ปลูก “ชะอมไม้เค็ด 2009” เหมือนมี ATM อยู่ในมือ

ในหนึ่งชีวิตที่หายใจดีอยู่มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของคนเรา บางครั้งไม่ได้ผ่านมาเพื่อให้เป็นของเรา แค่ผ่านมาเพื่อให้เราผ่านมันไปให้ได้ต่างหาก ดังนั้น เราต้องจำในสิ่งที่ควรจำ ลืมในสิ่งที่ควรลืม ข้อหนึ่งที่ต้องพึงจดจำไว้เสมอว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกครับ ที่แน่นอนที่สุดคือเราทุกคนได้รับของขวัญที่สุดล้ำค่าของที่สุดคือลมหายใจที่มีอยู่ และที่สุดของที่สุดอีกอย่างคือการที่เริ่มต้นชีวิตใหม่ในทุกๆ วัน ชีวิตนั้นอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างที่เราได้ลงมือกระทำ เมื่อเป็นเช่นนี้หากว่าชีวิตนั้นจำเป็นต้องเดินช้าหรือเร็วบ้างช่างมันเถอะ ขอเพียงให้ทุกก้าวที่ก้าวออกไปต้องดีกว่าเดิม และจำไว้เสมอว่าไม่ต้องดีกว่าใคร

สวัสดีครับแฟนๆ ขอต้อนรับด้วยคำว่า สวัสดี และขอบพระคุณอย่างมากมายจากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านและผู้เขียนเป็นเบื้องแรก คอลัมน์นี้ได้รับแรงใจอย่างเหนียวแน่นจากแฟนๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องราวของคำถามหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับ ชะอมไม้เค็ด 2009 แฟนๆ จะติดตามกันมาก แม้ว่าจะนำเสนอมาหลายปีก็ตาม มีการส่งเสียงไปหา โทร. (081) 846-0652 หรือติดตามทางเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อ นายสมยศ ศรีสุโร หรือ ID. Janyos กันอย่างต่อเนื่อง แถมบอกด้วยว่าอย่าให้เรื่องนี้หายไปไหน ชนิดผมปลื้มหัวใจมิรู้ลืมจริงๆ ครับแฟนๆ ขอขอบพระคุณอีกครั้งนะครับ

ปักษ์นี้ขอนำเสนอเรื่องราวของแฟนชะอมไม้เค็ด 2009 พันธุ์แท้จริงๆ ครับ ขอแนะนำให้แฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของชะอมไม้เค็ด 2009 ได้รู้จักกับครอบครัวหนึ่ง คุณสมศักดิ์ และ คุณปราณี แก้วแสน บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่ 5 ตำบลหมากเขียบ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ มีลูกหญิงชายอย่างละ 1 คน  อาชีพเดิมคือช่างไฟฟ้ารับเหมาทุกเรื่องราวที่เกี่ยวกับไฟฟ้าอยู่แถวภาคตะวันออก จันทบุรี ระยอง และชลบุรี คุณสมศักดิ์เป็นแฟนประจำนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน ที่สุดเยี่ยมไปกว่านั้นคือเป็นแฟนประจำคอลัมน์นี้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะเรื่องราวของชะอมไม้เค็ด 2009 จะติดตามตลอดและคิดเสมอว่า สักวันหนึ่งเมื่อตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านจะต้องปลูกชะอมไม้เค็ด 2009 อย่างแน่นอน

พ.ศ. 2556 หลังจากที่ลูกสาวคนโตจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เมื่อมีงานทำเรียบร้อยแล้วคุณสมศักดิ์จึงได้เดินทางกลับไปอยู่บ้านตามที่ได้ตั้งใจไว้ เนื่องจากต้องการที่จะไปใช้ชีวิตเกษตรกรเต็มรูปแบบชนิดมีความสุขในบั้นปลายชีวิตแบบพอเพียงกับครอบครัว พร้อมจะได้ดูแลพ่อแม่ทั้งของตัวเองและพ่อแม่ของภรรยาอีกด้วย แน่นอนที่สุดการทำนาคืออาชีพที่ไม่สามารถปฏิเสธได้สำหรับที่ต้องกลับไปใช้ชีวิตที่นี่

