“มะนาวนิ้วมือ” ที่ “สวนจ่ามด” จ.พิจิตร ปลูกง่ายขายกิโลกรัมละ 2,000 บาท (ตอนที่ 1)

ชื่อสามัญ Finger Lime
ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus australasica
ชื่อวงศ์ Rutaceae

ชื่ออื่นๆ บ้านเราเรียก “มะนาวนิ้วมือ” หรือ “มะนาวคาเวียร์” ซึ่งมะนาวนิ้วมือ เป็นพืชในสกุลเดียวกันกับส้ม มะนาว และเกรปฟรุต มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศออสเตรเลีย เนื้อผลให้รสเปรี้ยว มีกลิ่นหอม มักใช้ปรุงแต่งรสชาติและกลิ่นอาหารให้มีรสชาติอร่อย หรือแม้กระทั่งใช้ผสมในเครื่องดื่มหรือใช้ตกแต่งในจานอาหารให้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น ขณะนี้ มะนาวนิ้วมือ ได้รับความสนใจและนิยมปลูก เพื่อกินผล หรือปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งบ้านเรือนเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย

ผลที่มีลักษณะยาวคล้ายนิ้วมือ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ลำต้นของมะนาวนิ้วมือมีความสูงประมาณ 5-6 เมตร มีใบขนาดเล็ก  ผิวใบเรียบ ปลายใบหยักมน มีความกว้างประมาณ 3-25 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1-6 เซนติเมตร มีกลีบดอกสีขาว ยาวประมาณ 6-9 มิลลิเมตร ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกหรือโค้ง เปลือกผลและเนื้อในมีหลากหลายสีตามสายพันธุ์ และในแต่ละสีก็จะมีกลิ่นที่แตกต่างกันออกไป ขนาดความยาวของผล ประมาณ 4-8 เซนติเมตร ภายในผลจะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 10 เมล็ด ซึ่งจัดว่ามะนาวนิ้วมือเป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ใบเรียวเล็กคล้ายมะขวิด มะสัง ในบ้านเรา มีหนามแหลมเล็กเป็นจำนวนมาก

มะนาวนิ้วมือหลากหลายสายพันธุ์

การแตกกิ่งแตกยอดจะออกรอบต้น ดอกเล็กๆ สีขาวเหมือนมะนาวทั่วไป ออกดอกตามซอกใบ ติดผลลักษณะเดี่ยว ไม่เป็นพวงเหมือนมะนาวทั่วไป รูปทรงผล เรียวยาวเหมือนนิ้วมือคน ขนาดเท่านิ้วชี้คน สีเปลือกหลากหลาย เช่น เปลือกเขียว แดง น้ำตาล เหลือง
ส่วนสีเนื้อนั้น ก็มีสีสันหลากหลายเช่นกัน เช่น เนื้อสีขาว เขียว เหลือง ชมพู แดง ม่วง โดยเนื้อมะนาวมีลักษณะเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ อัดแน่นอยู่ในผล มองดูคล้ายหรือเปรียบเทียบว่ากินไข่ปลาคาเวียร์ ที่จะแตกในปากเวลาเคี้ยวนั่นเอง

แต่เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ในบ้านเรานั้น มะนาวนิ้วมือ หรือ มะนาวคาเวียร์ ที่คนไทยเรียกกันได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นของใหม่ในบ้านเรา สายพันธุ์มะนาวนิ้วมือถูกนำเข้ามาหลายสิบสายพันธุ์จากต่างประเทศ ราคาซื้อขายต้นพันธุ์ในตอนนั้นคือ หลักหมื่นไปจนถึงหลักหลายๆ พันบาทเลยทีเดียว

แต่เวลาผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เริ่มขยายพันธุ์และจำนวนได้มากขึ้น ทำให้ราคาก็ถูกลง ซึ่งตอนนี้ก็จะเหลือราคาหลักร้อย ซื้อหาต้นพันธุ์ได้ไม่ยากเหมือนแต่ก่อนในช่วงแรกที่นำเข้าต้นพันธุ์มานั้น ก็ยังคงไม่ทราบว่า มะนาวนิ้วมือแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะผล สี เหมือนกับที่ปลูกในต่างประเทศหรือไม่ และนิสัยการเจริญเติบโตเป็นอย่างไร ซึ่งบ้านเราอากาศค่อนข้างร้อน 35-40 องศาเซลเซียส เกือบตลอดทั้งปี ทำให้ผู้ซื้อพันธุ์มะนาวนิ้วมือในช่วงแรกๆ ก็ต้องปลูกเพื่อศึกษาว่า มะนาวนิ้วมือแต่ละสายพันธุ์เหมาะกับบ้านเรามากน้อยเพียงใด มีการออกดอกติดผลหรือไม่

