กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อน ของดีนครสวรรค์ หายากและยังเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดกาล

ตำบลตะเคียนเลื่อน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา อาชีพหลักส่วนใหญ่ของประชาชนในตำบลคือ การทำไร่ ทำสวนผลไม้ ซึ่งมีหลากหลายชนิดตามฤดูกาล ต่อมามีการนำพันธุ์กล้วยไข่จากจังหวัดกำแพงเพชรมาปลูก และมีการขยายพื้นที่ปลูกออกไป จึงเกิดการเรียนรู้ การปรับปรุง การพัฒนาคุณภาพการผลิตขึ้น จนเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วประเทศ

ต่อมาได้รับคำแนะนำ รวมทั้งเงินทุนในด้านการบริหารจัดการจากทางราชการ จึงมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ และกลุ่มแม่บ้านแปรรูปอาหารจากผลไม้ตามฤดูกาลขึ้น รวมถึงการผลิตและการจำหน่ายผลไม้สดตามฤดูกาลทั้งในพื้นที่อำเภอ จังหวัด จังหวัดใกล้เคียง และต่างประเทศ

ปัจจุบัน กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อน นับเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครสวรรค์ นับเป็นผลไม้ที่หายากตลาดมีความต้องการสูง ด้วยจุดเด่นที่กล้วยไข่ของที่ตำบลตะเคียนเลื่อนมีขนาดผลที่ใหญ่ ผิวสวย รสชาติดี เพราะมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และสภาพพื้นที่เหมาะสมในการปลูกกล้วยไข่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเคยมีการทดลองนำกล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนไปปลูกที่อื่นก็ไม่ได้ผลดีเหมือนปลูกที่ตะเคียนเลื่อน เพราะฉะนั้นกล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนจึงกลายเป็นงานเกษตรสร้างรายได้ และกลายเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของพี่น้องเกษตรกรชาวนครสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย

คุณสุเทพ ธาระนาม

คุณสุเทพ ธาระนาม อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ที่ 12 ตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนเป็นอาชีพ เล่าว่า ครอบครัวของตนมีอาชีพเป็นเกษตรกรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษปู่ ย่า ตา ยาย สืบมาถึงรุ่นพ่อ รุ่นแม่ และตกมาถึงรุ่นลูก ถือว่าตนเองมีความผูกพันได้ซึมซับวิถีชีวิตของการเป็นเกษตรกรมาตั้งแต่เกิด เมื่อโตมาจึงคิดว่าอาชีพเกษตรกรรมน่าจะเป็นอาชีพที่ถนัดและเหมาะกับตนมากที่สุด จึงยึดเป็นอาชีพมาเรื่อยๆ

ส่วนพืชหลักที่ปลูกเลี้ยงครอบครัว มีอยู่ 2 ชนิด คือ กล้วยไข่ และผักชีฝรั่ง ปลูกสลับกันไป เพราะต้องบอกตามตรงว่า ราคาพืชผลทางการเกษตรไม่แน่นอน กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนตลาดต้องการมากก็จริง แต่ราคาก็มีความผันผวนสูง บวกกับภัยธรรมชาติที่คาดเดาไม่ได้ จึงจำเป็นต้องหาปลูกพืชอายุสั้นอย่าง ผักชีฝรั่ง เสริม เพื่อป้องกันการผิดพลาด

สภาพแปลงปลูก ต้นเรียงแถวเป็นระเบียบ

ปลูกกล้วยไข่ตะเคียนเลื่อน ให้ได้คุณภาพ
เทคนิคสำคัญประกอบด้วยหลายปัจจัย

เจ้าของบอกว่า การปลูกกล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ลูกใหญ่ ผิวสวย รสชาติดี ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ตนก็เคยปลูกกล้วยไข่มาก่อน แต่ต้องหยุดไป เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ปลูกไม่เหมาะสม พื้นที่ต่ำเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ปลูกแล้วไม่เห็นทุน เห็นกำไร จึงหยุดปลูกไปสักพัก เพิ่งจะมาเริ่มฟื้นฟูการปลูกกล้วยไข่ใหม่อีกครั้ง นับปีนี้เป็นปีที่สอง เนื่องจากหาพื้นที่การปลูกที่เหมาะสมได้แล้ว

