ผู้เขียน | อนัญญา นิตย์ใหม่ |
---|---|
เผยแพร่ |
ความเดิมเมื่อตอนที่แล้ว…ทีมงานศรแดง ได้พาไปดูแปลงปลูกข้าวโพดสวีทไวโอเล็ทของเกษตรกร รวมทั้งพูดคุยกับผู้ซื้อ ทำให้ทราบว่า งานปลูกข้าวโพด ขายผลผลิตได้เร็ว มีรายได้แน่นอน เพราะซื้อในราคาประกัน
วันต่อมา คือ วันที่ 29 มิถุนายน 2562 ณ ศูนย์การเรียนรู้ KC FARM อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดงานนวัตกรรมและเทคโนโลยีซันสวีท ครั้งที่ 4 และพิธีร่วมลงนาม (MOU) ระหว่าง บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพ อันดับ 1 ในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ดัง ตราศรแดง และ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) นำโดย คุณวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด และ ดร. องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นำนวัตกรรมระดับสากลของรถเกี่ยวข้าวโพดสู่เกษตรกรไทย และร่วมผนึกกำลังในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวและพืชผักอื่นๆ สำหรับตลาดแปรรูปพร้อมรับประทานเข้าสู่ตลาดสะดวกซื้อเป็นรายแรกของประเทศไทย โดยมี คุณอิสระ วงศ์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด และ คุณอัมพนธ์ สุริยัง ผู้จัดการฝ่ายผลิต บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เป็นสักขีพยานการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างทั้ง 2 บริษัท
คุณวิชัย กล่าวว่า “อีสท์ เวสท์ ซีด เรามีวิสัยทัศน์ที่จะยกระดับชีวิตของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เข้าใจความต้องการของเกษตรกรว่าต้องการอะไร เราพยายามที่จะหาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา และนำเสนอเทคโนโลยีเหล่านั้นสู่เกษตรกรไทย โดยเทคโนโลยีเหล่านั้นอาจจะเป็นเรื่องประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งนั่นก็นำไปสู่คุณภาพชีวิตของเกษตรกรที่ดียิ่งขึ้นอย่างยั่งยืนนั่นเอง”
การเซ็น MOU ในครั้งนี้ มี 2 โครงการ สำคัญๆ คือ
โครงการที่ 1 โครงการร่วมมือในการนำนวัตกรรมของรถเกี่ยวข้าวโพดระดับสากลสู่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดของไทย ซึ่งเราศึกษาแล้วพบว่า รถเกี่ยวข้าวโพดนี้มีประโยชน์ต่อเกษตรกรในแง่ของการประหยัดต้นทุนในการเก็บเกี่ยวทั้งทางด้านแรงงานและเวลา และที่สำคัญรถรุ่นนี้มีการพัฒนามาเพื่อใช้ในพื้นที่การเพาะปลูกขนาดเล็ก ซึ่งเหมาะกับพื้นที่การเพาะปลูกในประเทศไทย ซึ่งจากการศึกษาพบว่า รถเกี่ยวสามารถลดต้นทุนในด้านแรงงานลงไปอย่างน้อย 50% ของต้นทุนที่ใช้ในปัจจุบัน
โครงการที่ 2 อีสท์ เวสท์ ซีดฯ เราจับมือ กับ ซันสวีท นำข้าวโพดข้าวเหนียวคุณภาพสูงพร้อมรับประทานสู่ตลาดสะดวกซื้อเป็นรายแรกของไทย อย่างที่ทุกท่านคงทราบกันดีว่า ข้าวโพดพร้อมรับประทานสำเร็จรูปที่เราพบเห็นในตลาดนั้นเป็นข้าวโพดหวาน ไม่พบข้าวโพดข้าวเหนียวเลย ซึ่งทาง อีสท์ เวสท์ ซีดฯ เราเป็นผู้นำอันดับ 1 ของเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสม
โดยสายพันธุ์ที่เป็น เบอร์ 1 ในตลาดตอนนี้คือ พันธุ์สวีทไวโอเล็ท ของศรแดง ซึ่งในปี 2561 ที่ผ่านมา เราได้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์สวีทไวโอเล็ทคิดเป็นจำนวนมากกว่า 150,000 กิโลกรัม หรือคิดเป็นปริมาณฝักสดที่อยู่ในท้องตลาด จำนวน 615,000,000 ฝัก (หกร้อยสิบห้าล้านฝัก) ซึ่งตลาดปลายทางของฝักสดสายพันธุ์นี้ถูกกระจายไปตามตลาดสินค้าเกษตร และตลาดสด จนถึงตลาดนัด แผงต้มข้างทางทั่วประเทศ
