แสง ต้นมะม่วงสามารถลดสิ่งเหล่านี้ลงได้ ขณะเดียวกัน ต้นมะม่วงก็เพิ่มอ็อกซิเจนโดยรอบ

หก.หากเจ้าของบ้าน ไม่ต้องการโชว์ในจุดไหน สามารถที่จะปลูกมะม่วงบังสายตาได้

เจ็ด.เป็นไม้ที่ปลูกแล้วอยู่ได้นาน บางต้นอยู่คู่กับชีวิตของคนๆหนึ่งหรือมากกว่า

แปด.หาซื้อต้นพันธุ์มาปลูกได้ง่าย มีพันธุ์หลากหลาย

เก้า.มะม่วงยามติดผล ดูแล้วสวยงาม ยิ่งระยะหลังๆมีพันธุ์แปลกๆ จึงถือว่า เป็นไม้ประดับ ให้ความสวยงามกับเจ้าของได้

สิบ.สำคัญมาก…ผลนำมากินได้อร่อย เป็นผลไม้ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

แล้วจะปลูกมะม่วงพันธุ์อะไรดี

มีมะม่วงให้เลือกปลูกมากมาย

แนวทางการเลือกพันธุ์มะม่วงปลูกมีดังนี้

หนึ่ง.เลือกตามความชอบของผู้ปลูก

หากชอบมะม่วงกินดิบ หรือมะม่วงมัน ควรปลูกพันธุ์เขียวเสวย ฟ้าลั่น พิมเสนมันทะวาย เจ้าคุณทิพย์ เพชรบ้านลาด น้ำดอกไม้มัน

ส่วนมะม่วงกินสุก มีพันธุ์น้ำดอกไม้สีทอง น้ำดอกไม้เบอร์ 4 อกร่องทอง มหาชนก อกร่องพิกุลทอง

สอง.ควรเป็นมะม่วงที่ออกผลทะวายโดยธรรมชาติ ไม่ต้องใช้สารบังคับ ทั้งนี้ผลผลิตอาจจะไม่ออกเป็นชุดใหญ่ มะม่วงที่ออกดอกติดผลทะวายโดยธรรมชาติได้แก่มะม่วงโชคอนันต์ เพชรปทุม พิมเสนมันทะวาย ศรีสยาม น้ำดอกไม้เบอร์ 4  ศาลายา สามฤดู โชควิเชียร เป็นต้น

สาม.ออกดอกติดผลง่าย เช่นมะม่วงแม่ลูกดก จัดเป็นมะม่วงที่ออกผลอย่างต่อเนื่อง แต่รสชาติเมื่อกินสุกไม่อร่อย เหมาะทำเป็นมะม่วงยำ มะม่วงกินกับน้ำปลาหวาน

สี่.มีผลใหญ่ยักษ์ เจ้าของตื่นเต้น เมื่อมีผลผลิต โดยที่รสชาติก็ดี มะม่วงที่ผลใหญ่สีสวย ได้แก่มะม่วงอาร์ทูอีทู น้ำดอกไม้มัน เขียวใหญ่ จักรพรรดิ เขียวสามรส งาช้างแดง ไต้หวัน 1 เป็นต้น

ปลูกมะม่วงอย่างไรให้เจริญเติบโตดี

สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการปลูกมะม่วงคือพื้นที่ปลูกรอบๆบ้าน

ในชนบท พื้นที่อาจจะเหลือเฟือ แต่หากเป็นเมืองใหญ่ โดยเฉพาะบ้านจัดสรรด้วยแล้ว ต้องระวังเมื่อปลูกไปแล้ว อย่าให้กิ่งก้านไปรบกวนข้างๆบ้านเขา

ทางที่ดีควรปลูกหน้าบ้าน ให้กิ่งเจริญเติบโตออกไปยังถนนจะดีกว่า

ดินปลูก หากเป็นที่ถม จะไม่รู้ที่มาของดิน บางครั้งพบว่าดินแข็งเป็นดาน มีเศษปูนชิ้นใหญ่ๆฝังอยู่ ทางที่ดีควรขุดหลุมให้กว้างและลึก จากนั้นใช้ดินบนผสมปุ๋ยคอกเก่า รองก้นหลุม

หากมีใบก้ามปูก็ใช้ผสมระหว่างดินบน ปุ๋ยคอกเก่า สัดส่วนแล้วแต่ที่มี อาจจะเน้นใบก้ามปูมากหน่อยก็ได้