จ.อ. สิทธิเดช อ่องเภา กับต้นมะนาวนิ้วมือ อายุ 2 ปีเศษ ที่กำลังให้ผลผลิต

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ จ.อ. สิทธิเดช อ่องเภา เจ้าของ “สวนจ่ามด” ตำบลท่าบัว อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร โทร. 083-535-4559, 080-099-9361 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก “มะนาวคาเวียร์ บ้านสวนจ่ามด”

เป็นสวนมะนาวนิ้วมือปลูกจำหน่ายผลในเชิงการค้า ที่เริ่มต้นในยุคแรกๆ ที่มีการปลูกต้นมะนาวนิ้วมือในบ้านเรา โดย จ.อ. สิทธิเดช เล่าย้อนไปว่า เดิมตนเองและครอบครัวปลูกมะนาวเป็นอาชีพอยู่แล้ว จึงมีความสนใจพืชตระกูลมะนาวเป็นพิเศษ ก็เริ่มจากซื้อต้นพันธุ์เข้ามาปลูกเรื่อยๆ ในช่วง 2-3 ปีแรก เป็นการปลูกและศึกษามะนาวคาเวียร์หลายๆ สายพันธุ์ ว่ามะนาวนิ้วมือสายพันธุ์ไหนที่มีคุณสมบัติที่ดีปลูกในพื้นที่สวนของตนเองได้ดีบ้าง เนื่องจากพื้นที่สวนมีสภาพอากาศร้อนตลอดทั้งปี อุณหภูมิสูง 35-42 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว

ความดกของมะนาวนิ้วมือในทรงพุ่ม

พบว่า มีมะนาวนิ้วมือมีอยู่ 4 สายพันธุ์ ที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี ออกดอกและติดผลได้ดี จากกว่า 10 สายพันธุ์ ที่ปลูกไว้ในสวน ซึ่งมีจำนวนต้นมะนาวนิ้วมือราวๆ 800 ต้น ที่ปลูกคละพันธุ์เอาไว้ จนเกิดความมั่นใจในสายพันธุ์ ก็กำลังขยายพื้นที่ปลูกมากขึ้น ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ ทดแทนของเก่าที่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เหมาะกับพื้นที่สภาพแวดล้อมของสวน ซึ่งไม่ทนต่อสภาพอากาศร้อน การเจริญเติบโตไม่ดี การติดผลไม่ดีหรือไม่ออกดอกติดผล เป็นต้น

สายพันธุ์ มะนาวคาเวียร์ หรือ มะนาวนิ้วมือ ที่พิสูจน์แล้วว่าเหมาะกับสภาพแวดล้อมของสวนตัวเอง โดย จ.อ. สิทธิเดช เล่าว่า สายพันธุ์ที่ตนเองมั่นใจว่าจะขยายพื้นที่ปลูกให้มากเป็นพิเศษเพื่อผลิตผลมะนาวนิ้วมือหรือมะนาวคาเวียร์จำหน่าย ตอนนี้มีอยู่ 4 สายพันธุ์หลักๆ ที่เก็บข้อมูล สังเกตนิสัยการเจริญเติบโต การให้ผลผลิตออกดอกติดผลง่าย และที่สำคัญทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี ถือว่าเป็นข้อสำคัญในการเลือกสายพันธุ์อย่างที่บอกว่า ที่สวนในเดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิค่อนข้างสูง 38-42 องศาเซลเซียส คือ
1. สายพันธุ์ “ไบร่อน ซันไรส์” (Byron Sunrise) ซึ่งจะมีเนื้อในสีชมพู-แดง
2. สายพันธุ์ “ดิ เอ็มเมอรัล” (D’Emerald) ซึ่งเนื้อในจะมีสีเขียว
3. สายพันธุ์ “เมีย โรส” (Mia Rose) เปลือกสีม่วงแดง ซึ่งเนื้อในจะมีสีชมพูเข้ม-แดง
4. สายพันธุ์ “ริกก์ เรด” (Rick Red) ซึ่งจะมีเนื้อในสีชมพู-แดง

มะนาวนิ้วมือ หรือ มะนาวคาเวียร์ จำหน่ายออกจากสวน กิโลกรัมละ 2,000 บาท

ส่วนมะนาวนิ้วมือสายพันธุ์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็มีข้อดีแตกต่างออกไป โดยแต่ละสวนอาจจะมองเห็นข้อดีที่แตกต่างกันไป เช่น