ดังนั้น การปลูกกล้วยไข่จึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน
1. พื้นที่ปลูกต้องมีความเหมาะสม ดินต้องเป็นดินร่วนซุย จะเหมาะกับการปลูกกล้วยไข่เป็นที่สุด
2. ต้องมีแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ ที่จังหวัดนครสวรรค์นับว่าโชคดีที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ มีระบบชลประธานไม่ขาด
3. ปุ๋ยอย่าให้ขาด พยายามเลือกใช้สูตรให้ตรงต่อความต้องการของพืช
4. กล้วยไข่จะเจริญเติบโตได้ดีในดินแรก พูดง่ายๆ คือ ต้องขยันเปลี่ยนแปลงปลูกทุกๆ 2 ปี เปลี่ยน 1 ครั้ง เพื่อคุณภาพและผลผลิตที่เท่าเดิม และถ้าสงสัยว่าไม่เปลี่ยนพื้นที่ได้ไหม แต่ใช้เป็นวีธีการบำรุงดินแทนก็ได้ แต่ด้วยที่เรามีข้อจำกัดเรื่องเงินทุน เรามีพื้นที่ปลูกเยอะจึงไม่คุ้ม ถ้าเปลี่ยนพื้นที่ปลูกจะง่ายและประหยัดต้นทุนมากกว่า

วิธีการปลูก

“ปัจจุบัน ผมปลูกกล้วยไข่บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ นับเป็นต้นก็ประมาณเกือบ 10,000 ต้น พันธุ์กล้วยที่ปลูกสืบเนื่องจากรุ่นพ่อรุ่นแม่ได้พันธุ์กล้วยมาจากกำแพงเพชร แล้วนำมาปลูกต่อที่บริเวณหลังบ้าน และนำมาขยายพันธุ์เพิ่ม แต่ที่ของเราผลใหญ่ ผิวสวย และรสชาติดี คงเป็นเพราะสภาพพื้นที่ของเรามีความอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการปลูกกล้วยไข่ที่สุด”เจ้าของบอก

กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อน มีจุดเด่นที่ ผลใหญ่ น้ำหนักดี ผิวสวย รสชาติอร่อย พิสูจน์ได้จากสมัยก่อนมีบริษัทส่งออกเคยมาทำและเขาบอกว่าผลผลิตที่นี่ดีกว่าจังหวัดอื่น ผลใหญ่กว่าที่อื่น ผิวสวย รสชาติอร่อย ตลาดส่วนใหญ่ต้องการผลผลิตจากที่นี่

การปลูกกล้วยไข่หลักๆ คือ ดินดี น้ำดี ปุ๋ยอย่าขาด ถ้าพื้นที่ใครมีองค์ประกอบที่กล่าวมาครบก็ทำได้

การเตรียมดิน…
โดยการใช้รถไถดะไถแปร ตากดินทิ้งไว้ 5-7 วัน เสร็จแล้วจ้างแรงงานขุดหลุม หลุมละ 2 บาท ขุดกว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 50 เซนติเมตร 1 ไร่ ปลูกได้ 400 ต้น ก่อนลงหน่อกล้วยสำคัญที่สุดคือ ต้องชุบน้ำยาเรียกรากและน้ำยากันปลวกก่อนลงหลุม หลังจากนั้นให้รดน้ำ

การให้น้ำ…ถ้าตอนปลูกใหม่ๆ ให้รดน้ำทุกวัน วิธีการรด เริ่มรดตั้งแต่ปลูก สมมุติเริ่มปลูกเดือนมกราคม ก็รดน้ำยาวมาถึงช่วงหน้าฝน ถ้าฝนไม่ตกก็ใช้คนเข้าช่วยรด

ระบบน้ำ ต่อท่อดูดน้ำจากบ่อบาดาล

ระยะการปลูก…เมื่อต้นกล้วยเริ่มแทงหน่อ มีอายุ 5-6 เดือน กล้วยจะเริ่มให้ปลี เมื่อมีอายุ 8 เดือน สังเกตการออกปลี ก้านปลีเริ่มยื่นยาวออก น้ำหนักมากขึ้นจึงโน้มห้อยลง ปลีจะเริ่มบานให้เห็นดอก เมื่อได้รับการผสมเกสรดอกจะพัฒนาเป็นกล้วย จากนั้นให้ตัดปลีที่ยังไม่บานออก นับไปอีก 45 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ 1 ต้น ให้ผลผลิตไม่ต่ำกว่า 6 กิโลกรัม 1 ไร่ ปลูกได้ 400 ต้น เท่ากับ 1 ไร่ ได้ผลผลิต 2,400 กิโลกรัม

