เกษตรกรเมืองกาญจน์ เจ๋ง! มีไม้ผลหลากหลายขายได้ตลอดทั้งปี ด้วยวิธีปลูกแบบธรรมชาติ

วิธีลดความเสี่ยงด้วยการปรับเปลี่ยนจากไม้ผลเชิงเดี่ยวมาเป็นแบบผสมผสาน ถือเป็นแนวทางประกอบอาชีพของเกษตรกรยุคใหม่ที่นับวันจะประสบความสำเร็จกันมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างเช่น “ไร่คุณชาย” ที่ไทรโยค เมืองกาญจน์ ที่ประสบความสำเร็จจากการปลูกไม้ผลหลายชนิดแบบผสมผสานด้วยวิธีทางธรรมชาติ ควบคู่กับหลักวิชาการ ผนวกกับภูมิปัญญาดั้งเดิม จึงช่วยลดโรค/แมลง ลดต้นทุน สร้างคุณภาพผลไม้เกรดพรีเมี่ยมเน้นส่งขายตลาดนอก พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวดึงชาวต่างชาติเข้ามาอุดหนุนสินค้ากันอย่างคึกคัก

คุณสมชาย แซ่ตัน เจ้าของ “ไร่คุณชาย” ที่ตั้งอยู่เลขที่ 296 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เล่าว่า เดิมครอบครัวยึดอาชีพทำสวนอยู่แล้ว ส่วนตัวเขากลับออกไปตระเวนหางานตามรีสอร์ตและโรงแรมในละแวกบ้าน เมื่อมีเวลาว่างจะมาช่วยดูแลสวนมะม่วงของคุณพ่อ

กระทั่งเกิดความคิดทดลองทำมะม่วงนอกฤดูด้วยการศึกษาหาความรู้จากแผ่นพับที่ได้รับแจก จนประสบความสำเร็จได้ผลดีมาก แล้วยังต่อยอดด้วยการผลิตมะม่วงนอกฤดูส่งขายให้กับญี่ปุ่นสร้างรายได้อย่างงดงาม แต่ภายหลังต้องหยุดชะงัก เพราะจากผลของมาตรการเข้มงวดเรื่องคุณภาพผลไม้ส่งออก

คุณสมชาย แซ่ตัน เจ้าของ “ไร่คุณชาย”

ขณะเดียวกัน ในสวนมะม่วงมีต้นมะนาวปลูกแซมไว้ ดังนั้น คุณสมชายจึงเบนเข็มมาทำมะนาวนอกฤดูสำหรับไว้ขายตลาดในประเทศแทน เป็นพันธุ์มะนาวแป้นรำไพ ซึ่งพันธุ์นี้ตลาดมีความต้องการแล้วราคาดีมาก

คุณสมชาย ใช้แนวทางการทำมะนาวนอกฤดูของเขาเช่นเดียวกับเมื่อครั้งทำมะม่วงนอกฤดู ซึ่งจะไม่ใช้ราดสาร แต่จะใช้วิธีสร้างความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ พร้อมกับเผยวิธีการทำมะนาวนอกฤดูในแบบฉบับของตัวเองว่าในช่วงต้นเดือนสิงหาคม จะใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 จำนวน 1 ครั้ง แล้วปลายเดือนใส่อีกสัก 1 ครั้ง ในอัตรา 2-3 ขีด ต่อต้น (ต้องเริ่มกับต้นมะนาวอายุ 5 ปี) หลังจากนั้น ใช้ปุ๋ยทางใบสูตร 0-52-34 ฉีดพ่นช่วย

ขณะที่จะต้องแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง ควรตัดกิ่งด้านในที่หนาแน่นออกให้หมด เพื่อให้แสงแดดส่องผ่านได้ง่าย แล้วให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-0-46 ในอัตราส่วน 300 กรัม ใช้ไทโอยูเรีย 30 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสาหร่ายอีก 20 ซีซี แล้วฉีดพ่นทั้งต้นให้ชุ่ม หลังจากนั้นอีก 7 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หว่านลงดินแล้วรดน้ำตามในทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละครั้ง และระหว่างนั้นถ้าฝนตกไม่ต้องให้น้ำ แล้วให้เสริมแคลเซียมโบรอนด้วย