คุณสมศักดิ์ เล่าว่า พ่อตาแม่ยายมีเนื้อที่เป็นสวนอยู่ประมาณ 4 ไร่ ปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์เต็มพื้นที่ไว้นานมากแล้ว ระยะหลังเริ่มให้ผลผลิตน้อยลง อยู่ห่างจากบ้านพักไปอีกประมาณ 300 เมตร คุณสมศักดิ์จึงได้ปรึกษากับครอบครัว ในที่สุดลงมติเอกฉันท์ที่จะเอาต้นหิมพานต์ออกให้หมดทั้งสวนเพื่อที่จะปรับปรุงให้เป็นสวนผสมแบบที่ใช้แรงงานครอบครัวเท่านั้นมาเป็นตัวช่วย ต้องการปลูกทุกอย่างที่กินและสามารถนำเอาไปขายได้อีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยลืมเลือนไปจากความคิดของคุณสมศักดิ์ คือ ต้องปลูกชะอมไม้เค็ด 2009

คุณสมศักดิ์ เล่าต่อไปว่า หลายปีมาแล้วได้ไปเที่ยวในงานเกี่ยวกับเกษตรในตัวจังหวัด และได้ซื้อกิ่งพันธุ์ชะอมมาทดลองปลูกดู ประมาณ 30 ต้น ไว้หลังบ้านพักอาศัย ในระหว่างรอการทำสวนผสมหลังจากที่ได้จัดการกับต้นมะม่วงหิมพานต์ออกไปเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างปรับปรุงพื้นที่ให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดินหรือเรื่องของการขุดบ่อน้ำไว้ใช้ในสวนผสมนี้

เมื่อปรับปรุงพื้นที่เรียบร้อย ต่อมาปี 2559 คุณสมศักดิ์จึงได้ปรึกษากับลูกสาวถึงเรื่องราวของชะอมไม้เค็ด 2009 ที่ได้ติดตามจากคอลัมน์นี้ หลังจากนั้นลูกสาวจึงได้ติดต่อกับผม และสุดท้ายได้สั่งชะอมไม้เค็ด 2009 ชุดแรกโดยส่งทางไปรษณีย์ 200 กิ่ง พร้อมลงมือปลูกชุดแรกกับลูกชายและคุณปราณี เพื่อเป็นการเปรียบเทียบกับชะอมที่ปลูกอยู่ก่อนหน้านี้ที่ปลูกอยู่ก่อนแล้ว หลังจากที่ชะอมไม้เค็ด 2009 ได้ให้ยอดออกมา คุณสมศักดิ์บอกกับผมอย่างชัดเจนด้วยเสียงดังๆ ว่า ยอดชะอมไม้เค็ด 2009 นั้นจะโตกว่าต้นที่คุณสมศักดิ์ได้ซื้อมาทดลองปลูกครั้งแรกอย่างเห็นได้ชัดด้วยตาตัวเอง

เมื่อเช่นนี้อีกประมาณ 2 เดือนต่อมา จึงให้ลูกสาวสั่งกิ่งพันธุ์ชะอมไม้เค็ด 2009 ไปอีก 1 กล่อง 200 ต้น เพื่อปลูกเพิ่มลงไปอีก เมื่อเก็บยอดชะอมส่งขายให้แม่ค้าที่รับพืชผักทุกชนิดในหมู่บ้านเพื่อนำไปขายที่ตลาดในตัวจังหวัดศรีสะเกษทุกวัน แม่ค้าได้บอกกับคุณสมศักดิ์ว่า สำหรับยอดชะอมที่ปลูกนั้นหากเป็นยอดโตเช่นนี้เก็บเท่าไหร่ในแต่ละครั้งจะรับไว้ทั้งหมด ในที่สุดคุณสมศักดิ์จึงให้ลูกสาวสั่งกิ่งพันธุ์ชะอมไม้เค็ด 2009 เพิ่มไปอีก 2 กล่อง จำนวน 400 ต้น ในเวลาต่อมา

วันนี้ ปี 2561 คุณสมศักดิ์มีต้นชะอมไม้เค็ด 2009 ในแปลงสวนผสมทั้งสิ้นประมาณ 800 ต้น เป็นแปลงที่สุดสวย สะอาด น่าสัมผัสอย่างยิ่ง เนื่องจากระดับของต้นชะอมจะเป็นแนวสวยงาม เรียบร้อย โดยคุณสมศักดิ์ได้ปลูกระยะห่างของต้น คือ 50 เซนติเมตร ระยะห่างของแถวสำหรับไว้เดินเก็บยอด และสามารถกำจัดวัชพืชในแปลงชะอมได้สะดวก 1.20 เมตร ตามที่ได้คุยกับผมก่อนหน้านั้น