เมื่อหลุมปลูกพร้อม ก็นำต้นพันธุ์ลงปลูก

ควรปลูกให้รอยต่อของการทาบกิ่งอยู่เหนือดินเล็กน้อย จากนั้นใช้หลักปักยึด เพื่อป้องกันการโยกคลอน สุดท้ายควรรดน้ำให้

ต้นพันธุ์ที่ปลูกส่วนใหญ่ขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง

หากเป็นกิ่งเก่ารอยต่อระหว่างต้นตอกับกิ่งพันธุ์ดีสมานกันดีแล้ว สามารถกรีดหรือดึงพลาสติกที่พันออกได้เลย หลังจากปลูกไปแล้ว

แต่หากต้นพันธุ์ยังใหม่อยู่ ควรกรีดหรือดึงพลาสติกออก หลังปลูกไปแล้ว 2-3 เดือน แต่อย่าลืมเอาออก หากลืมต้นจะแคระแกร็น โตช้า หรือไม่อาจจะตายได้ หากพลาสติกไม่ขาด

 

ดูแลพอประมาณ ใช้สารเคมีไม่ดีแน่

การดูแลรักษามะม่วงหลังปลูก ไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด เนื่องจากมะม่วงมีความอดทน ขอให้ต้นรอดตายหลังจากปลูกใหม่ๆ เขาก็จะเจริญเติบโตเป็นปกติ

หากเจ้าของว่าง หรือวันเสาร์และอาทิตย์ ช่วงแล้งก็อาจจะให้น้ำมะม่วงบ้าง

หากมีปุ๋ยคอกหรือใบก้ามปู ซึ่งมีไนโตรเจนสูง ก็นำกองไว้ที่โคนต้นมะม่วง

บ้านใดที่ปลูกมะม่วงหลายต้น อยากใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ให้บ้าง เมื่อต้นยังเล็กอยู่ ใช้สูตร 25-7-7 เน้นตัวหน้า คือไนโตรเจน

ศัตรูมะม่วงที่พบเห็นอยู่ และมองด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน คือแมลงมากัดใบจนขาด การใช้สารเคมีกำจัดคงไม่สะดวกแน่เพราะปลูกแค่ต้นสองต้น ซื้อสารเคมีมาราคาขวดละ 200-300 บาท อีกทั้งรอบๆบ้าน หากใช้สารเคมีก็เป็นอันตรายแก่คนและสัตว์ เมื่อพบว่าแมลงมากัดใบก็ปล่อยให้กัด เพราะบางช่วง มะม่วงแตกใบอ่อนไม่ตรงกับระยะทำลายของแมลง ใบเหล่านั้นก็จะปลอดภัย คอยปรุงอาหารให้ต้นเจริญเติบโตตามปกติ

ดูอย่างไรมะม่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

ยุคเก่าก่อนสมัยปู่ย่าตายาย หลังจากปลูกมะม่วง อาจจะต้องรอนานถึง 7-8 ปี จึงจะมีผลผลิตให้เก็บกิน เพราะต้นพันธุ์ได้จากการเพาะเมล็ด

แต่ทุกวันนี้หลังปลูกเพียงปีเดียวก็อาจจะมีผลผลิตให้เก็บได้ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อกิ่งใหญ่ๆสูงท่วมหัวมาปลูก

โดยทั่วไปแล้ว หากปลูกด้วยกิ่งทาบ เมื่อต้นมีขนาดใหญ่พอประมาณ พุ่มใบพอเลี้ยงผลได้ 3 ปีก็ไว้ผลผลิตได้ จะไว้มากหรือน้อย ก็แล้วแต่ดุลพินิจของเข้าของ

เมื่อมีผลผลิต เจ้าของจะรู้ได้อย่างไรว่า มะม่วงสามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว

ชาวสวนที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร แนะนำว่า เด็ดผลผลิตมาจุ่มลงไปในน้ำ หากผลมะม่วงจม ถือว่าแก่จัด

การเปลี่ยนสีผิวของผลก็เป็นตัวชี้วัดว่ามะม่วงสุกแก่แล้ว คือเปลี่ยนจากผิวเขียวเป็นเหลือง หากเป็นพันธุ์ที่ผลสีแดง ตรงขั้วผลก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมื่อผลสุก อย่างมะม่วงอาร์ทูอีทู

ยามใดที่มีกระรอกมาแทะกินมะม่วง ก็จะรู้ว่าผลผลิตบนต้นเริ่มเก็บได้แล้ว มะม่วงบางพันธุ์ อย่างมหาชนก การออกดอก ติดผลบนต้น จะพร้อมกัน เมื่อผลที่ 1 สุกแก่ ผลที่ 2-20 ก็แก่เช่นกัน

