เคล็ดลับปลูกมังคุดเกรดพรีเมี่ยม ต้นทุนต่ำ มาตรฐานส่งออกญี่ปุ่น ของ “สวนคุณลูกหมู”

ระยะนี้ เป็นช่วงฤดูของผลไม้อันเลื่องชื่อของภาคตะวันออก ทั้ง ทุเรียน มังคุด ลองกอง มีให้ชมและชิมกันอย่างจุใจ ในฉบับนี้ขออาสาพาไปชม “สวนคุณลูกหมู” ของ “คุณกิติภูมิ พรเจีย” เกษตรกรคนเก่ง ที่ปลูกไม้ผลนานาชนิดที่มีคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยม มาตรฐานส่งออก ฟันกำไรได้ก้อนโต แต่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าชาวบ้าน หากอยากรู้เขามีเคล็ดลับเทคนิคการบริหารจัดการอย่างไร …ไปหาคำตอบด้วยกันได้เลย   

สวนคุณลูกหมู 

เดิมที สวนแห่งนี้ปลูกเงาะมาก่อน แต่เจอปัญหาผลผลิตล้นตลาด ขายเงาะกิโลกรัมละไม่ถึง 10 บาท คุณกิติภูมิ พรเจีย จึงตัดสินใจตัดต้นเงาะทิ้ง และหันมาปลูกทุเรียนหมอนทอง 600 ต้น ผสมผสานกับต้นมังคุดจนเต็มพื้นที่ 34 ไร่

สวนคุณลูกหมู ปลูกมังคุดร่วมแปลงทุเรียน

คุณกิติภูมิ เป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้า ใส่ใจนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามาพัฒนาระบบการผลิต การตลาด การจัดการผลผลิต และส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรในท้องถิ่น เพื่อร่วมกันผสมปุ๋ยใช้เอง เพื่อลดต้นทุนการผลิตในปี 2540-2545 ตั้งกลุ่มปรับปรุงคุณภาพ มังคุด-ทุเรียน เพื่อการส่งออก เพื่อรวบรวมผลผลิตส่งขายตรงกับตลาดปลายทางเพื่อลดปัญหาพ่อค้าคนกลางเอาเปรียบ และจัดตั้งศูนย์เรียนรู้กลุ่มผลิตไม้ผลคุณภาพตำบลชากไทยเกี่ยวกับการผลิตไม้ผลคุณภาพและการตัดแต่งกิ่งมังคุด ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนรักษ์มังคุด บ้านเนินมะหาด-มูซู หมู่ที่ 5 ตำบลชากไทย อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมโครงการเมืองเกษตรสีเขียวและโครงการส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่

คุณกิติภูมิ ได้รับเชิญจากหน่วยงานภาครัฐได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ประเทศไต้หวันเกี่ยวกับการผลิตไม้ผล (การตัดแต่งกิ่ง) การตลาดและระบบสหกรณ์ สามารถจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ฯ ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ให้กับเกษตรกรและผู้ที่สนใจทั่วไป โดยจัดตั้งกลุ่มกันเองขึ้นมาและไม่ได้พึ่งงบจากทางราชการเลย

มังคุดที่ขายผ่านตลาดประมูลมังคุดแปลงใหญ่เขาคิชฌกูฏ

คุณกิติภูมิ มีจิตอาสาในการรวบรวมเพื่อนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนมังคุดทำกิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพผลผลิตร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยกย่องให้เป็น “ประธานเครือข่ายมังคุดจันทบุรี” และเป็นสมาชิกมังคุดแปลงใหญ่อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ขณะเดียวกันคุณกิติภูมิวางระบบบริหารจัดการสวนมังคุดที่ดี ตั้งแต่การเพาะปลูกจนกระทั่งการเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพปลอดภัยและเหมาะสมต่อการบริโภค ตามมาตรฐาน Good Agriculture Practices (GAP)

สำหรับมังคุดแปลงใหญ่ตำบลชากไทย อำเภอเขาคิชฌกูฏ เป็นกลุ่มเกษตรกรที่เข้มแข็ง มีสมาชิก 34 ราย พื้นที่รวม 415 ไร่ ผลผลิตประมาณ 450 ตัน สมาชิกมีการรวบรวมผลผลิตออกขายตลาดประมูลอย่างต่อเนื่อง สามารถขายผลผลิตได้ทุกเกรดคุณภาพ ในราคาประมูลเฉลี่ย 53 บาท ต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป เฉลี่ย 45 บาท ต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีแรงจูงใจในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ผลผลิตมังคุดเกรดส่งออก

ศพก. เขาคิชฌกูฏ สำนักงานเกษตรอำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ยกย่องให้ คุณกิติภูมิ พรเจีย เป็นเกษตรกรต้นแบบด้านมังคุด และใช้พื้นที่สวนแห่งนี้ที่อยู่ บ้านเลขที่ 90/5 หมู่ที่ 5 ตำบลชากไทย อำเภอเขาคิชฌกูฏ เป็นสถานที่ตั้งของ “ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตการเกษตร (ศพก.) เขาคิชฌกูฏ” โดย คุณกิติภูมิ รับหน้าที่ ประธาน ศพก. เขาคิชฌกูฏ