คุณสมศักดิ์ดูแลเอาใจใส่ทุกขั้นตอนจนเป็นแปลงชะอมที่สมบูรณ์ที่สุด พร้อมที่จะเก็บยอดได้ทุกวันอย่างมีความสุข และมีประโยคที่คุณสมศักดิ์บอกผมแบบได้ยินแล้วเป็นปลื้มไปเลยครับ “ผมปลูกชะอมไม้เค็ด 2009 ตามที่อาจารย์แนะนำทุกอย่างโดยเฉพาะระยะห่างของต้นนั้นทุกต้นผมได้ใช้ตลับเมตรวัดเพื่อให้ระยะห่างเท่ากันทุกต้นเลยครับ” อะไรจะขนาดนั้นเยี่ยมมากครับ

คุณสมศักดิ์ เล่าต่อว่า ทุกเช้าประมาณตี 5 กว่าจะไปเก็บยอดชะอมกับคุณปราณี ศรีภรรยาที่คุณสมศักดิ์บอกว่า จะมีฝีมือเก็บยอดได้อย่างรวดเร็วกว่า พร้อมกับตัดแต่งต้นไปด้วยทุกครั้งที่ตัดยอดชะอมเพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาตัดแต่งต้นอีกภายหลัง จะทำให้ง่ายต่อการเก็บยอดเมื่อเวียนกลับมาถึงอีกครั้งหนึ่งจะทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น คุณสมศักดิ์บอกอีกว่า ที่ต้องไปเก็บในช่วงระยะเวลานี้เนื่องจากยอดชะอมจะสดสวยและยอดชะอมไม้เค็ด 2009 นั้นจะมีหนามตามโคนยอดเล็กน้อยด้วย จะมีลักษณะนิ่มอีกต่างหากจนสามารถเคี้ยวกินได้ชนิดมันส์ติดเหงือกอย่างที่ผมเขียนไว้เสมอ

ใช้เวลาประมาณ 8 โมงครึ่งถึง 9 โมง จะเสร็จสิ้นโดยเก็บเป็นแถวตามที่ได้กำหนดไว้ในแต่ละวัน จนวนมาครบเช่นนี้ให้ได้ตลอด 1 สัปดาห์พอดี แต่หากว่าวันไหนคุณสมศักดิ์และคุณปราณีมีธุระสำหรับเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ทั้ง 2 ท่านจะรีบมาเก็บยอดชะอมให้เช้าและเร็วกว่าเดิมให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน เพราะแม่ค้าจะขอร้องเสมอว่าให้มียอดชะอมไม้เค็ด 2009 ทุกวันมากน้อยไม่ว่ากันสำหรับผักชนิดอื่นไม่เป็นไร

เก็บยอดชะอมเสร็จกลับมาทำแพที่บ้าน หนักแพละ 1 ขีด โดยใช้เวลาแค่ครึ่งวันเช้าหน้าที่จะเป็นของคุณปราณี ศรีภรรยา ที่คุณสมศักดิ์บอกผมว่าสามารถทำได้อย่างรวดเร็วสมบูรณ์แบบกว่าผมมาก ให้ได้เฉลี่ยประมาณ 80 แพ สำหรับในทุกๆ 1 วัน สำหรับราคานั้นคุณสมศักดิ์บอกว่า ทั่วไปแม่ค้าจะให้แพละ 5 บาท เป็นอย่างต่ำ ราคาจะขึ้นอยู่ตามฤดูกาล แต่หากว่าเป็นหน้าหนาวจะได้ 7-10 บาท ต่อแพ

สำหรับช่วงบ่ายทั้งคู่มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีก เพราะภายในสวนผสมนั้นคุณสมศักดิ์ได้ปลูกผักต่างๆ อีกหลายอย่าง ถั่วฝักยาว แตงกวา ฟักทอง พริก มะเขือ ข้าวโพด กล้วย เป็นต้น ไว้เต็มเนื้อที่ในสวนผสม แต่มีชะอมไม้เค็ด 2009 เป็นตัวพระเอก ตัวอื่นคือพระรอง แต่ทั้งพระเอกและพระรองล้วนเป็นที่ต้องการของแม่ค้าทั้งสิ้น

