ยางใต้ครวญฝนตกยาว 3 เดือนทำรายได้หด แนะประคองไม่กู้ยืมหลังมีแก๊งนอกระบบเข้าพื้นที่

วันที่ 26 มกราคม 2560 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย เปิดเผยถึงสถานการณ์ความเป็นอยู่ของชาวสวนยางทางใต้ในเวลานี้ว่า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เดือนธันวาคม จนมาปลายเดือนมกราคมแล้ว ที่ฝนยังคงตกอยู่ ทั้งที่ในห้วงเวลาเดียวกันของทุกปี เป็นระยะเวลาสามเดือนชาวสวนยางได้รับผลผลิตสูงสุด ฝนตกลงมาอย่างนี้รายได้ที่จะแค่ให้พอกินมันเป็นเรื่องยากเย็นเหลือเกินแล้ว การจับจ่ายมันดูฝืดเคือง (เพราะหาเงินยาก) ของกินของใช้มันกลับแพง ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อซื้อ เศรษฐกิจในภาคใต้ ที่มันประดังกันเข้ามา ทั้งฝืดทั้งเฟ้อ

“ต้องระวังตัวกันล่ะพี่น้องชาวสวนยาง มันคือสิ่งบอกเหตุอะไรสักอย่างของเศรษฐกิจชาติหรือของโลกอีกคำรบหนึ่ง ชาวสวนยางต้องตั้งสติ อย่าฟุ้ง อย่าเฟ้อ อย่าใช้เงินล่วงหน้า ไม่กู้ยืมทั้งนอกและในระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ออกโรงโฆษณาแม้แต่มาตรการของรัฐฯเพราะสุดท้ายถึงจะชื่อหรูหรา แต่มันก็คือ “ต้องเป็นหนี้เขาอยู่ดี” ธนาคาร เป็นพวกตัวล่อดอกเบี้ยต่ำ นั่งเทียนเขียนคิดกันในห้องแอร์ ลางร้ายบอกเหตุสถานะอย่างนี้ พอถึงตอนเขาหมดอำนาจ คนที่เจ็บก็คือ เรา สมบัติที่ดินของปู่ของพ่อเรา รักษาเอาไว้ให้ลูกหลานได้ทำกินดีกว่า เชื่อเถอะไม่มีใครรับผิดชอบผลของการคิดหาวิธีเพียงแค่รักษาเก้าอี้ที่นั่งของเขาหรอก “จงตั้งสติ!เชื่อในสัจจะธรรม”

นายมนัส กล่าวว่า วันนี้ชาวสวนยางรายย่อยอย่างพวกเรา แต่ละครอบครัวเครียด สุดท้ายคงหนีไม่พ้นแหล่งเงินกู้เพราะเพื่อเอามาประทังชีวิตและครอบครัว และฟื้นฟูสภาพข้าวของทรัพย์สินที่เสียหาย จะกู้สถาบันของรัฐฯหรือสถาบันการเงิน มันเป็นเรื่องยากเพราะระเบียบขั้นตอนไม่ทันบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน สภาพแต่ละคนตอนนี้จะคิดร้อยล่ะเท่าไหร่ก็ต้องยอมแล้ว วันนี้ต้นยาง กว่า 50% ยังยืนแช่น้ำอยู่สภาพต้นยาง ชะงักการให้ผลผลิต หน้ายางตายนึ่ง-โคนเน่า-เป็นโรค-ใบร่วง ยางต้นใหญ่ป่วย ยางต้นเล็กถึงตายแล้วก็มี ถามว่าจะทำอย่างไร ใครตอบเราได้

รายงานระบุว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีกลุ่มเงินกู้นอกระบบเข้ามาในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจำนวนมาก เฉพาะกลุ่มเจ้าถิ่นเดิมมีอยู่ ประมาณ 40% ที่เหลือเป็นกลุ่มเครือข่ายอาบัง เครือข่ายกลุ่มภาคกลาง เครือข่ายกลุ่มจังหวัดตรัง และเครือข่ายกลุ่มภาคใต้ตอนบน เข้ามาในพื้นที่ เพื่อปล่อยเงินกู้นอกระบบในอัตราร้อยละ 30 บาท ต่อวัน โดยหักทั้งต้นและดอกภายในเวลา 25 วัน ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ จะทำงานร่วมกัน แนะนำต่อๆกัน ในเวลานี้จังหวัดนครศรีธรรมราชจึงเป็นพื้นที่กลุ่มเป้าหมายอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาจับกุมแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะปล่อยให้กับกลุ่มแม่ค้า พ่อค้าที่ประกอบธุรกิจ หากเป็นกลุ่มเกษตรกรจะไม่ปล่อยเงินกู้เนื่องจากมีความเสี่ยง