เผยแพร่ |
---|
12 เรื่อง น่ารู้ เกี่ยวกับมะม่วง – มะม่วง เป็นผลไม้ที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในประเทศไทยมีมะม่วงหลากหลายพันธุ์ และเราก็นิยมนำผลไม้ชนิดนี้มากินทั้งแบบดิบ สุก และแบบแปรรูป อีกทั้งยังใช้ทำได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน
บีบีซี ชวนอ่านเรื่องน่ารู้ 12 ประการ เกี่ยวกับผลไม้เมืองร้อนชนิดนี้ ที่คุณรู้จักมายาวนาน แต่อาจยังไม่ทราบเกี่ยวกับมัน
1. มะม่วงมีสายพันธุ์หลากหลายไม่ต่างจากแอปเปิ้ลและลูกพลัม
ส่วนใครชอบกินมะม่วงสุก ควรลิ้มลองมะม่วงพันธุ์ต่างๆ และหนึ่งในนั้นคือ มะม่วง “อัลฟองโซ” (Alphonso) ซึ่งผลสุกมีรสชาติหอมหวานจนชาวอินเดียยกให้เป็น “ราชาแห่งผลไม้”
2. มะม่วง เป็นผลไม้ประจำชาติของ 3 ประเทศ
3 ประเทศที่จัดให้มะม่วงเป็นผลไม้ประจำชาติ ได้แก่ ปากีสถาน อินเดีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ บังกลาเทศยังจัดให้มะม่วงเป็นต้นไม้ประจำชาติด้วย
3. คำว่า “mango” ในภาษาอังกฤษ ถือกำเนิดในอินเดีย
เชื่อว่า mango ซึ่งเป็นคำเรียกมะม่วงในภาษาอังกฤษนั้น กลายมาจากคำในภาษาทมิฬ “mankay” และคำว่า “mangga” ในภาษาเกรละ
ตอนที่พ่อค้าชาวโปรตุเกสเข้าไปค้าขายทางภาคใต้ของอินเดีย พวกเขาได้ปรับคำดังกล่าว เป็น “manga” แต่เป็นชาวอังกฤษที่เข้าไปค้าขายทางภาคใต้ของอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ที่ให้กำเนิด คำว่า mango
4. แต่ละปีมีผลผลิตมะม่วงทั่วโลกราว 46 ล้านตัน
ผลผลิตมะม่วงส่วนใหญ่คือ พันธุ์ “ทอมมี แอตกินส์” (Tommy Atkins) ซึ่งถูกเพาะพันธุ์ขึ้นในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ความโดดเด่นของมะม่วงพันธุ์นี้คือ โตเร็ว มีลูกใหญ่ สีเหลืองสวย ทนทานต่อโรคเชื้อรา ไม่ช้ำง่าย และคงความสดได้นาน จึงได้รับความนิยมนำไปวางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของมะม่วงพันธุ์นี้คือ เนื้อมีเสี้ยนมากเมื่อสุก และรสชาติไม่เข้มข้นเท่ามะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ที่คนไทยนิยมกินกัน
5. ผลผลิตมะม่วงในตลาดโลกมาจากประเทศเขตร้อนทั่วโลก
บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตรับซื้อมะม่วงจากดินแดนเขตร้อนทั่วโลกที่มีผลผลิตเวียนกันออกมาตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่เปรู ตามด้วยประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก จากนั้นก็เป็นอิสราเอลและอียิปต์ ในช่วงไตรมาสที่สามของปี และตามด้วยบราซิล
6. อินเดีย คือผู้ผลิตมะม่วงรายใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ละปีอินเดียมีผลผลิตมะม่วงกว่า 18 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณเกือบ 40% ของผลผลิตมะม่วงทั้งโลก แต่สัดส่วนการส่งออกมะม่วงสู่ตลาดโลกของอินเดียกลับมีไม่ถึง 1% เพราะคนอินเดียบริโภคผลผลิตมะม่วงส่วนใหญ่ของประเทศ
ส่วนประเทศผู้ส่งออกมะม่วงรายใหญ่ของโลก ได้แก่ จีน และไทย
7. การเพาะปลูกมะม่วงครั้งแรกของโลก เกิดขึ้นในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อกว่า 5,000 ปีก่อน