แต่ในปัจจุบัน พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยผู้บริโภคมักจะเข้าไปจับจ่ายซื้อของในร้านสะดวกซื้อ บวกกับเทรนด์รักสุขภาพมาแรง คนส่วนใหญ่สนใจในเรื่องของสารอาหารที่จะได้รับ ซึ่งสวีทไวโอเล็ทข้าวโพดข้าวเหนียวหวานที่มี 2 สี ในฝักเดียวคือ สีขาวและสีม่วง ด้วยคุณประโยชน์ของข้าวโพดที่เรารู้จักกันอยู่แล้วว่ามีมากมาย บวกกับแอนโทไซยานินที่พบมากในผักสีม่วง ข้าวโพดข้าวเหนียวสวีทไวโอเล็ทจึงน่าจะตอบโจทย์คนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีพืชผักอื่นๆ อีกหลายตัว เช่น ฟักทอง เป็นต้น ที่วางแผนจะนำเข้าสู่ผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน เราจึงหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูป ซึ่งซันสวีทถือเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านข้าวโพดและพืชผักแปรรูปพร้อมรับประทานเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
อีกทั้งซันสวีทยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ อีสท์ เวสท์ ซีดฯ จึงผนึกกำลังกับซันสวีทโดยการนำร่อง ข้าวโพดข้าวเหนียวพันธุ์สวีทไวโอเล็ทของเราที่มีความโดดเด่นในเรื่องคุณภาพฝัก เมื่อนำไปแปรรูปแล้วพบว่า คุณภาพเหมือนฝักที่พึ่งต้มมาใหม่ รสชาติยังดี หวาน เหนียว นุ่ม เข้าสู่ตลาดข้าวโพดข้าวเหนียวพร้อมรับประทาน สู่ตลาดสะดวกซื้อ ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกในไทย
ดร. องอาจ กิตติคุณชัย
ได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“ปัจจุบัน ข้าวโพดข้าวเหนียวหวานเป็นที่ต้องการด้านอาหารของตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ ซันสวีท จึงเร่งเดินหน้ารุกตลาดข้าวโพดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยมี 3 กลยุทธ์หลัก คือ
- เพิ่มช่องทางการค้าปลีก เน้นอาหารพร้อมรับประทาน
- ขยายไลน์สินค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารแช่แข็ง
- สร้างนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ
โดยเพิ่มกำลังผลิตและมุ่งยกระดับคุณภาพของวัตถุดิบให้มีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เพื่อความสามารถรักษาฐานลูกค้าเก่าและรองรับลูกค้าใหม่ได้อย่างทั่วถึง
เนื่องจากทางบริษัทมีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานในรูปแบบที่หลากหลายขึ้น เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทได้เล็งเห็นโอกาสในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดหวานและข้าวโพดข้าวเหนียวสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูง ทั้งด้านคุณภาพ การบริโภคเหมาะสำหรับการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก จึงได้ร่วมมือกับ “อีสท์ เวสท์ ซีดฯ” ในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพด เพื่อเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมข้าวโพดหวานให้สูงขึ้น เพิ่มขีดความสามารถของทั้งสองฝ่าย และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านเมล็ดพันธุ์ต่อไป”
ทำไม ซันสวีท ถึงเลือกพันธุ์ สวีทไวโอเล็ท ของ ศรแดง
เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวแปรรูปรายแรกในไทย
“เริ่มจากผมไปประเทศเกาหลีมา แล้วพบว่า ตลาดเกาหลีมีความต้องการข้าวโพดข้าวเหนียว 2 สี ทีนี้ผมมาดูสายพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวในไทย พบว่า พันธุ์สวีทไวโอเล็ทของศรแดงเป็นสายพันธุ์ อันดับ 1 ในตลาดอยู่แล้ว ทางศรแดงทำมานานมาก ผมได้เคยทำการทดลองข้าวโพดข้าวเหนียวหลายๆ สายพันธุ์มาแล้ว พบว่า พันธุ์สวีทไวโอเล็ท เมื่อนำมาแปรรูปแล้วคุณภาพการกินดี เหมือนฝักที่ต้มมาใหม่ๆ
และเนื่องจาก อีสท์ เวสท์ ซีดฯ เป็นบริษัทเมล็ดพันธุ์ อันดับ 1 ที่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการผลิตสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ และเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับสูงแล้ว และผนวกมากับซันสวีทที่มีเทคโนโลยีการแปรรูปที่ทันสมัยอยู่แล้ว จึงมาผสานกันได้ง่ายๆ ผมไม่ต้องใช้เวลา 3-5 ปี มาพัฒนาสายพันธุ์ ผมจึงเลือกสวีทไวเล็ทของศรแดงมาเป็นข้าวโพดข้าวเหนียวแปรรูปรายแรกในประเทศไทยครับ” ดร. องอาจ บอก
คุณอิสระ พาเยี่ยมชมซุ้ม พร้อมแนะนำ
ข้าวโพดสายพันธุ์ต่างๆ ภายในซุ้มศรแดง
คุณอิสระ กล่าวว่า “ข้าวโพดพันธุ์สวีทไวโอเล็ท ที่ผมบอกพันธุ์นี้เป็นพันธุ์พระเอก เนื่องจาก ณ วันนี้ รสชาติก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคด้วย 2 เหตุผล ข้อแรก เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวที่มีเมล็ดหวานปนอยู่ 25 เปอร์เซ็นต์ นะครับ ข้อที่สอง คือมีเมล็ด 2 สี คือสีม่วงและสีขาว ซึ่งสีม่วงเองก็มีประโยชน์ทางด้านแอนโทไซยานินที่เป็นสารที่ต่อต้านพวกสารอนุมูลอิสระ
เหตุที่ว่า ทำไมพันธุ์นี้จึงกลับมาเป็นพระเอก เนื่องจากว่าเมื่อก่อนนี้ พันธุ์นี้ปลูกแล้วก็ขายในตลาดทั่วๆ ไป แต่ทุกวันนี้ยกระดับขึ้นมาเป็นสายพันธุ์ที่ทางซันสวีทเลือกเข้าไปแปรรูปเพื่อจัดจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อนะครับ เป็นข้าวโพดพร้อมรับประทานครับ พันธุ์นี้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค และที่สำคัญตอบโจทย์กลุ่มเกษตรกร เพราะว่าปลูกไปแล้วเนี่ยเกษตรกรได้ผลผลิตเฉลี่ย 1.8 ถึง 2 ตัน ซึ่งคิดเป็นรายได้ที่หักต้นทุนแล้วเขาก็จะได้อยู่ที่ 5,000 ถึง 6,000 บาท ต่อไร่ ต่อการปลูก 1 รอบ ใช้เวลา 65 วัน ถึง 70 วัน ขึ้นอยู่กับฤดูกาล
โดยทั่วไปเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดพันธุ์ตราศรแดงจะอยู่มาตรฐานที่ 98 เปอร์เซ็นต์ นะครับ แล้วเราก็เป็นบริษัทเดียวที่มีการเคลือบเมล็ดด้วยสารเคมีที่จะช่วยลดในเรื่องของความเสียหายในระยะของการเพาะปลูก ทำให้ต้นแข็งแรงขึ้น สารที่เคลือบเข้าไปจะทำให้ระบบรากแข็งแรงขึ้น เพราะฉะนั้นเวลาปลูกช่วงฤดูแล้งระบบรากของเขาก็จะหาน้ำหาอะไรได้มากขึ้น ก็จะทำให้อัตราการรอดของต้นมากขึ้นไปด้วยนะครับ”
คุณอิสระ เผย “จุดเด่นของสวีทไวโอเล็ท หนึ่ง ก็คือ เรื่องของรสชาตินะครับ สอง คือความแปลกใหม่ที่มี 2 สี สามคือเรื่องของผลผลิตที่สูง ที่สำคัญเลยที่ผมอยากจะเน้นย้ำ ข้าวโพดตัวนี้หลังจากที่ปลูกแล้ว หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วจะอยู่ในท้องตลาดที่เราเรียกกันว่า เชลไลฟ์ 3 วัน โดยที่รสชาติยังเหมือนเดิม ข้าวโพดบางพันธุ์เวลาเก็บเกี่ยวไปแล้วเขาจะเปลื่ยนเป็นแป้งแล้วมันจะแข็ง แต่ตัวนี้เขาคงสภาพ เหนียว นุ่ม หวาน ประมาณสามถึงสี่วัน ทุกวันนี้สายพันธุ์นี้ปลูกได้ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย การันตีได้ว่าเป็นที่นิยมของตลาดด้วยยอดขายที่มากกว่า 140 ตัน ต่อปี”
