ผู้เขียน | ธาวิดา ศิริสัมพันธ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
สะเดา “มันทะวายยอดแดง” หนึ่งปีออกดอกถึงสามครั้ง รสชาติดี ขมน้อย หนึ่งเดียวที่กลางดง เจ้าของ คุณสุธิชาญ สุขจันทา เริ่มปลูกขยายพันธุ์เพียงต้นเดียว
คุณสุธิชาญ สุขจันทา อยู่บ้านเลขที่ 135/4 หมู่ที่ 11 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา คุณสุธิชาญ เล่าว่า ตนเป็นคนปลูกสะเดามันทะวายยอดแดง คนแรกของอำเภอกลางดง จนมาถึงปัจจุบันก็ยังหาคนปลูกสะเดาพันธุ์นี้ได้น้อยมากอยู่เหมือนเดิม ด้วยความที่พันธุ์ค่อนข้างหายาก ได้พันธุ์มาจาก อาจารย์ประเวช ไชยวงศ์ ท่านเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา ที่ตนได้เรียนจบออกมา อาจาร์ยท่านให้มาแค่ 1 ต้น ตอนนั้นยังไม่คิดอะไร เห็นแม่ชอบกินสะเดาจึงเอาไปให้แม่ปลูก พอโตแม่เก็บมากิน รสชาติกลับดี กินสดๆ ได้ ไม่ขม ปลูกไว้ข้างรั้วเพื่อนบ้านมาเก็บกินยังติดใจ
“มันทะวายยอดแดง” พลิกชีวิต
จากมนุษย์เงินเดือนสู่เกษตรกรเต็มตัว
เจ้าของบอกว่า หลังจากที่ได้ลองชิมสะเดา ตอนนั้นก็คิดเพียงว่าอร่อยดี ยังไม่มีวี่แววว่าอยากจะปลูกหรือขยายพันธุ์เพิ่ม เนื่องจากตัวเจ้าของเองยังทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ แต่เมื่อถึงจุดอิ่มตัวของการทำงานเริ่มรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ใช่ชีวิตตัวเอง เราอยากได้อิสระ จึงเริ่มคิดมองหาอาชีพอื่น ขณะนั้นฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าที่บ้านตัวเองมีสะเดารสชาติดีที่หาซื้อที่ไหนก็ไม่ได้อย่างนี้ มีของดีอยู่ในมือทำไมถึงไม่รีบคว้าเอาไว้ หลังจากนั้นจึงตัดสินใจลาออกจากงานมาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว และคิดว่าการทำเกษตรคงไม่ไกลตัวไปนัก เพราะเรียนจบทางด้านการเกษตรอยู่แล้วด้วย
ก่อนที่จะปลูกสะเดาเคยปลูกพืชล้มลุกมาก่อนคือ ข้าวโพด มันสำปะหลัง เมื่อทำไปรู้สึกว่าทำแล้วไม่ได้อะไร เหมือนทำให้คนอื่นมากกว่า จึงนึกไปถึงสะเดาของดีมีอยู่ในมือให้รีบคว้าเอาไว้
เริ่มปลูกสะเดามาเป็นระยะเวลา 6 ปี สะเดาต้นแรกปลูกเมื่อปี 35 เริ่มขยายพันธุ์ปลูกมาเรื่อยๆ ตอนนี้ปลูก จำนวน 10 ไร่ เป็นสะเดามันทะวายยอดแดง
จุดเด่น สามารถกินดิบได้ ทนแล้ง 1 ปี ออกดอกได้ 3 รอบ เทียบกับพันธุ์ทั่วไป 1 ปี ออกแค่ครั้งเดียว หากินยาก ราคาดี
วิธีการปลูก