ผู้สนใจที่มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม “ศพก. เขาคิชฌกูฏ” แห่งนี้ จะได้เรียนรู้เรื่องการผลิตมังคุดคุณภาพที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บนพื้นที่ดำเนินงาน 6 ไร่ ประกอบด้วยฐานเรียนรู้การลดต้นทุนการผลิต การจัดการดินและปุ๋ย การผลิตมังคุดคุณภาพ การผลิตแปลงใหญ่มังคุดเขาคิชฌกูฏ การผลิตลองกอง การอารักขาพืช การผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออก การผลิตทุเรียนคุณภาพ การผลิตสะละคุณภาพ ฐานเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ เทคโนโลยีการผลิต 4.0 (เครื่องตรวจวัดสภาพอากาศ) และการจัดการสิ่งแวดล้อม (การคัดแยกขยะการเกษตร)   เรียกว่า มาสวนคุณลูกหมูแห่งเดียว มีโอกาสเรียนรู้ปลูกดูแลไม้ผลหลากหลายชนิด ทั้งมังคุด ทุเรียน ลองกอง สะละ ฯลฯ คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

มังคุดเกรดพรีเมี่ยมของสวนคุณลูกหมู (ภาพจากเฟสบุ๊ค สวนคุณลูกหมู )

ตัดแต่งกิ่งเทคนิคไต้หวัน

ระหว่างเดินตามคุณกิติภูมิไปเที่ยวชมสวน สังเกตว่า ต้นมังคุดอายุหลายสิบปีแล้ว ทำไมมีลำต้นเตี้ย สูงไม่เกิน 4 เมตร แค่เดินผ่านก็สามารถยื่นมือเด็ดผลจากต้นได้เลย คุณกิติภูมิ บอกว่า ผมนำความรู้ที่ได้จากศึกษาดูงานที่ประเทศไต้หวันมาดูแลการตัดแต่งกิ่ง ทำให้ต้นมังคุดมีลำต้นเตี้ย

ถามว่า ทำไม ต้องตัดแต่งทรงพุ่ม คุณกิติภูมิ ให้คำตอบว่า ช่วยไม่ให้ต้นมังคุดสูงเกินไป ลดการทิ้งกิ่งล่าง ทำให้ทรงพุ่มสวยงาม ประหยัดและสะดวกในการพ่นสารเคมี ลดการระบาดของโรคและแมลง ต้นมังคุดที่มีทรงพุ่มโปร่ง แสงส่องผ่านทั่วทรงพุ่ม กระตุ้นการแตกใบอ่อน มีโอกาสออกดอกเร็วขึ้น แถมได้ผลผลิตที่มีขนาดใหญ่ ผิวมันเก็บเกี่ยวง่ายและรวดเร็ว ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ส่งออกได้มากขึ้น

คุณกิติภูมิ พรเจีย เกษตรกรต้นแบบด้านมังคุด-ทุเรียน

แนวทางตัดแต่งทรงพุ่มมังคุดของคุณกิติภูมิ เริ่มจากตัดปลายกิ่งที่ประสานกันออก ให้มีช่องว่างระหว่างชายพุ่มโดยรอบกับต้นข้างเคียง ประมาณ 50-75 เซนติเมตร ตัดยอดที่สูงเกินต้องการออก ตัดกิ่งประธาน หรือกิ่งรองออกด้านละ 1-5 กิ่ง เพื่อเปิดช่องให้แสงส่องผ่านเข้าไปในทรงพุ่ม และเลี้ยงกิ่งแขนงในทรงพุ่มไว้ (กิ่งที่อยู่ในทรงพุ่มสามารถให้ผลผลิตได้ และมีโอกาสเป็นผลผลิตที่มีคุณภาพสูงกว่ากิ่งที่อยู่ชายทรงพุ่ม)

ดูแลสวนมังคุดแบบมืออาชีพ

การให้น้ำ ช่วงก่อนออกดอก (ชะลอน้ำ) จะให้น้ำสปริงเกลอร์ 1 หัว นาน 30 นาที (1 หัว = 120 ลิตร/ชั่วโมง) ช่วงติดดอกและผลให้น้ำสปริงเกลอร์ 2 หัว นาน 1 ชั่วโมง (240 ลิตร/ชั่วโมง)

ด้านปุ๋ย ช่วงหลังเก็บเกี่ยว ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 จำนวน 2 กิโลกรัม/ต้น ปุ๋ยอินทรีย์ 5 กิโลกรัม/ต้น ช่วงบำรุงผล ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 จำนวน 2 กิโลกรัม/ต้น 1 ครั้ง

ทุเรียน มังคุด ที่เตรียมส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านเฟซบุ๊ก (ภาพจากเฟสบุ๊ค สวนคุณลูกหมู )