คุณอิสระ กล่าวว่า “นอกจากพันธุ์ข้าวโพดที่เป็นพันธุ์สวีทไวโอเล็ทที่ออกสู่ตลาดแล้ว ก็ยังคงมีพันธุ์ใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดอีก อันนี้เป็นพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวม่วง เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวสีม่วงล้วนเลย คุณประโยชน์ของเขาเราเน้นเรื่องของคุณค่าทางอาหาร แอนโทไซยานินที่มากกว่าในสวีทไวโอเล็ท เพราะว่าทุกเมล็ดนั้นเป็นสีม่วง
และอีกตัวที่อยากจะแนะนำ เมื่อก่อนนี้เราจะรู้จัก ข้าวโพดเทียน คือข้าวโพดที่เป็นพันธุ์ผสมเปิด มีปัญหาในเรื่องของผลผลิต แต่ว่าความเด่นของเขาเป็นเรื่องของรสชาติ ณ วันนี้เอง อีสท์ เวสท์ ซีดฯ ก็เข้ามาทำการพัฒนา ปรับปรุงให้ข้าวโพดเทียนมีความสม่ำเสมอ มีเปอร์เซ็นต์การงอกที่ดี และคงรสชาติของการเป็นข้าวโพดเทียนอยู่นะครับ ตัวนี้กำลังจะออกสู่ตลาดเป็นตัวใหม่เลย ชื่อว่า เทียนหมื่นฝัก
สงสัยไหมครับว่า ทำไม ถึงชื่อ เทียนหมื่นฝัก เพราะว่าหนึ่งเลย รสชาติ คุณภาพเหมือนข้าวโพดเทียน สองเราเป็นบริษัทแรกที่ทำขึ้นมา ใน 1 ต้น เราจะมี 2 ฝัก นะครับ โดยปกติข้าวโพดทั่วไป 1 ต้น จะมีเพียง 1 ฝัก แต่ตัวนี้ได้รับการพัฒนามา ในการปลูก 100 ต้น 80 เปอร์เซ็นต์ หรือ 80 ต้น จะได้ต้นละ 2 ฝัก ถามว่า พอได้ 2 ฝัก อะไรที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกร ก็คือว่า จำนวนฝัก ผลผลิตที่มากขึ้น คูณ 2 เข้าไปเลย ปัจจุบันนี้พันธุ์นี้ยังถือได้ว่าเป็นข้าวโพดข้าวเหนียวอยู่ อันดับต่อไปเราก็จะปรับปรุงให้เป็นข้าวโพดข้าวเหนียวปนหวาน 25 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับสวีทไวโอเล็ท”
คุณวิชัย กล่าว “ที่ถืออยู่นี้คือ สวีทไวโอเล็ท ซึ่งสวีทไวโอเล็ทเป็นตัวแชมเปียนของ บริษัท ศรแดง มาเป็น 10 ปีแล้วนะครับ สวีทไวโอเล็ทเป็นข้าวโพดเหนียวหวาน 2 สี สีขาว คือส่วนของข้าวโพดข้าวเหนียว ส่วนสีม่วง เป็นตัวแอนโทไซยานิน เป็นตัวเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้กับสินค้าตัวนี้ จุดเด่นของตัวสวีทไวโอเล็ท นั่นคือ รสชาติที่ตอบโจทย์เกษตรกร เหนียวนุ่มแล้วก็หวาน อีกอย่างหนึ่งก็คือ เวลากัดกินเราจะรู้สึกว่ามันหลุดล่อนง่าย ไม่ติดฟัน ไซซ์ก็พอเหมาะ
การเซ็น MOU ในวันนี้ ก็เพื่อตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงไปเยอะ ทุกวันนี้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยผ่านทางร้านสะดวกซื้อมากขึ้น ในขณะที่สินค้าตัวนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หาได้ตามตลาดสด ตลาดข้างทางหรือว่าตลาดนัด เราพยายามสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าของทางบริษัท เราก็เลยมีการเซ็น MOU กับทาง บริษัท ซันสวีท ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านแปรรูปสินค้าทางการเกษตร เพื่อที่จะสร้างโอกาสให้กับสินค้าของทาง อีสท์ เวสท์ ได้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ผ่านทางช่องทางร้านสะดวกซื้อครับ”
หลังจากพิธีลงนาม (MOU) ระหว่าง บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด และ บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ว่าด้วยการนำข้าวโพดข้าวเหนียว สายพันธุ์ “สวีทไวโอเล็ท” มาแปรรูปพร้อมรับประทานบรรจุในถุงสุญญากาศได้เสร็จสิ้นลง เหล่าสื่อมวลชนได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋องของทาง บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
ทุกคนตื่นตาตื่นใจ กับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในทุกขั้นตอน