ฟาร์มผักเจริญโชคไฮโดรโปนิกส์ งานเด่น เมืองดอกบัว

ผักไฮโดรโปนิกส์ (hydroponics) เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน นับเป็นวิธีการใหม่ในการปลูกพืช โดยเฉพาะการปลูกผักและพืชที่ใช้เป็นอาหาร เนื่องจากประหยัดพื้นที่ ทำให้ได้พืชผักที่สะอาด การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ถือได้ว่าเป็นเทรนด์การปลูกผักแบบใหม่ที่กำลังมาแรง เนื่องจากมีขั้นตอนการปลูก บำรุง ดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก มีพื้นที่น้อยๆ ก็ปลูกได้ ไม่ต้องพึ่งดิน ไม่ต้องออกแรงมาก และเหนื่อยน้อย แต่ผลที่ได้คุ้มค่า เพราะว่าได้ผักสะอาด มีรสชาติอร่อย ผักมีความสวยงามน่ารับประทาน มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นุ่มและกรอบ และยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนและตนเองอย่างงดงามอีกด้วย

คุณภรภัทร วุฒิพรหม

คุณเจริญโชค โรจน์รังสิกุล

คุณเจริญโชค โรจน์รังสิกุล หรือ คุณอู๊ด อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ที่ 10 ตำบลม่วงสามสิบ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอีกผู้หนึ่งที่เปิดฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์จำหน่าย ภายใต้ชื่อ เจริญโชคไฮโดรโปนิกส์ โดยสร้างโรงเรือนหรือฟาร์มขึ้นที่บ้านของตนเอง ด้วยการแบ่งที่ดินที่มีอยู่ทั้งหมดมาทำฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ จำนวน 2 ไร่ สามารถสร้างรายได้เดือนละเกือบหนึ่งแสนบาท

คุณอู๊ด เล่าให้ฟังว่า ได้แบ่งที่ดินออกมา 2 ไร่ เพื่อปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ผลิตแบบผักปลอดสารพิษ โดยปลูกทั้งหมด 32 แปลง โดยแยกเป็น ปลูกกรีนโอ๊ค 10 แปลง เรดโอ๊ค 10 แปลง ฟินเล่ 5 แปลง เบบี้คอส 2 แปลง เรดคอรัล 2 แปลง และบัตเตอร์เฮด 1 แปลง ที่ปลูกเยอะที่สุดคือ กรีนโอ๊คกับเรดโอ๊ค เพราะว่าขายดีและมีลูกค้าสั่งซื้อเป็นจำนวนมากเนื่องจากการเก็บผักในแต่ละรอบ จะปรากฏว่า กรีนโอ๊คกับเรดโอ๊คจะมียอดสั่งเยอะมาก คือ ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดสั่ง

คุณภาพเยี่ยม

ในการเก็บเกี่ยวแต่ละรอบจะเก็บตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามา แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะสั่งเป็นกรีนโอ๊คกับเรดโอ๊ค ส่วนผักตัวอื่นจะมีผสมมาครั้งละ 10-15 กิโลกรัม ส่วนลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มร้านอาหาร และลูกค้าทั่วไปในจังหวัดอุบลราชธานีและจังหวัดใกล้เคียง ในด้านกำลังผลิตของฟาร์มสามารถผลิตผักสลัดได้ 900-1,000 กิโลกรัม ต่อเดือน หรือ 80 กิโลกรัม ต่อ 2 วัน

คุณอู๊ด บอกว่า ตนและคุณภรภัทร วุฒิพรหม ผู้เป็นภรรยา ได้เริ่มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 โดยครั้งแรกก็ปลูก จำนวน 30 แปลง แปลงผักมีขนาดกว้าง 1.40 เมตร ยาว 12 เมตร แต่ละแปลง มีทั้งหมด 7 ราง โดย 1 แปลง จะปลูกได้ 336 ต้น เก็บได้ประมาณ 40 กิโลกรัม ต่อแปลง

และต่อมาใน ปี 2561 ผักขายดีมาก จึงได้ทำเพิ่มอีก 2 แปลง (แปลงขนาด 6 เมตร) โดยผัก 1 แปลง จะปลูกได้ 170 ต้น ผักจะโตเต็มที่ในระยะเวลา 30-40 วัน จะเก็บได้ 20 กิโลกรัม ซึ่ง 1 กิโลกรัม จะมีประมาณ 7 ต้น

สำหรับเรื่องรายได้และค่าใช้จ่ายนั้น ก็จะแยกเป็น ค่าไฟฟ้า ค่าแรงงาน ค่าน้ำมันรถ รวมแล้วก็ตกเดือนละ 29,900 บาท ยังดีที่ค่าน้ำไม่ต้องจ่าย เพราะว่าใช้น้ำบาดาล