การกำจัดโรคและแมลง ระยะใบอ่อนใช้อะบาเม็กตินสลับกับโปรวาโด 2 ครั้ง (ใบเริ่มปริ-ใบกาง) เมื่อเริ่มเห็นดอกระยะปากนกแก้ว ก่อนบานใช้สารอะบาเม็กติน 10 ซีซี+แคลเซียมโบรอน 20 ซีซี+สาหร่าย 20 ซีซี+แมนโคเซ็บ 30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 2 ครั้ง ระยะดอกบาน-ผลขนาด 60 กรัม ใช้เหมือนระยะปากนกแก้ว แต่ยกเว้นแมนโคเซ็บ ฉีดพ่น 3 ครั้ง (การใช้สารเคมีเพื่อป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชต้องสำรวจก่อนว่าเกิดมากน้อยเพียงใด จึงตัดสินใจใช้) ทั้งนี้ คุณกิติภูมิจะเริ่มเก็บเกี่ยวเมื่อมังคุดเริ่มมีผิวสีชมพู

ด้านการตลาด สามารถหาตลาดส่งต่างประเทศได้โดยการประชาสัมพันธ์ผลไม้ของตัวเองให้ผู้รับซื้อมั่นใจในคุณภาพของผลผลิต

มังคุดไซซ์ใหญ่ คุณภาพดีที่ตลาดต้องการ (ภาพจากเฟสบุ๊ค สวนคุณลูกหมู )

วิธีลดต้นทุนผลิตมังคุดลง 50%

ก่อนหน้านี้ คุณกิติภูมิ ใช้ปุ๋ยยาเคมีในการดูแลสวนมังคุด เฉลี่ยปีละ 300,000 บาท และมีต้นทุนการผลิตทุเรียนเฉลี่ยกิโลกรัมละ 23 บาท แต่ทุกวันนี้คุณกิติภูมิสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้ถึง 50% โดยมีต้นทุนการผลิตทุเรียนเหลือแค่กิโลกรัม 10.50 บาท เท่านั้น หลังจากที่คุณกิติภูมิเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพที่ผลิตขึ้นเองเป็นตัวช่วยลดต้นทุนทดแทนการใช้ปุ๋ยและสารเคมี

คุณกิติภูมิ พรเจีย กับน้ำหมักสูตรเด็ดที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต

การผลิตน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง ที่คุณกิติภูมิใช้ ทำได้ไม่ยาก เริ่มจากเตรียมอุปกรณ์ ได้แก่ ปลาป่น 20 กิโลกรัม น้ำตาลอ้อย 20 กิโลกรัม นมผงเกรดเลี้ยงสัตว์ 6 กิโลกรัม สาหร่ายผง 5 กิโลกรัม ฮิวมิคชนิดผง 5 กิโลกรัม ธาตุอาหารเสริม 3 กิโลกรัม สารเร่ง พด.2 จำนวน 3 ซอง ถังขนาด 200 ลิตร พร้อมฝาปิด ไม้พายกวน 1 อัน

ขั้นตอนการทำ เริ่มจาก เทน้ำสะอาด ประมาณ 120 ลิตร ลงในถังหมัก นำส่วนผสมทุกอย่างละลายในถังหมัก และใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน เติมน้ำจนเกือบเต็มถัง 7 วันแรกไม่ต้องปิดฝา คนทุกวัน วันละ 3 ครั้ง ปิดฝาถังหมักทิ้งไว้ 1 เดือน จึงนำไปใช้งานได้

วิธีการใช้งาน เริ่มจากนำน้ำหมักมากรองเอากากออกทิ้งไว้ให้ตกตะกอน 20-30 วัน ดูดเอาน้ำชั้นบนของปุ๋ยที่มีสีเหลืองออกเล็กน้อย นำไปบรรจุขวดปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ในที่ร่มได้นาน 3-5 ปี ส่วนตะกอนที่เหลืออยู่ในก้นถังที่มีสีดำสนิทและเข้มข้นนำไปผสมน้ำ ราดหรือฉีดพ่นลงดิน ใช้ปุ๋ย 1 ลิตร ต่อน้ำ 50 ลิตร 2-3 ครั้ง/ปี นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ปุ๋ยน้ำหมักฉีดพ่นทางใบ โดยใช้น้ำชั้นบนของปุ๋ยที่มีสีเหลืองออกคล้ำ ใช้ 0.5-1 ลิตร ต่อน้ำ 200 ลิตร ทุกๆ 7-10 วัน

ประโยชน์ที่ได้ คือช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืชให้เติบโตสมบูรณ์แข็งแรง ให้ดอกออกผลได้ดี พืชมีผลผลิตที่ดี มีคุณภาพเพิ่มผลผลิต ช่วยให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดีขึ้น ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี

ทุเรียนพวงมณี รสชาติอร่อยของสวนคุณลูกหมู (ภาพจากเฟสบุ๊ค สวนคุณลูกหมู )

ลูกสาวคุณกิติภูมิกับทุเรียนหมอนทองสินค้าขายดี (ภาพจากเฟสบุ๊ค สวนคุณลูกหมู )

เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทดลองเก็บมังคุดจากต้นด้วยตัวเอง

…………………

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ.2562