พาณิชย์ดัน ”กลุ่มเกษตรอินทรีย์นางั่ว” เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดึงคน ชม ชิม ช็อป

พาณิชย์เดินหน้าผลักดันกลุ่มเกษตรอินทรีย์นางั่ว เป็นหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์แห่งที่ 2 หวังดันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ดึงดูดคนมาชม ชิม ช็อป หลังปั้นกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านริมสีม่วงติดตลาดแล้ว

นางสาวจุฬารัตน์ นุ่มนิ่ม นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานฯ มีแผนที่จะผลักดันให้กลุ่มเกษตรอินทรีย์นางั่ว เป็นหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์แห่งที่ 2 ของจังหวัดเพชรบูรณ์ และขับเคลื่อนในลักษณะ “หมู่บ้านเกษตรอินทรีย์ในวิถีพอเพียงตามรอยพ่อ” เดิมมีสมาชิกที่ทำเกษตรอินทรีย์และเข้าร่วมโครงการเพียง 5 ราย พื้นที่ปลูก 55 ไร่ ปัจจุบันมีสมาชิกรวมเป็น 20 ราย พื้นที่ปลูกรวม 175 ไร่

“ได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้เป็นหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์แห่งที่ 2 เพราะกลุ่มเกษตรอินทรีย์นางั่วมีศักยภาพในการผลิตและการเพาะปลูกเกษตรอินทรีย์เป็นอย่างมาก โดยหากเป็นหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์แล้ว จะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยว ดึงคนให้มาเที่ยวชมวิถีชีวิตของเกษตรกร การทำเกษตรกรรม มาเลือกชม เลือกซื้อสินค้า ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและเศรษฐกิจในชุมชนได้เพิ่มขึ้น”

สำหรับกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านริมสีม่วง ตั้งอยู่ในตำบลริมสีม่วง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเกษตรอินทรีย์แห่งแรกนั้น สำนักงานฯ ยังคงเดินหน้าส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนในลักษณะฟาร์ม ออแกนิกทัวร์ เพื่อให้คนที่รักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มาอยู่อาศัย มากิน มาเรียนรู้ในวิถีอินทรีย์ ซึ่งเดิมมีสมาชิกที่ทำเกษตรอินทรีย์และเข้าร่วมโครงการเพียง 7 ราย พื้นที่ปลูก 79 ไร่ ปัจจุบันมีสมาชิกรวมเป็น 32 ราย พื้นที่ปลูกรวม 293 ไร่

ทั้งนี้ สำนักงานฯ ยังได้สร้างโอกาสทางการตลาดให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับ บริษัท สังคมสุขภาพ จำกัด (เลมอนฟาร์ม) พัฒนากระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ให้กับกลุ่มเกษตรอินทรีย์ เพชบุระ PGS ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านริมสีม่วงและกลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านนางั่ว มีศักยภาพในการปลูกผักเมืองหนาว ผลไม้ ข้าว ธัญพืช

เนื่องจากพื้นที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตมีคุณภาพดี สามารถส่งเข้าตลาดเลมอนฟาร์ม ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสีเขียวในท้องถิ่น โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โรงพยาบาลเขาค้อ โดยจำหน่ายได้ในราคาที่สูงกว่าราคาสินค้าเคมีกว่าหลายเท่าตัว สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เข้าไปช่วยผลักดันการตลาดของเกษตรอินทรีย์รายย่อยให้สามารถค้าขายผ่านตลาดออนไลน์ครอบคลุมทั้งภายในและต่างประเทศได้อย่างครบวงจรด้วย