สตรอเบอรี่-ลิลลี่-ทิวลิป ปลูกได้ ที่บ้านไร่ อุทัยธานี

ในช่วงหน้าหนาวเป็นต้นไป ทางจังหวัดอุทัยธานีภูมิใจนำเสนอโครงการไม้เมืองหนาว ที่ศูนย์พัฒนาสังคมที่ 73 บ้านอีมาดอีทราย ตำบลแก่นมะกรูด อันเป็นเนินเขาและภูเขาน้อยใหญ่เรียงรายกันอยู่ โดยแปลงทดลองปลูกไม้เมืองหนาวนั้น มีทั้งดอกทิวลิป ดอกลิลลี่ กะหล่ำปลี และสตรอเบอรี่ ฯลฯ

ช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปชมโครงการไม้เมืองหนาวและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก โดยเฉพาะในวันหยุดเทศกาลและวันเสาร์-อาทิตย์ และหลายคนต่างประหลาดใจ ไม่คิดว่าที่อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี จะสามารถปลูกไม้เมืองหนาวได้เช่นเดียวกับบนดอยในภาคเหนือ อย่างที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย

จุดที่ปลูกแปลงทดลองไม้เมืองหนาว อยู่สูงจากน้ำระดับทะเล 700 เมตร ส่วนยอดเขาสูงที่เห็นอยู่ไกลๆ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร เรียกว่า เขาพะอุย อากาศจะเย็นมาก  จึงนำไม้เมืองหนาวมาปลูกในสถานที่แห่งนี้ เพราะสภาพอากาศเอื้ออำนวย อุณหภูมิช่วงกลางวันกับกลางคืนไม่แตกต่างกันมาก ตอนกลางวันช่วงฤดูหนาวแตกต่างกันไม่ถึง 10 องศาเซลเซียส กลางวันอุณหภูมิอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส กลางคืนประมาณ 15-18 องศาเซลเซียส เหมาะกับการปลูกพืชผักเมืองหนาว

ที่ผ่านมา ที่นี่เริ่มจากปลูกผักเมืองหนาวก่อน อาทิ กะหล่ำปลี บร็อกโคลี่ ฟักทองญี่ปุ่น โดยของบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ มาดำเนินการ รวมกลุ่มชาวบ้าน ประมาณ 15 คน นำพืชผักเมืองหนาวมาทดลองปลูก ตอนหลังนำสตรอเบอรี่จากสะเมิงมาปลูก ประมาณ 10 ต้น ปรากฏว่าได้ผลดี ต่อมาก็ขยายพื้นที่ปลูกสตอเบอรี่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

สาเหตุสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐหันมาส่งเสริมให้ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ปลูกไม้เมืองหนาว เพราะอยากให้ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงเลิกทำไร่ข้าวโพดเลื่อนลอย  ซึ่งเป็นการทำลายป่าและแหล่งต้นน้ำลำธารที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และเขื่อนศรีนครินทร์ ทั้งยังเกิดปัญหาสารเคมีตกค้างในแหล่งน้ำอีกด้วย

พวกชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อายุประมาณ 14-15 ปี จะเริ่มแต่งงานแล้ว หลังแต่งงานสร้างครอบครัวใหม่ พวกเขาจะแยกที่ทำกิน บุกรุกผืนป่าเข้าไปเรื่อยๆ เรื่องสารเคมีก็มีปัญหาเข้ามามาก ในช่วงฤดูฝนถ้าน้ำไหลบ่าเข้ามา ต้นข้าวโพดจะหักล้มเสียหาย ต้องใช้งบประมาณราชการเข้ามาช่วยเหลือปีละหลายล้านบาท

ดังนั้น การส่งเสริมปลูกพืชเมืองหนาว ที่ใช้พื้นที่น้อย เช่น ปลูกสตรอเบอรี่ ปลูกผักเช่น กะหล่ำปลี หรือสตรอเบอรี่ ไร่หนึ่งถ้าจะเปรียบเทียบกับทำข้าวโพดก็ประมาณ 40-50 ไร่ แต่ในจำนวน 1 ไร่ ทำสตรอเบอรี่จะมีรายได้ถึง 400,000 บาท ทำไร่ข้าวโพดต้องใช้ 40-50 ไร่ จึงจะมีรายได้ 400,000-500,000 บาท นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องการทำลายป่าแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดินได้อีกด้วยŽ