สะเดา เป็นพืชปลูกง่าย ทนแล้ง ยิ่งแล้งยิ่งออกดอกดี การปลูกปลูกได้หลายวิธี จะปลูกแบบชำต้นพอต้นสมบูรณ์แล้วค่อยเอาลงดิน หรือปลูกแบบเสียบยอดก็ได้ ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ให้ผลรับออกมาเหมือนกัน
การเตรียมดิน เตรียมดินเหมือนปลูกพืชทั่วไป ไถเตรียมแปลง แล้ววัดระยะหลุม 4×4 เมตร ลักษณะดินที่เหมาะสมกับการปลูก เป็นดินที่น้ำไม่ท่วมขัง น้ำไม่แฉะมาก เติบโตได้ดีในดินลูกรัง
ช่วงเวลาที่เหมาะสม แนะให้เลือกปลูกช่วงต้นฤดูฝน สำหรับคนที่ยังไม่มีระบบน้ำ พอผ่านฝน ต้นสะเดารากเดินแล้ว ตรงนั้นถือว่าไม่มีปัญหา ถือว่ารอดตายแล้ว
ปุ๋ย ให้ปีละครั้งหรือสองครั้งก็ได้ ตามที่เจ้าของสะดวก ของผมใส่ปุ๋ยปีละครั้ง เป็นปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือหากใครพอมีกำลังจะใส่ปุ๋ยเคมี หรือน้ำหมักฉีดทางใบก็ได้
ระบบน้ำ ตอนนี้ที่สวนอาศัยเทวดาเลี้ยง เนื่องจากที่บ้านหากจะใช้น้ำปลูกต้องขุดบ่อบาดาลลึกมาก โชคดีที่สะเดาเป็นพืชทนแล้ง มีน้ำจากหน้าฝนรดให้เขาแค่นี้ก็อยู่ได้แล้ว แต่สำหรับท่านที่ระบบชลประทานเข้าถึงอยาก ทำให้ออกดอกตลอดทั้งปี แนะให้ทำระบบน้ำ เราจะสามารถบังคับการปลูกได้
การบังคับสะเดาให้แตกยอด เจ้าของบอกว่า ต้องมีระบบน้ำช่วย ครั้งแรกให้ปุ๋ยสูตรเสมอก่อน ให้น้ำแค่ 2 ครั้ง ห่างกัน 7 วัน หลังจากนั้นสะเดาจะแตกยอดอ่อน รอจนกว่าใบจะเพสลาด ให้ใส่ปุ๋ยทางใบ สูตร 0-54-32 แล้วรดน้ำตามอีกครั้ง พอใบเริ่มแก่แทงตาดอกให้ใส่ปุ๋ย สูตร 13-0-46 อีกครั้ง
โรคแมลง ไม่มี เพราะในใบและเมล็ดสะเดามีสารอะซาไดแรคติน ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารฆ่าแมลง
ระยะเวลาการปลูก หากปลูกแบบเสียบยอดใช้เวลาสองปีครึ่งถึงสามปี กิ่งตอนให้ดอก 1 ปี และถ้าเป็นกิ่งใหญ่สูงประมาณ 1.50 เมตร ไม่กี่เดือนก็ให้ผลผลิตได้เก็บกินแล้ว
ระยะออกดอก การออกดอกของสะเดาโดยทั่วไป 1 ปี จะออก 1 ครั้ง แต่สะเดามันทะวายยอดแดง 1 ปี ออกดอกได้ถึงสามครั้ง หรือถ้าใครพอมีกำลังทำระบบน้ำที่ดี สามารถจัดการทำให้ออกดอกได้ทั้งปี และที่บอกว่า 1 ปี ออกได้ 3 ครั้ง คือเมื่อเก็บรอบแรกไปแล้ว ทิ้งระยะไว้ 4 เดือน สะเดาจะแตกยอดใหม่ให้เก็บได้อีก จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราจึงนิยามว่า 1 ปี ออกดอกได้สามครั้ง ส่วนเรื่องของผลผลิต 1 ไร่ ให้ผลผลิต 50 กิโลกรัม จะแบ่งเก็บเป็นแปลงๆ
ลงทุนไม่มาก สร้างกำไรงาม