คุณสมชาย กล่าวยอมรับว่า การราดสารเพื่อให้มีผลผลิตนอกฤดูกาลเป็นแนวทางที่สะดวก แล้วขายได้ราคาดี แต่มีข้อเสียตรงที่จะทำให้พืชมีอายุสั้น พร้อมทั้งชี้ว่าแนวทางของเขาเป็นไปตามธรรมชาติที่ช่วยทำให้ดอกมีความสมบูรณ์มากกว่า ส่งผลให้มีผลผลิตดกและมีคุณภาพน้ำหนักดีมากด้วย

มะนาวที่คุณสมชายปลูกมีจำนวนกว่า 1,000 ต้น โดยเน้นผลิตมะนาวนอกฤดูเท่านั้น เพราะราคาดี ถึงแม้จะมีผลผลิตทยอยออกมาบ้าง แต่เขาไม่ต้องการ ทั้งนี้ เพื่อจะปล่อยให้ต้นมะนาวได้พัก ระหว่างนั้นจะตัดแต่งกิ่งและบำรุงดิน เพื่อรอเตรียมการผลิตในรุ่นต่อไป

ผลสำเร็จของมะนาวทำให้คุณสมชายวางแผนปลูกไม้ผลชนิดอื่นในพื้นที่ทั้งหมด 40 ไร่ ตามมาอีก ไม่ว่าจะเป็น มะละกอฮอลแลนด์ กล้วยไข่ กล้วยหอม เงาะ ปลูกอยู่รวมกันโดยอาศัยความเป็นธรรมชาติ ตลอดจนคุณสมบัติเฉพาะที่มีในไม้ผลแต่ละชนิดช่วยเกื้อกูลกัน

นอกจากการปลูกไม้ผลร่วมในแปลงเดียวกันแล้ว ยังต้องปลูกสลับแถวเพื่อป้องกันการเกิดโรคไวรัส ซึ่งแนวทางนี้ช่วยให้อัตราการเป็นโรคไวรัสลดลงมาก โดยปกติในพื้นที่ละแวกนี้จะปลูกมะละกอฮอลแลนด์ไม่ได้เลย เพราะเจอโรคไวรัสอย่างหนัก แต่พอได้ทดลองปลูกมะละกอ จำนวน 2 แถว สลับกับกล้วยไข่จำนวน 1 แถว ปรากฏว่าอัตราการเป็นโรคไวรัสเหลือไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ แล้วยังพบว่าไม่มีแมลงศัตรูมารบกวนเหมือนอย่างเมื่อก่อน จึงทำให้ช่วยลดต้นทุนการใช้ยา

ขณะเดียวกัน ผลมะละกอของต้นที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกมักจะถูกแดดเผาจนไหม้ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อปลูกกล้วยไข่สลับทำให้ผลมะละกอได้รับร่มเงาจากใบกล้วย จึงทำให้มีความสมบูรณ์มาก ทั้งยังช่วยทำให้ได้จำนวนผลผลิตเพิ่มขึ้น สมบูรณ์มากขึ้น แล้วมีคุณภาพอีก

นักท่องเที่ยวสนใจในไร่ ถ่ายรูปกันคึกคัก

สำหรับสวนของคุณสมชายใช้ปุ๋ยคอกเพื่อเสริมสร้างคุณภาพไม้ผลเป็นหลัก ทั้งนี้ การใส่ปุ๋ยบำรุงต้นจะใช้หลักทางวิชาการผสมกับความเป็นธรรมชาติร่วมกับแนวทางภูมิปัญญาของชาวบ้านในไม้ผลแต่ละชนิด พร้อมกับชี้ว่ามีหลายคนเข้าใจว่าถ้าใส่ปุ๋ยคอกเพียงครั้งเดียวพืชจะอยู่ได้ไปถึง 3 เดือน แต่พอเขาทำเช่นนั้นกับกล้วยและมะละกอพบว่าใบเหลือง จึงอาจจำเป็นต้องสลับกับเคมี (เล็กน้อย) บ้าง เนื่องจากปุ๋ยคอกมีธาตุอาหารน้อย แต่ข้อดีของปุ๋ยคอกอยู่ตรงที่ช่วยปรับโครงสร้างดินให้ร่วนซุยจึงทำให้พืชได้รับอาหารในดินอย่างเต็มที่

