12 เรื่อง น่ารู้ เกี่ยวกับมะม่วง

12 เรื่อง น่ารู้ เกี่ยวกับมะม่วง – มะม่วง เป็นผลไม้ที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ในประเทศไทยมีมะม่วงหลากหลายพันธุ์ และเราก็นิยมนำผลไม้ชนิดนี้มากินทั้งแบบดิบ สุก และแบบแปรรูป อีกทั้งยังใช้ทำได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน

 บีบีซี ชวนอ่านเรื่องน่ารู้ 12 ประการ เกี่ยวกับผลไม้เมืองร้อนชนิดนี้ ที่คุณรู้จักมายาวนาน แต่อาจยังไม่ทราบเกี่ยวกับมัน

1. มะม่วงมีสายพันธุ์หลากหลายไม่ต่างจากแอปเปิ้ลและลูกพลัม

12เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมะม่วง
เทศกาลมะม่วง ในกรุงนิวเดลี ของอินเดีย มีมะม่วงกว่า 500 พันธุ์ ให้คนรักมะม่วงได้ลิ้มลอง  / Getty Images
ในโลกมีมะม่วงหลายร้อยชนิด บางชนิดมีอยู่เฉพาะในบางภูมิภาค บางชนิดมีรสชาติหวานมัน บางชนิดมีรสเปรี้ยว และบางชนิดมีรสชาติคล้ายสับปะรด

ส่วนใครชอบกินมะม่วงสุก ควรลิ้มลองมะม่วงพันธุ์ต่างๆ และหนึ่งในนั้นคือ มะม่วง “อัลฟองโซ” (Alphonso) ซึ่งผลสุกมีรสชาติหอมหวานจนชาวอินเดียยกให้เป็น “ราชาแห่งผลไม้”

2. มะม่วง เป็นผลไม้ประจำชาติของ 3 ประเทศ

A mango tree with fruit ripening under the sun
หลายประเทศยกมะม่วงเป็นพืชสำคัญ / Getty Images

3 ประเทศที่จัดให้มะม่วงเป็นผลไม้ประจำชาติ ได้แก่ ปากีสถาน อินเดีย และฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ บังกลาเทศยังจัดให้มะม่วงเป็นต้นไม้ประจำชาติด้วย

3. คำว่า “mango” ในภาษาอังกฤษ ถือกำเนิดในอินเดีย

Yellow colonial house with fruit cart - loaded with mangoes - in front.
ปัจจุบัน ปณชี เป็นเมืองเอกของรัฐกัวในอินเดีย แต่ในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ที่นี่เคยเป็นอาณานิคมของโปรตุเกส ทำให้พ่อค้าชาวตะวันตกได้ลิ้มรสมะม่วงเป็นครั้งแรกๆ / Getty Images

เชื่อว่า mango ซึ่งเป็นคำเรียกมะม่วงในภาษาอังกฤษนั้น กลายมาจากคำในภาษาทมิฬ “mankay” และคำว่า “mangga” ในภาษาเกรละ

ตอนที่พ่อค้าชาวโปรตุเกสเข้าไปค้าขายทางภาคใต้ของอินเดีย พวกเขาได้ปรับคำดังกล่าว เป็น “manga” แต่เป็นชาวอังกฤษที่เข้าไปค้าขายทางภาคใต้ของอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ที่ให้กำเนิด คำว่า mango

4. แต่ละปีมีผลผลิตมะม่วงทั่วโลกราว 46 ล้านตัน

Woman picking a fresh mango at the market.
ทอมมี แอตกินส์ คือมะม่วงที่เห็นได้ทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตในยุโรปและสหรัฐฯ / Getty Images

ผลผลิตมะม่วงส่วนใหญ่คือ พันธุ์ “ทอมมี แอตกินส์” (Tommy Atkins) ซึ่งถูกเพาะพันธุ์ขึ้นในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ความโดดเด่นของมะม่วงพันธุ์นี้คือ โตเร็ว มีลูกใหญ่ สีเหลืองสวย ทนทานต่อโรคเชื้อรา ไม่ช้ำง่าย และคงความสดได้นาน จึงได้รับความนิยมนำไปวางขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยของมะม่วงพันธุ์นี้คือ เนื้อมีเสี้ยนมากเมื่อสุก และรสชาติไม่เข้มข้นเท่ามะม่วงพันธุ์น้ำดอกไม้ที่คนไทยนิยมกินกัน

5. ผลผลิตมะม่วงในตลาดโลกมาจากประเทศเขตร้อนทั่วโลก

African girl planting mango tree
มะม่วงเจริญเติบโตได้ดีในหลายพื้นที่ของทวีปแอฟริกา / Getty Images

บรรดาซูเปอร์มาร์เก็ตรับซื้อมะม่วงจากดินแดนเขตร้อนทั่วโลกที่มีผลผลิตเวียนกันออกมาตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นปีที่เปรู ตามด้วยประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก จากนั้นก็เป็นอิสราเอลและอียิปต์ ในช่วงไตรมาสที่สามของปี และตามด้วยบราซิล

6. อินเดีย คือผู้ผลิตมะม่วงรายใหญ่ที่สุดในโลก

Two Indian women at a maket, buying mangoes
อินเดียมีผลผลิตมะม่วงมากที่สุดในโลก แต่ผลผลิตส่วนใหญ่ถูกบริโภคภายในประเทศ / Getty Images