เชื่อกันว่ามะม่วงป่าเกิดขึ้นที่เชิงเขาหิมาลัยในอินเดีย และที่เมียนมา แต่การเพาะปลูกมะม่วงครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อราว 5,000 ปีที่แล้ว ทางตอนใต้ของอินเดีย เมียนมา และหมู่เกาะในทะเลอันดามัน
8. มะม่วงเดินทางไปทั่วโลก
มะม่วงมีต้นกำเนิดในเอเชีย แต่ปัจจุบันมีการปลูกมะม่วงอย่างแพร่หลายทั่วโลก
พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า มีการปลูกมะม่วงในทวีปแอฟริกาครั้งแรกในศตวรรษที่ 10 ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 14 อิเบน บัตตูตา นักเดินทางและปราชญ์ชาวโมร็อกโก ได้เขียนบันทึกว่าได้เห็นต้นมะม่วงในกรุงโมกาดิชูของโซมาเลีย ซึ่งอยู่บริเวณแหลมแอฟริกา และมีทิศตะวันออกติดกับมหาสมุทรอินเดีย
ในยุคการค้าเครื่องเทศเฟื่องฟูช่วงศตวรรษที่ 15 พ่อค้าชาวยุโรปได้เข้าไปค้าขายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในจำนวนนี้คือพ่อค้าชาวโปรตุเกสและสเปน พวกเขาต่างติดใจรสชาติอันหอมหวานของมะม่วง ทำให้ภายในศตวรรษที่ 17 ได้มีการนำมะม่วงไปปลูกในดินแดนอาณานิคมของประเทศเหล่านี้ในทวีปอเมริกา
ทุกวันนี้มีการปลูกมะม่วงอย่างแพร่หลายตามหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน บราซิล หรือแม้แต่ในประเทศเขตอบอุ่นแถบเทือกเขาแอนดีส อย่าง เปรู
ส่วน สเปน เป็นประเทศยุโรปแห่งเดียวที่เพาะปลูกมะม่วง โดยปลูกกันในแถบเมืองมาลากาทางภาคใต้ของประเทศ
9. ต้นมะม่วงเก่าแก่ที่สุด มีอายุนับร้อยปี
เชื่อกันว่า ต้นมะม่วงเก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุ 300 ปี อยู่ในรัฐมหาราษฏระ ทางภาคกลางของอินเดีย แถมยังคงผลิดอกออกผลมาจนถึงทุกวันนี้
10. มะม่วง เป็นญาติกับมะม่วงหิมพานต์และพิสตาชีโอ
มะม่วง เป็นไม้ผลเมืองร้อน ในวงศ์ Anacardiaceae ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับถั่วพิสตาชีโอและมะม่วงหิมพานต์ โดยเป็นพืชที่มีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง
11. มะม่วง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
มะม่วง 1 ถ้วย มีวิตามินซีราว 60 มิลลิกรัม ในสหราชอาณาจักร สำนักบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) แนะนำว่าผู้ใหญ่อายุระหว่าง 19-64 ปี จำเป็นต้องได้รับวิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม ส่วนในสหรัฐฯ ข้อแนะนำดังกล่าวอยู่ที่ 60 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ มะม่วง ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ โพแทสเซียม และโฟเลต (วิตามินบี 9) อีกทั้งยังให้เส้นใยอาหาร
12. มะม่วงหนักที่สุดในโลก
ข้อมูลสถิติโลกกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ระบุว่า มะม่วงหนักที่สุดในโลก มีน้ำหนัก 3.435 กิโลกรัม ยาว 30.48 เซนติเมตร และมีเส้นรอบวง 17.78 เซนติเมตร เกิดจากต้นมะม่วงหน้าบ้านชาวฟิลิปปินส์ครอบครัวหนึ่งเมื่อปี 2009
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์