แนวทางการปลูกไม้ผลแบบผสมผสานเพื่อให้ธรรมชาติเกื้อกูลกัน จึงทำให้ผลไม้ทุกชนิดในสวนคุณชายมีคุณภาพสมบูรณ์เต็มที่ ทั้งขนาด รสชาติ และทรงผล อีกทั้งยังมีผลผลิตสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปี ในบางเวลามีพร้อมกัน หรือบางเวลาอาจเหลื่อมกันเล็กน้อย

มะละกอฮอลแลนด์เตรียมแพ็กส่งลูกค้า

ฉะนั้น มะละกอฮอลแลนด์ที่ปลูกมีจำนวนพันกว่าต้นจะได้ผลผลิตรวมต่อปีเฉลี่ยประมาณ 90 กว่าตัน มีน้ำหนักต่อผลไม่ต่ำกว่า 1 กิโลกรัม กล้วยไข่ ให้ผลผลิตดีมาก ปลูกแล้วส่งขายตลาดต่างประเทศ

ไม่เพียงใส่ใจกับการปลูกไม้ผลเพื่อให้มีคุณภาพ แต่คุณสมชายมองว่าการรักษาความชุ่มชื้นในสวนจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติให้ดีขึ้นด้วย เหตุนี้เองบริเวณทางเดินภายในสวนถูกปูด้วยหญ้ามาเลเซียเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูสวยงามเป็นระเบียบ อีกทั้งยังช่วยรักษาหน้าดินให้มีความสมบูรณ์ รวมถึงยังช่วยรักษาอุณหภูมิในสวนได้อย่างดี โดยเฉพาะหน้าร้อนอุณหภูมิในสวนจะไม่ร้อนมาก เพราะหญ้าที่คลุมดินได้อุ้มความชื้นไว้แล้วจะคายความชื้นออกมา

นอกจากไม้ผลหลักที่กล่าวมาแล้วบริเวณรอบที่ดินของคุณสมชายยังปลูกพืชไม้ผลชนิดอื่นๆ อีก อย่าง ฝรั่ง ทุเรียน หรือผักใบ ไม้ดอก เพื่อเป็นการวางแผนดึงนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนจีน คนรัสเซีย ที่มีตลอดทั้งปีสลับหมุนเวียนกัน ซึ่งวัตถุประสงค์ที่ต้องการจัดสวนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพราะต้องการให้ได้เรียนรู้วิถีชีวิตการเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวสวน ให้มารู้จักกับไม้ผลชนิดต่างๆ รวมถึงยังมีการนำไม้ผล พืชผัก และของใช้ทางหัตถกรรมมาจำหน่ายด้วย

ปัจจุบัน ไร่คุณชายมีไม้ผลไว้จำหน่ายตลอดทั้งปี นอกจากนั้น ยังมีไม้ดอกสวยๆ อย่าง ดาหรา ตัดส่งขายตามรีสอร์ตและโรงแรมเพื่อสร้างรายได้ สำหรับปี 2561 คุณสมชายวางแผนเชิงรุกด้วยการปลูกไม้ผลเพิ่มอีกหลายชนิด พร้อมได้รับความร่วมมือกับทางชุมชนคุณธรรมพุตะเคียน เพื่อต้องการสร้างเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรให้มีความสมบูรณ์แบบต้อนรับกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น

คุณสมชาย ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความสำเร็จของชาวสวนผลไม้ ด้วยการนำความรู้ที่เป็นทั้งภูมิปัญญา หลักวิชาการ และความเป็นธรรมชาติมายึดโยงเชื่อมต่อกันจนเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีหรือสารเคมี จึงนับเป็นตลาดสินค้าที่มีความก้าวหน้าอีกแห่ง