ปุ๋ย…เดือนแรกยังไม่ต้องใส่ จะเริ่มใส่ปุ๋ยเดือนที่สอง เป็นปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ผสมกับปุ๋ยสูตรเย็น 46-0-0 อัตราการใส่ 1 เดือน ใส่ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 กำมือ จะช่วยเร่งความเจริญเติบโตทั้งต้นทั้งลูกอย่างชัดเจน

ใช้ถุงพลาสติกห่อผล เพื่อป้องกันแสงแดด

การห่อผล…คือเทคนิคทำให้ผิวสวย แต่ไม่ใช่แค่นำถุงมาห่ออย่างเดียวแล้วผิวของกล้วยจะสวยได้ เราจะต้องมีฮอร์โมนและยาฆ่าแมลงอ่อนๆ ไม่ให้แมลงรบกวน และไม่ให้เกิดเชื้อรา โดยจะฉีดยา 2 ครั้ง
ครั้งที่ 1 ฉีดตอนปลีจะเริ่มออกหัวปลีจะแดงๆ ขึ้นมา

ครั้งที่ 2 ฉีดตอนปลีโน้มห้อยลงมาจนคายปลีแล้วเห็นหวีทั้งหมด จะเริ่มใช้ถุงพลาสติกกัน ยูวี มาห่อ ตั้งแต่ตัดหัวปลีไปแล้ว

ต้นทุนการผลิต…คิดรวมค่าปุ๋ย ค่าแรงงาน แล้วต้นทุนตกต้นละ 30 บาท

หน่อกล้วยปลูกใหม่ทดแทนต้นที่เสียหาย

ปัญหา และอุปสรรค
ในการปลูกกล้วยไข่ ต้องรับมือให้ได้

การปลูกกล้วยไข่ ศัตรูตัวสำคัญคือ หนอนกอ ถ้าดูแลป้องกันไม่ดี หน่อกล้วยที่ปลูกจะตาย วิธีรับมือ ดังนี้
1. จุ่มสารเพื่อป้องกัน วิธีนี้ป้องกันได้ประมาณ 70% ยังไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมด แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย อย่างปีนี้ของผมปลูกเกือบ 10,000 ต้น ต้นตาย เพราะหนอนกอไป 1,200 ต้น ถือว่าเยอะมาก

2. ภัยธรรมชาติ คือ ลม ถ้าสมมุติกล้วยเป็นสาว บางปีคือกำลังจะตกเครือลมมาช่วงกำลังตกเครือ ต้นจะหักเรียบเลยนั้นคือปัญหา ต้องอาศัยดวง ถ้าจะแก้ด้วยการปลูกต้นไม้กันลม ถือว่ายังไม่คุ้ม เพราะการปลูกกล้วยไข่ยังต้องย้ายพื้นที่ปลูก ทิศทางลมมาไม่ตรงและแต่ละปีมาไม่เท่ากัน

3. ตรงนี้เป็นพื้นที่ต่ำ แต่มีความจำเป็น ถ้าจะเลือกพื้นที่สูง ดินไม่ดี พื้นที่ต่ำดินจะร่วนซุย ปลูกอะไรก็งาม ทำให้เราต้องเลือกที่ต่ำ แต่ว่าต้องลุ้นว่าปีนี้น้ำจะท่วมไหม ถ้าไม่เจอภัยธรรมชาติเลย ปีนั้นถือว่าโชคดีมีกำไรเต็มๆ

4. ให้ท่องไว้เสมอว่า ทุกอาชีพมีความเสี่ยง ถึงตอนนี้พืชผลที่เรากำลังปลูกอยู่ราคากำลังไปได้ดี แต่ก็ต้องมีแผนสำรองกันพลาดไว้ด้วย อย่างผมตอนนี้ไม่ได้ปลูกกล้วยไข่อย่างเดียว แต่ปลูกผักชีฝรั่งด้วย ทุก 4 เดือน ก็ได้ถอนขายมีเงินใช้หมุนเวียนในการทำเกษตรต่อไป

สภาพกล้วยภายในที่ถูกห่อด้วยถุงพลาสติกกันแดด

ปัจจุบันและอนาคต กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อน
ยังเป็นของดีหายากและตลาดมีความต้องการสูง

คุณสุเทพ บอกว่า ถ้าถามหาเหตุผลว่า ทำไม กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนจึงเป็นที่ต้องการของตลาดมาตลอด
1. เราได้เปรียบในเรื่องของพื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูก

2. ประสบการณ์ของเกษตรกรที่ปลูกกันมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมีการถ่ายทอดเทคนิคการปลูกจากรุ่นสู่รุ่น

3. มีเพียงไม่กี่พื้นที่ปลูกแล้วจะได้ผลดี ทั้งประเทศไทยมี 77 จังหวัด แต่พื้นที่เหมาะสำหรับการปลูกกล้วยไข่ มีแค่ 2-3 จังหวัด จึงทำให้กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อนยังเป็นที่ต้องการของตลาดตลอดมา ไม่เคยประสบปัญหาเรื่องผลผลิตล้นตลาด แต่อาจต้องมีเคล็ดลับสำคัญสักนิดคือ ต้องปลูกให้ตรงกับฤดูกาลที่ตลาดต้องการด้วย ถ้าไปปลูกชนกับผลไม้อย่างอื่นของเราจะขายยาก ควรวางแผนปลูกให้ผลผลิตออกช่วงที่เงาะหมด ทุเรียนหมด เราแค่เลือกปลูกไม่ให้ตรงกับพืชชนิดอื่น ช่วงที่ตลาดต้องการกล้วยไข่มากที่สุดอยู่ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน

ส่วนเรื่องของการตลาดจะมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อถึงสวนทุกปี เกษตรกรที่นี่ไม่ต้องไปหาตลาดเอง แค่ปลูกให้รอด มีผลผลิตขายให้พ่อค้าก็พอ ราคาก็ค่อนข้างมีความผันผวนบ้าง อย่างปีที่แล้วราคาแพงที่สุด อยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท แต่ปีนี้ปัญหาคือ แล้งกล้วยเหลือน้อย จากเคยปลูกกัน 10,000 ต้น ปีนี้เหลือ 5,000 ต้นก็มี ดังนั้น เมื่อผลผลิตมีน้อยพ่อค้าแม่ค้าต่างแย่งกันซื้อ ปีนี้ราคาขึ้นมาเป็น กิโลกรัมละ 15 บาทแล้ว และตลาดในต่างประเทศตอนนี้ก็มีติดต่อเข้ามาบ้าง เรากำลังอยู่ในช่วงเตรียมการ เพราะเมื่ออดีตที่ตำบลตะเคียนเลื่อนเคยมีนายทุนมาผลิตกล้วยไข่ส่งออกนอกและได้ผลดีจริงๆ แต่ต้องหยุดไป เพราะผลผลิตไม่พอต่อการส่งออก และตอนนี้เริ่มมีบริษัทมาติดต่อให้ทำส่งออกนอกอีกครั้ง เพราะตลาดต้องการผลผลิตกันมากขึ้น เขาจึงวิ่งมาหาเรา ผมจึงเริ่มคุยกับเขาว่าจะเริ่มทำส่งให้ปีนี้ ซึ่งสถานการณ์ตรงนี้ก็ส่งผลไปถึงตลาดในประเทศด้วย พ่อค้าแม่ค้าในประเทศมีการปรับราคารับซื้อให้สูงขึ้น ถือเป็นของหายาก

กล้วยไข่ตะเคียนเลื่อน ผิวสวย ลูกใหญ่ รสชาติอร่อย ไม่ทำให้ผิดหวัง

ฝากถึงเกษตรกร
ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร ใจต้องมาก่อน

การเป็นเกษตรกรถือเป็นอาชีพที่หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน
1. ใครจะเดินทางสายนี้ใจต้องมาก่อน ถ้าใจไม่รัก ก็ทำไม่ได้ เพราะการทำการเกษตรต้องตากแดดตลอด
2. ต้องมีความรู้มากพอ ผมก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง เก่งเฉพาะเรื่องกล้วยกับผักชีฝรั่ง ถ้ามือใหม่คิดอยากจะทำก็ทำได้ เพียงแค่ต้องหมั่นหาความรู้อยู่ตลอด เรียนรู้กระบวนการทุกอย่าง ถือว่าไม่ยาก เพราะไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของคน และที่ผ่านมาถือว่ากล้วยไข่เลี้ยงผมและครอบครัวได้เป็นอย่างดี

สนใจ หน่อพันธุ์กล้วยไข่ หรือซื้อผลผลิตของ คุณสุเทพ ธาระนาม ติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 081-324-1885

(จากซ้ายไปขวา) คุณพงษ์ธร ชุติมานันท์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ คุณสุเทพ ธาระนาม เกษตรกรผู้ปลูกกล้วยไข่ คุณพัชรี ไกรกาศ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