คัดแยก

ส่วนรายได้นั้นก็จะมาจากค่าผัก สัปดาห์ละ 2 รอบ รอบละ 60 กิโลกรัม ขายในราคา กิโลกรัมละ 90 บาท ถ้า 2 รอบ ก็เป็นเงิน 10,800 บาท และ ใน 1 เดือน ส่ง 8 รอบ เป็นเงิน 86,400 บาท

เมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว จะมีรายได้ตกเดือนละ 56,500 บาท เป็นอย่างต่ำ หรือบางเดือนมียอดสั่งจากลูกค้าเพิ่มขึ้น รายได้ก็จะเพิ่มขึ้น เป็นเดือนละ 70,000 บาท ก็มี และในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ยอดสั่งผักจะเยอะหน่อย รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก

เพาะเมล็ด

สำหรับการปลูกและการบำรุง ดูแลรักษานั้นเจ้าของบอกว่า อันดับแรกเป็นการเพาะเมล็ดใส่ในฟองน้ำ ใส่ถาดไว้ 7-10 วัน จะเริ่มมีใบเลี้ยง แล้วย้ายลงแปลงอนุบาล อนุบาลหรืออยู่ในแปลงอนุบาล 14 วัน

และเมื่อครบ 21 วัน ก็ย้ายลงแปลงปลูก รวมระยะเวลาตั้งแต่วันปลูก จนถึงวันเก็บเกี่ยว 40-45 วัน ซึ่งที่นี่เลี้ยงด้วยปุ๋ยแบบอ่อน เพื่อไม่ให้เป็นการสะสมไนเตรตในผัก และก่อนการเก็บเกี่ยวจะมีการตรวจไนเตรตทุกครั้ง

ส่วนเรื่องของแมลงและหนอน จะใช้สารชีวอินทรีย์ในการบำรุงพืช เพิ่มผลผลิต กำจัดแมลงและโรคใบจุด ใช้เชื้อไตรโคเดอร์ม่าในการกำจัดโรคพืช และใช้เชื้อ บีที น้ำสกัดจากใบยาสูบในการป้องกันแมลง และสารอินทรีย์เข้ามาเสริมในการปลูก เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่

ในปัจจุบัน เจริญโชคไฮโดรโปนิกส์ ฟาร์มผักปลอดสารพิษ ของ คุณเจริญโชค ได้รับความสนใจจากชุมชนและหน่วยงานราชการต่างๆ โดยมีกลุ่มอาชีพจากที่ต่างๆ รวมทั้งส่วนราชการมาดูงานกันเป็นระยะๆ อีกทั้งบางหน่วยงานราชการหรือเอกชน ยังได้เชิญเจ้าของไปบรรยายให้ความรู้และสาธิตการปลูก ตลอดจนการดูแลบำรุงรักษาผักไฮโดรโปนิกส์อีกด้วย

สุดท้าย คุณเจริญโชค ฝากเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวเกษตรกรหรือผู้ที่ประกอบอาชีพอื่นให้หันมาปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ว่า ปัจจุบันนี้ ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่น อย่างเช่น เนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ต่างนิยมปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เนื่องจากว่าเป็นผักที่สดและปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง มีรสชาติดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

มีพื้นที่น้อยหรือมากก็ปลูกได้ และเป็นผักที่เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตได้เร็วกว่าการปลูกพืชผักในดิน ประมาณ 2 สัปดาห์ อีกทั้งยังประหยัดน้ำกว่าปลูกในดินถึง 10 เท่า ปลูกได้ทั้งในฤดูแล้งหรือนอกฤดูกาล ให้ผลตอบแทนที่สูง ไม่มีวัชพืชมารบกวน ประหยัดต้นทุนต่างๆ เช่น ค่าแรงงาน เพราะไม่ต้องเตรียมดิน ไม่ต้องยกร่อง ไม่มีค่าปุ๋ย ค่ากำจัดวัชพืช

และหากเกษตรกรท่านใด ต้องการมาศึกษาดูงานที่ฟาร์มผัก เจริญโชคไฮโดรโปนิกส์ ของคุณเจริญโชค ก็ขอให้ตรงไปตามที่อยู่ข้างต้น แต่ขอให้โทร.นัดหมายล่วงหน้าก่อน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 064-840-1291 เพราะว่าบางวันต้องเดินทางไปเป็นวิทยากรให้กับหน่วยงานราชการ หรือภาคเอกชน ตลอดจนสถานศึกษาต่างๆ หากพี่น้องเกษตรกรมาโดยมิได้นัดหมายอาจจะไม่เจอ

“ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ” คุณเจริญโชค หรือ คุณอู๊ด กล่าว