ด้วยรายได้ที่มากถึงหลักแสนในการใช้เวลาปลูกไม่กี่เดือน ทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ซึ่งหน่วยงานราชการเคยพาไปศึกษาดูงานการปลูกไม้เมืองหนาวที่ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ ต่างตอบรับและให้ความสนใจปลูกกันมาก ประกอบกับระยะหลังทางจังหวัดเห็นความสำคัญ ให้งบประมาณมาเพิ่มขึ้นอีกหลายล้านบาท ทำให้โครงการปลูกไม้เมืองหนาวของที่นี่มีแนวโน้มสดใสและถือเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของเมือง

สตรอเบอรี่ที่ปลูกในแหล่งนี้  มีรสชาติไม่แตกต่างจากสตรอเบอรี่ที่จังหวัดเชียงใหม่หรือเชียงรายเลย แถมหน่วยงานภาครัฐยังส่งเสริมชาวบ้านปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ โดยใช้จุลินทรีย์ควบคุมโรคและแมลง จึงมั่นใจได้ว่า สตรอเบอรี่จากแหล่งนี้ปราศจากสารเคมีแน่นอน

นอกจากคุณภาพและรสชาติจะไม่แตกต่างจากสเตรอเบอรี่ภาคเหนือแล้ว ผลผลิตต่อไร่และราคาขายก็อยู่ในระดับเดียวกัน ฤดูการปลูกเริ่มตั้งแต่กันยายน พอถึงพฤศจิกายนแสงจะสั้น จะเข้าหน้าหนาวก็จะออกดอก จะติดลูกชุดแรก ประมาณ 15 พฤศจิกายน จะเก็บได้ไปจนถึงเดือนเมษายน ช่วงวันสั้นยังอยู่ ปลายมีนาคมพอเข้าช่วงวันแสงยาว สตรอเบอรี่จะไม่ออกดอกแล้ว แต่ต้นยังคงอยู่ได้ตลอด ขนาดลูกชุดแรกๆ จะเล็กหน่อย รุ่นหลังๆ อยู่ที่ 25-30 ลูก ต่อกิโลกรัม

สตรอเบอรี่ของที่นี่จะมีกลิ่นหอมไม่แพ้ทางอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ แถมมีคุณภาพดี  เนื้อสตรอเบอรี่ไม่เละเพราะคุมน้ำอยู่ ช่วงออกผลผลิตช่วงลูกใกล้สุก จะหยุดให้น้ำเลย จะทำให้เนื้อแข็ง แล้วก็รสชาติดีŽ

ไม้ดอกเมืองหนาว 

ตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ ปลูกไม้เมืองหนาว เช่น ดอกลิลลี่ ก็ขายดีเช่นกัน เพราะสินค้าจากที่นี่ใช้เวลาขนส่ง 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ส่งถึงตลาดกทม.แล้ว ไม้ตัดดอกมีคุณภาพสดใหม่ ถูกใจพ่อค้า เพราะดอกลิลลี่มีคุณภาพดี ทั้งเรื่องความหนาของดอก ขนาดดอกใหญ่ ลักษณะก้าน และลักษณะต้นรูปทรงสวยงาม เพราะปลูกในสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม มีการดูแลแปลงปลูกอย่างดี

นอกจากนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านไร่ กับสำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี และทางจังหวัดอุทัยธานี ยังส่งเสริมให้ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง อยู่ในตำบลแก่นมะกรูดปลูกชา กาแฟ และไม้ผลเมืองหนาว ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ อะโวกาโด บ๊วย และมะคาเดเมียนัท ก็ได้ผลดีเช่นกัน

หากใครสนใจอยากเที่ยวชมความงามของไม้ดอกเมืองหนาว เช่น ดอกทิวลิป และลิลลี่ หรือสนใจอยากชิมสตรอเบอรี่ปลอดสารของตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี โทร.ไปสอบถามได้  ที่สำนักงานเกษตรอำเภอบ้านไร่ โทร. (056) 539-117