สายพันธุ์ “ลิตเติ้ล รูบี้” (Littie Ruby) เนื้อในสีแดง จะมีเอกลักษณ์เด่นๆ คือ ต้นเป็นทรงพุ่มหนาแน่น ใบมีขนาดเล็กมากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ชัดเจน มีหนามถี่แหลมคม เนื้อมีสีแดง ออกดอกได้ตลอดทั้งปี เหมาะมากในการปลูกในกระถางเป็นไม้ประดับตามบ้านเป็นอย่างมาก เป็นสายพันธุ์ที่ติดดอกได้เร็วที่สุด ประมาณ 8-12 เดือน เท่านั้น แล้วสามารถออกดอกติดผลดกได้ตลอดทั้งปีถ้าต้นมีความสมบูรณ์ โดยลูกชุดแรกๆ อาจจะเล็ก แต่เนื้อจะเป็นไข่ปลาเมื่อผลใหญ่สมบูรณ์ แต่เมื่อต้นมีอายุมากกว่า 2 ปีขึ้นไป จะให้ลูกที่ใหญ่ขึ้น ขนาดผลประมาณ 70-90 ผล ต่อกิโลกรัม

สายพันธุ์ “เรด แชมเปญ” (Red Champange) เปลือกสีแดง เนื้อในแดงเข้ม นิยมใส่ในเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำให้มีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่แตกต่างออกไป
สายพันธุ์ “เทสตี้ กรีน” (Tasty Green) เปลือกสีเขียว แต่เนื้อในสีขาว มีกลิ่นแรง ดมแล้วจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่า รสชาติเปรี้ยวมาก ทำให้บ้านเรานิยมนำไปผสมใส่ยำต่างๆ เป็นต้น

นำมะนาวนิ้วมือมาใส่ยำเพิ่มรสชาติและสีสัน

ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของมะนาวนิ้วมือ หรือมะนาวคาเวียร์ นอกจากรสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอม คือการนำมาใช้ประโยชน์เมื่อใช้มีดผ่าผล เมื่อใช้มือบีบผลมะนาวเนื้อในจะไหลออกมา จะไม่เกาะติดเปลือกและไม่เกาะติดกันเอง ทำให้เวลาผ่าหรือบีบออกจากผล เนื้อจึงทะลักเป็นเม็ดๆ คล้ายไข่ปลา

การปลูกมะนาวนิ้วมือไม่ยาก

มะนาวนิ้วมือ หรือมะนาวคาเวียร์ปลูกง่ายกว่าปลูกมะนาวมาก เนื่องจากมะนาวนิ้วมือจะไม่พบการระบาดของโรคแคงเกอร์เลย ทำให้การดูแลรักษาง่ายมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง มีเพียงแมลงศัตรูที่เหมือนมะนาว คือ เพลี้ยไฟ ไร หนอนกินใบเท่านั้น ซึ่งใช้สารป้องกันกำจัดศัตรูเช่นเดียวกับมะนาวทุกๆ ประการ รวมถึงการดูแลรักษา บำรุงใส่ปุ๋ยฉีดพ่นปุ๋ยทางใบก็แบบเดียวกันกับมะนาว ยิ่งมีพื้นฐานมะนาวมาก่อนก็ยิ่งง่าย ฉะนั้น สายพันธุ์ที่ปลูกได้ผลดีจึงมีผลมากกว่า

ถ้าจะปลูก ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะมะนาวนิ้วมือก็ต้องใช้เวลาปลูกและดูแลจนกว่าออกผลราว 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี การติดผลก็จะมากขึ้นตามลำดับ ตามขนาดของทรงพุ่มและขนาดของต้น ยกตัวอย่าง มะนาวนิ้วมือ อายุ 2 ปี ทรงพุ่มประมาณ 80-100 เซนติเมตร ความสูงประมาณ 150-200 เซนติเมตร จะให้ผลผลิตรวมตลอดทั้งปี 1-3 กิโลกรัม โดยประมาณ แต่ปริมาณผลผลิตจะมากขึ้นตามอายุต้นของมะนาวเอง

เมื่อปลูกต้นมะนาวนิ้วมือเสร็จ จะต้องปักไม้ช่วยค้ำยัน

จากข้อมูลพบว่า มะนาวนิ้วมือนั้นมีอายุยืนในต่างประเทศ แต่ในบ้านเราก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะมีอายุได้นานขนาดไหน แต่เท่าที่ดูนิสัยการเจริญเติบโต อายุของมะนาวนิ้วมือน่าจะเกิน 10 ปีขึ้นไปแบบสบายๆ แต่ก็คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาประกอบกันด้วย

“สวนจ่ามด” เลือกปลูกมะนาวนิ้วมือ ลงวงบ่อซีเมนต์ เพราะสามารถปรุงดินปลูกได้ตามที่ต้องการในช่วง 1-2 ปีแรกของการปลูก เนื่องจากสภาพดินที่นี่ไม่ค่อยดีนัก ก็จำเป็นต้องปรุงดินผสมด้วยเศษวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น เช่น แกลบดิบ แกลบดำ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ใบก้ามปู ดินร่วน เป็นต้น โดยเน้นให้ดินมีการระบายน้ำที่ดี