การปลูกสะเดาใช้เงินลงทุนไม่มาก จะไปหนักตรงค่ากิ่งพันธุ์ที่ลงปลูกรอบแรก ส่วนเรื่องการเตรียมแปลง ขุดหลุม ดายหญ้าเสียไม่เท่าไร แต่คุ้มมากกับรายได้ที่เข้ามา “ตอนนี้ผมขายทั้งดอกและกิ่งพันธุ์ด้วย หากคิดเป็นรายได้รวมกันจากการขายสะเดามีรายได้อยู่ที่เดือนละ 50,000-60,000 บาท”
กิ่งพันธุ์ที่ขาย เริ่มตั้งแต่ราคา 100 บาท สูงสุดถ้าเป็นบ้านจัดสรรหรือรีสอร์ตที่ต้องการปลูกไว้กินในบ้านสักต้น ลงดินรอไม่นานได้กินเลย ก็จะมีราคาตั้งแต่ 1,000-1,800 บาท
ราคาดอก ถ้าเป็นช่วงฤดูกาล กิโลกรัมละ 100-150 บาท ถ้าเป็นนอกฤดูกาล กิโลกรัมละ 150-200 บาท
การปลูกสะเดาถือเป็นพืชสร้างงรายได้ดีกว่าตอนเป็นมนุษย์เงินเดือนหลายเท่าตัว และยังได้ใช้ชีวิตอิสระอีกด้วย
ตลาดส่งผักรายใหญ่ของประเทศแย่งกันซื้อ แต่ผลิตไม่ทันขาย
สะเดา ถือเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยนิยมบริโภคกันมาช้านาน และนอกจากบริโภคเป็นผักยังเป็นสมุนไพรรักษาโรค หรือนำมาใช้ทางด้านการเกษตรได้อีก ก็ไม่แปลกที่สะเดาจะเป็นที่ต้องการของตลาด และยิ่งถ้าจะมีสะเดาพันธุ์ดีๆ รสชาติอร่อย ขมน้อย อย่างมันทะวายยอดแดง ออกมาขายก็ไม่แปลกอีกเช่นกันที่ตลาดจะมีความต้องการสูง เพราะกินง่าย ขายง่าย ซึ่งตอนนี้มีทั้งพ่อค้าแม่ค้าจากตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดรังสิต และ ตลาด อ.ต.ก. ติดต่อมาขอซื้อกันมากแต่ยังทำให้ได้ไม่ทัน แค่เก็บขายที่ตลาดแถวบ้านก็ไม่ทันแล้ว เพราะที่กลางดงหรือจังหวัดอื่นๆ มีผมทำหลักๆ อยู่เจ้าเดียว ถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ในอนาคต ตลาดไปได้อีกไกล เพราะส่วนใหญ่จะเป็นสะเดาปี และมีรสชาติขมมาก แต่ของเราขมน้อยไม่ติดลิ้น ออกดอกได้ทั้งปี และกินของเราได้ของสด ถ้าเป็นโรงงานใหญ่ๆ เขาจะนำสะเดามาเก็บไว้ในห้องเย็น และถึงนอกฤดูกาลเขาจะค่อยๆ นำออกมาขาย
ฝากถึงเกษตรกร อยากปลูกโทร.ปรึกษาได้ตลอด
เจ้าของบอกว่า สำหรับเกษตรกรมือใหม่ที่อยากทดลองปลูกสะเดามันทะวายยอดแดง สามารถโทร.มาคุยปรึกษาได้ตลอดไม่มีปิดบังหรือหมกเม็ด สะเดามันทะวาย ถือว่าเป็นพืชที่ทำรายได้ดี อนาคตยังไปได้อีกไกล วิธีการปลูกดูแลก็ไม่ยุ่งยาก ทนแล้ง หรือถ้าปลูกแล้วหาตลาดไม่ได้ให้โทร.มาปรึกษา เดี๋ยวทางนี้จะช่วยหาตลาดให้
สำหรับเกษตรกรที่สนใจกิ่งพันธุ์หรืออยากศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม โทร.หา คุณสุธิชาญ สุขจันทา ได้ที่เบอร์โทร. 061-883-9130