รุกเสริมเขี้ยวเล็บระบบตรวจสอบและกักกันสินค้าพืชนำเข้า-ส่งออกไทย รองรับการค้าสินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน

องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน ผนึกความร่วมมือ มกอช.-กรมวิชาการเกษตร จัดอบรมเสริมเขี้ยวเล็บระบบตรวจสอบและกักกันสินค้าพืชนำเข้า-ส่งออกของไทย เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ รวมทั้งรองรับการเริ่มใช้ระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-Phyto) เชื่อมระบบประเทศอาเซียนภายในสิ้นปี 62 นี้

นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์

นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กล่าวว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศของไทย และเตรียมความพร้อมการเริ่มใช้ระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-Phyto) เชื่อมระบบประเทศอาเซียนภายในสิ้นปี 62 นี้

เมื่อเร็วๆ นี้ มกอช. และกรมวิชาการเกษตร ได้ผนึกความร่วมมือระหว่างองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (Deutsche Gesellschaft fur Internationale Zusammenarbeit : GIZ) จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “National Training Workshop on Development of Phytosanitary Standard Operating Procedures” ให้แก่ เจ้าหน้าที่จากกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร และกองควบคุมมาตรฐานของ มกอช. และเจ้าหน้าที่จากด่านกักกันพืชของกรมวิชาการเกษตร โดยเชิญ Mr. Jos von Meggelen วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการระบบตรวจสอบและกักกันสินค้าพืช จากหน่วยงานความปลอดภัยอาหารของประเทศเนเธอร์แลนด์ (Netherlands Food and Consumer Product Safety Authority) มาให้ความรู้ ความเข้าใจ ในด้านหลักการจัดทำคู่มือการปฏิบัติงาน และให้ข้อคิดเห็นต่อร่างคู่มือการปฏิบัติงานของไทย

สำหรับการฝึกอบรมดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการอำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียน (Facilitating Trade for Agricultural Goods in ASEAN: FTAG) ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือทางเทคนิคที่ดำเนินการโดย GIZ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือภายในประเทศสมาชิกอาเซียนเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านกฎระเบียบการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร การพัฒนาสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานของประเทศคู่ค้า การปรับปรุงพัฒนาข้อมูล และการหารือทางเทคนิคด้านการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร ผ่านช่องทาง ASEAN Focal Point ให้ชัดเจนและเข้าใจง่าย โดยมีกรอบระยะเวลาการดำเนินการ 2 ปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 – มิถุนายน 2562 ในพื้นที่ประเทศเป้าหมาย 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยสำหรับประเทศไทย มกอช. เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักในโครงการดังกล่าว ในฐานะหน่วยงานผู้ร่วมมือ (Partner) ของ GIZ

ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทย มกอช. ได้มอบหมาย นายวิชา ธิติประเสริฐ ที่ปรึกษา มกอช. เป็นประธานของผู้แทนไทยในคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยกำหนดให้มีการจัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนทุก 1 ปี ครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 3 จัดขึ้นเมื่อ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ณ เมืองพัทยาโดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกันให้มีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาคู่มือการปฏิบัติงาน (SOP) โดยมีเป้าหมายให้ไทยสามารถพัฒนา SOP และสามารถนำไปใช้จริง เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศในอนาคต

“ประโยชน์ของการพัฒนาคู่มือการปฏิบัติงาน (SOP) ถือเป็นกลไกสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ของ มกอช. และเจ้าหน้าที่ด่านกักกันพืชของกรมวิชาการเกษตรในการเพิ่มศักยภาพการะบบตรวจสอบและกักกันสินค้าพืชในการนำเข้าและส่งออกให้ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรฐานสากล อันเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตรระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับระบบใบรับรองสุขอนามัยพืชอิเล็กทรอนิกส์ (e-Phyto) ของไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มทดลองใช้ภายในประเทศได้ในเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ และจะสามารถทดลองเชื่อมต่อกับระบบของประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ได้ภายในสิ้นปี 2562 “เลขาธิการธิการ มกอช. กล่าว