ระบบน้ำ คุณสมศักดิ์ใช้ระบบสปริงเกลอร์ จะทำให้ทุกอย่างที่ปลูกในสวนสามารถได้น้ำทั่วถึงหมดในครั้งเดียวที่เปิดสปริงเกลอร์ ศัตรูร้ายสำหรับชะอมนั้นคุณสมศักดิ์บอกว่า จะมีหนอนเขียว มีลักษณะทั้งตัวแข็งและนิ่ม เป็นหนอนผีเสื้อตัวเล็กๆ เมื่อเราไปถูกตัวมัน มันจะชักใยยึดลงด้านล่างทันที แต่พอเราเผลอเมื่อไหร่มันก็จะกลับขึ้นไปใหม่เพื่อเตรียมกินยอดชะอม กับศัตรูร้ายอีกตัวคือมดแดงตัวเล็กๆ ที่คุณสมศักดิ์บอกว่าจะกัดเจ็บมาก และพวกนี้จะชอบไปอาศัยเดินเล่นที่ยอดชะอม แต่เมื่อมีแดดจะลงมาที่โคนต้น ทั้ง 2 ชนิดนี้ต้องกำจัดทันที เพราะคุณชะอมจะรังเกียจมากที่สุดครับ คุณสมศักดิ์บอกเช่นนี้ครับ

การดูแลแปลงชะอมไม้เค็ด 2009 และพืชผักทุกชนิดนั้น คุณสมศักดิ์จะไม่ใช้ปุ๋ยเคมีทั้งสิ้น ใช้แต่ปุ๋ยอินทรีย์เท่านั้น โดยมากจะเป็นปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดกำจัดวัชพืชเช่นกัน ใช้แรงงานภายในครอบครัว โดยเฉพาะส่วนใหญ่จะเป็นฝีมือของ ยายมี แผลงฤทธิ์ แม่ยายผมเองครับ คุณสมศักดิ์บอกผมเช่นนั้นครับ และบอกต่ออีกว่า กำลังวางแผนปลูกชะอมไม้เค็ด 2009 เพิ่มอีกในปีนี้

 

แฟนๆ ท่านใดสนใจ ติดต่อไปเยี่ยมหาคุณสมศักดิ์ได้ครับ ติดต่อโทร. (085) 676-9852 ก่อนจากกัน คุณสมศักดิ์บอกกับผมแบบเสียงดังฟังชัด “อาจารย์ครับผมปลูกชะอมไม้เค็ด 2009 ไปแล้วผมจะบอกแฟนตลอดว่าเหมือนเรามี ATM จริงๆ ครับ” เยี่ยมมากครับ ไม่ง่ายนะครับสำหรับเรื่องราวที่จะเกิดได้เช่นนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรจะยากสำหรับคุณสมศักดิ์และคุณปราณี เพราะคุณคือคนขยันและอดทน สุดยอดมาก จึงมีวันนี้วันที่คุณสามารถ เดินห่าง…จากความจน ที่คุณบอกผมว่าคุณชอบประโยคนี้มากๆ ขอบพระคุณมากเช่นกันครับ

หรือแฟนๆ ท่านใดหากต้องการไปเยี่ยมหาที่สวนชะอมไม้เค็ด 2009 ที่ปราจีนบุรี เพื่อศึกษาก่อนตัดสินใจ เรียนเชิญด้วยความยินดีครับ ไร้ค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หรือต้องการกิ่งพันธุ์ชะอมไม้เค็ด 2009 ที่สดและสมบูรณ์ที่สุดพร้อมทุกรายละเอียดกรุณาติดต่อ คุณสุพล แสงทอง โทร. (084) 558-8639 ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ

แฟนๆ ครับ เมื่อหมดลมหายใจหมายถึงการสิ้นสุดกับเวลาพร้อมหนึ่งชีวิตของเราในทันที ทุกเรื่องราวของเราต่อจากนี้จะค่อยๆ ถูกลืมและเลือนหายไปในที่สุด ไม่มีใครหรอกที่จะมาจดจำหรือถามหาเราอีกต่อไป เราจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปลงทุนกับใครหรือไปเป็นหุ้นส่วนกับใครทั้งนั้น ตัวเรานี่แหละคือสินทรัพย์ที่ดีที่สุดยอดของที่สุด ลงทุนกับตัวเราให้มากที่สุด ทุกคนที่หายใจอยู่ไม่มีใครโง่กว่าใครหรอกครับ ในหนึ่งชีวิตของเรานั้นไม่ดีใจก็ต้องเสียใจ มันก็มีอยู่แค่นี้เองเพราะนี่แหละคือชีวิต ขอเพียงจำไว้ว่าอะไรที่ทำแล้วลำบากคนอื่นอย่าทำ แต่อะไรที่ทำลงไปแล้วสบายใจทำไปเถอะ เพราะนี่คือชีวิตเรา สุดท้ายเมื่อเราได้แค่ไหนก็แค่นั้นเพราะนี่คือความจริงของชีวิตในวันนี้ ขอบคุณ สวัสดี