เดินระบบน้ำโดยใช้หัวน้ำมินิสปริงเกลอร์

อีกอย่างมะนาวนิ้วมือชอบน้ำ แต่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ ซึ่งอาจจะเป็นโรครากเน่าโคนเน่า แล้ววงบ่อซีเมนต์ที่นำมาใช้จะไม่ปิดก้นวงบ่อซีเมนต์ เพื่อมะนาวโตขึ้นมีความแข็งแรงมากขึ้น รากก็สามารถหยั่งลงดินหากินได้เองในอนาคต แล้วทำให้ต้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกปีเหมือนกับปลูกลงดิน

ในทุกๆ 6-12 เดือน หากพบว่าดินปลูกในวงบ่อซีเมนต์มีน้อยลง ก็ควรจะเติมดินผสมลงไปให้ในวงบ่อซีเมนต์ตามความเหมาะสม หรือหากเป็นฤดูร้อนซึ่งอากาศร้อนจัดเมื่อปีที่ผ่านมา อุณหภูมิสูง 39-42 องศาเซลเซียส ก็อาจจะต้องหาวัสดุคลุมโคนต้น เพื่อช่วยลดความร้อน รักษาความชื้นในวงบ่อซีเมนต์ เช่น แกลบดิบ เปลือกถั่ว ฟางข้าว เป็นต้น

ข้อดีอีกอย่างในการปลูกมะนาวนิ้วมือในวงบ่อซีเมนต์คือ สามารถจัดการเรื่องวัชพืชได้ง่าย ไม่ว่าจะตัดหญ้า เนื่องจากมีวงบ่อล้อมต้นเอาไว้ เวลาตัดหญ้าก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตัดโดนต้นมะนาวแต่อย่างใด หรือปลูกแบบลงดินโดยการยกร่องเป็นแถวก็ได้ ตามความเหมาะสมของแต่ละสวน และทุกครั้งที่ปลูกต้นไม้หรือต้นมะนาวจะต้องมีไม้หลักค้ำยันต้น เพื่อไม่ให้ต้นโยกเอนจากแรงลม ซึ่งจะทำให้รากกระทบกระเทือนหยุดชะงักการเจริญเติบโตไป

ต้นมะนาวนิ้วมือในพื้นที่ปลูก 5 ไร่

ระยะปลูกมะนาวนิ้วมือ ตอนนี้ที่สวน ใช้ระยะปลูก 3×3 เมตร อยู่ ก็ดีในระดับหนึ่ง แต่คิดว่าระยะนี้ยังไม่เหมาะสมสำหรับแปลงปลูกที่ต้องการปลูกจำนวนมาก เพราะถ้าจะให้สะดวกเอาเครื่องจักรเล็กเข้าแปลงได้ ก็ควรจะขยับระยะปลูกให้ห่างขึ้นสัก 4×4 เมตร น่าจะเหมาะสมกว่านี้

อีกอย่าง มะนาวนิ้วมือโตค่อนข้างเร็ว อายุต้น 2-3 ปี ก็มีทรงพุ่มขนาดใหญ่พอสมควร แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสายพันธุ์ที่เหมาะสมต่อสภาพอากาศร้อน หรือสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่เหมือนที่บอกว่าการดูแลไม่ยุ่งยากอะไร ใช้พื้นฐานเดียวกับการปลูกมะนาวในบ้านเรา ทั้งเรื่องการใส่ปุ๋ย ให้น้ำ โรคและแมลง

ตั้งแต่ออกดอกจนเก็บผลขายได้ ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน

อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการปลูกมะนาวนิ้วมือในออสเตรเลีย มีข้อมูลว่า อุณหภูมิจะอยู่ระหว่าง 15-29 องศาเซลเซียส โดยเท่าที่ทราบมะนาวนิ้วมือในออสเตรเลียจะไม่มีผลผลิตให้ในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นมาก แต่ในสภาพแวดล้อมของประเทศไทยกลับติดดอกออกผลได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากภูมิอากาศบ้านเราค่อนข้างดีเหมาะสม ไม่มีสภาพอากาศแบบหนาวจัดเหมือนออสเตรเลีย ในบ้านเราก็ปล่อยให้ออกดอกติดผลตามธรรมชาติเหมือนมะนาวแป้นในฤดูกาล คือช่วงฤดูฝนจะติดผลได้ดกมากและติดผลลดน้อยลงไปบ้างในช่วงหน้าแล้ง

การเก็บมะนาวนิ้วมือ ควรสวมถุงมือหนังอย่างหนาเพื่อป้องกันหนาม