แต่ละปีอินเดียมีผลผลิตมะม่วงกว่า 18 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณเกือบ 40% ของผลผลิตมะม่วงทั้งโลก แต่สัดส่วนการส่งออกมะม่วงสู่ตลาดโลกของอินเดียกลับมีไม่ถึง 1% เพราะคนอินเดียบริโภคผลผลิตมะม่วงส่วนใหญ่ของประเทศ

ส่วนประเทศผู้ส่งออกมะม่วงรายใหญ่ของโลก ได้แก่ จีน และไทย

7. การเพาะปลูกมะม่วงครั้งแรกของโลก เกิดขึ้นในอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อกว่า 5,000 ปีก่อน

Ripe mangoes hanging from a tree
การปลูกมะม่วงมีมายาวนานนับพันปี / Getty Images

เชื่อกันว่ามะม่วงป่าเกิดขึ้นที่เชิงเขาหิมาลัยในอินเดีย และที่เมียนมา แต่การเพาะปลูกมะม่วงครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อราว 5,000 ปีที่แล้ว ทางตอนใต้ของอินเดีย เมียนมา และหมู่เกาะในทะเลอันดามัน

8. มะม่วงเดินทางไปทั่วโลก

A mango tree growing amongst buildings in a favela in Rio de Janeiro, Brazil
มะม่วงเจริญเติบโตได้ดีในดินแดนเขตร้อน จะเห็นได้จากมะม่วงลูกดกต้นนี้ที่ประเทศบราซิล / Getty Images

มะม่วงมีต้นกำเนิดในเอเชีย แต่ปัจจุบันมีการปลูกมะม่วงอย่างแพร่หลายทั่วโลก

พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า มีการปลูกมะม่วงในทวีปแอฟริกาครั้งแรกในศตวรรษที่ 10 ต่อมาช่วงศตวรรษที่ 14 อิเบน บัตตูตา นักเดินทางและปราชญ์ชาวโมร็อกโก ได้เขียนบันทึกว่าได้เห็นต้นมะม่วงในกรุงโมกาดิชูของโซมาเลีย ซึ่งอยู่บริเวณแหลมแอฟริกา และมีทิศตะวันออกติดกับมหาสมุทรอินเดีย

A whole mango and a half cut mango, on a blue wooden board
Getty Image

ในยุคการค้าเครื่องเทศเฟื่องฟูช่วงศตวรรษที่ 15 พ่อค้าชาวยุโรปได้เข้าไปค้าขายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในจำนวนนี้คือพ่อค้าชาวโปรตุเกสและสเปน พวกเขาต่างติดใจรสชาติอันหอมหวานของมะม่วง ทำให้ภายในศตวรรษที่ 17 ได้มีการนำมะม่วงไปปลูกในดินแดนอาณานิคมของประเทศเหล่านี้ในทวีปอเมริกา

ทุกวันนี้มีการปลูกมะม่วงอย่างแพร่หลายตามหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน บราซิล หรือแม้แต่ในประเทศเขตอบอุ่นแถบเทือกเขาแอนดีส อย่าง เปรู

ส่วน สเปน เป็นประเทศยุโรปแห่งเดียวที่เพาะปลูกมะม่วง โดยปลูกกันในแถบเมืองมาลากาทางภาคใต้ของประเทศ

9. ต้นมะม่วงเก่าแก่ที่สุด มีอายุนับร้อยปี

A large and lush mango tree growing by a white wall
ต้นมะม่วงเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น / Getty Images

เชื่อกันว่า ต้นมะม่วงเก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุ 300 ปี อยู่ในรัฐมหาราษฏระ ทางภาคกลางของอินเดีย แถมยังคงผลิดอกออกผลมาจนถึงทุกวันนี้

10. มะม่วง เป็นญาติกับมะม่วงหิมพานต์และพิสตาชีโอ

Sweets made with mango and pistachio.
คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไม การกินมะม่วงกับพิสตาชีโอจึงเข้ากันได้ดี เพราะพืชทั้งสองชาติเป็นญาติห่างๆ กันนั่นเอง / Getty Images

มะม่วง เป็นไม้ผลเมืองร้อน ในวงศ์ Anacardiaceae ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับถั่วพิสตาชีโอและมะม่วงหิมพานต์ โดยเป็นพืชที่มีเปลือกหุ้มเมล็ดแข็ง

11. มะม่วง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

Wooden bowl with half a chopped mango and one whole mango
มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ / Getty Images

มะม่วง 1 ถ้วย มีวิตามินซีราว 60 มิลลิกรัม ในสหราชอาณาจักร สำนักบริการสาธารณสุขแห่งชาติ (เอ็นเอชเอส) แนะนำว่าผู้ใหญ่อายุระหว่าง 19-64 ปี จำเป็นต้องได้รับวิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม ส่วนในสหรัฐฯ ข้อแนะนำดังกล่าวอยู่ที่ 60 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ มะม่วง ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ โพแทสเซียม และโฟเลต (วิตามินบี 9) อีกทั้งยังให้เส้นใยอาหาร

12. มะม่วงหนักที่สุดในโลก

Giant model of a mango and a woman posing next to it
คำเตือน: ภาพที่เห็นไม่ใช่มะม่วงจริง! Getty Images

ข้อมูลสถิติโลกกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส์ ระบุว่า มะม่วงหนักที่สุดในโลก มีน้ำหนัก 3.435 กิโลกรัม ยาว 30.48 เซนติเมตร และมีเส้นรอบวง 17.78 เซนติเมตร เกิดจากต้นมะม่วงหน้าบ้านชาวฟิลิปปินส์ครอบครัวหนึ่งเมื่อปี 2009

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์