วิธีการหนึ่งที่ทำได้ คือนับจากวันที่ดอกบาน เช่นเขียวเสวย ดอกบาน  120 จึงเก็บเกี่ยวได้ น้ำดอกไม้แก่เต็มที่หลังดอกบาน 110 วัน

ชิม…เป็นวิธีการหนึ่งที่ดีไม่น้อย อยากรู้ว่าเขียวเสวยแก่จัดหรือไม่ก็ปอกชิม หากหวานมัน ผลอื่นๆก็ทะยอยเก็บได้

สาเหตุที่มะม่วงไม่ติดผล

เจ้าของบ้านที่ปลูกมะม่วงส่วนใหญ่ต้องการผลผลิตไว้กิน หลายคนที่ปลูกช่วงปีที่ 4-5 พอมีผลผลิตบ้าง แต่จากนั้น มะม่วงให้ร่มเงาอย่างเดียว ไม่มีผลผลิตให้เจ้าของเลย

มะม่วงไม่ให้ผลผลิตแก่เจ้าของมีหลายสาเหตุด้วยกัน

หนึ่ง.ดูแลดีเกินไป ช่วงปลายปีต่อกับต้นปี มะม่วงต้องการพักตัวสะสมอาหาร แต่เจ้าของไปรดน้ำ ความสมดุลของธาตุอาหารจึงไม่เหมาะสม แทนที่มะม่วงจะผลิดอกช่วงเดือนธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์ มะม่วงแสนรักก็จะแตกใบอ่อนมาแทน ดังนั้นควรงดน้ำแก่ต้นมะม่วงช่วงปลายปี

สอง.เป็นธรรมชาติของมะม่วง ซึ่งบางพันธุ์ ถือว่าเป็นพันธุ์หนักออกผลยาก หรือออกปีเว้นปี หากปีใดออกผลมาให้เจ้าของมาก หากไม่เตรียมต้นหรือให้อาหารเขามากหน่อย ปีต่อมาก็จะอิดออด ไม่ออกดอกติดผล กรณีนี้พบในมะม่วงยอดฮิตอย่างเขียวเสวย

หากบ้านใดมีพื้นที่ว่าง อาจจะหาพันธุ์อื่นๆนอกจากเขียวเสวยลงปลูกบ้าง เช่นศาลายา น้ำดอกไม้มัน เป็นต้น

สาม.ความสมบูรณ์ของต้นอาจจะไม่เพียงพอ บางปีมะม่วงติดผลมาก เขาใช้อาหารไปมาก เมื่อเก็บผลผลิต เจ้าของควรใส่ปุ๋ยคอกให้กับเขาบ้าง หรือใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 สัก 1 กำมือต่อต้น หากไม่ยุ่งยากจนเกินไป ปลายฝนใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ให้เขา จำนวน 1 กำมือต่อต้น มะม่วงก็พร้อมที่จะมีดอกในฤดูกาลต่อมา

สี่.บริเวณที่ต้นมะม่วงขึ้นอยู่ อาจจะได้รับแสงแดดน้อยเกินไป ลมไม่ค่อยพัดผ่าน จึงมีผลต่อการออกดอกติดผล

ห้า.ต้นมะม่วงอายุมาก ซึ่งพบเป็นส่วนใหญ่ ทางแก้ไขควรมีการทอนกิ่ง ให้ต้นสั้นลง หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ทำสาว” เมื่อต้นมะม่วงมีกิ่งใหม่ โอกาสที่จะออกดอกจึงมีมาก

การแต่งกิ่ง ทำได้ตั้งแต่ปลูกใหม่ๆ ตัดทุกปี ทรงต้นก็จะสวย

ปลูกดีๆเป็นไม้ประดับที่กินได้

มะม่วงเป็นไม้เขตร้อน เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่จะปลูกรอบๆบ้าน

หากมีการดูแลตามสมควร ตั้งแต่ปลูก นอกจากจะมีผลผลิตให้เจ้าของได้กินแล้ว

พุ่มใบของเขาสวยงาม มองในแง่ปลูกประดับก็สามารถเป็นไปได้

หากศึกษานิสัยใจคอเขาสักนิด แล้วปฏิบัติต่อต้นมะม่วงอย่างต่อเนื่อง ก็จะเกิดทักษะ มีความเพลิดเพลินเจริญใจ