มารู้จักกับ คาร์บอนฟุตพริ้นท์ นั้นสำคัญไฉน

เรียน คุณหมอเกษตร-ทองกวาว ที่นับถือ

ผมอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน มีเนื้อหาเกี่ยวกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ผมพยายามทำความเข้าใจด้วยตนเอง แต่ก็ยังไม่เข้าใจ แต่เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ผมจึงเขียนจดหมายมาเรียนถามคุณหมอเกษตร ว่า มีความหมายอย่างไรและมีความสำคัญอย่างไร คุณหมอเกษตรกรุณาอธิบายให้เข้าใจ และอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านท่านอื่นๆ ด้วยครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง

ประวิทย์ วงศ์สุวรรณศักดิ์

กรุงเทพฯ

ตอบ คุณประวิทย์ วงศ์สุวรรณศักดิ์

คาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon footprinting) ถ้าแปลความหมายคือ การตามรอยคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นสาเหตุของการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน อันประกอบด้วย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซมีเทน (CH4) และก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) ในปริมาณ 70, 25 และ 5 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ก๊าซทั้ง 3 ชนิดนี้เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของเศษซากพืชในเรือกสวนไร่นา โดยจุลินทรีย์และจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงที่ใช้ขับเคลื่อนเครื่องจักรชนิดต่างๆ

ทั้งนี้ ในประเทศแถบยุโรปให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะมีเรเบล หรือสติ๊กเกอร์ติดไว้ข้างภาชนะบรรจุอาหารหลายชนิด เนื่องจากสินค้าอุปโภคบริโภค มีอัตราส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณที่สูงมาก โดยสามารถคิดคำนวณออกมาเป็นตัวเลขได้

ตัวอย่างของไทย มีงานวิจัยหาปริมาณก๊าซเรือนกระจกจากการปลูกข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เริ่มตั้งแต่การปลูกไปจนถึงระยะเก็บเกี่ยวเป็นข้าวเปลือก ผลิตข้าวเปลือก 1 กิโลกรัม มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 8.3 กิโลกรัม ส่วนขั้นตอนการสี การบรรจุภาชนะ และการขนย้าย รวมการจำหน่ายก๊าซเรือนกระจกเกิดขึ้นอีก 1 และ 2 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ยังไม่มีงานวิจัยอ้างว่า ข้าวตัวมันเองต้องใช้คาร์บอนไดออกไซด์ไปในกระบวนการสังเคราะห์แสง เมื่อหักลบกันแล้วจะเหลือปริมาณเท่าใด หรือแม้แต่ไม้ยืนต้นชนิดต่างๆ เมื่ออายุ 3-5 ปี สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ได้วันละ หรือปีละกี่กิโลกรัม เพื่อชี้ให้เห็นว่า ต้นไม้นั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมวลมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้น เรามาร่วมมือกันช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมทั้งก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ และก๊าซอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่การเก็บขยะอย่างเหมาะสม การปลูกต้นไม้รอบบ้านในกรณีที่มีพื้นที่จำกัด แต่หากท่านมีพื้นที่มากพอ ขอแนะนำให้ปลูกสวนป่าเอาไว้ นอกจากช่วยดูดซับควันพิษแล้ว ปัจจุบันยังมีมูลค่าสามารถนำไปค้ำประกันในทางนิติกรรมต่างๆ ได้อีกด้วย ขอบคุณ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล