Beijing Expo 2019 ไทยร่วมโชว์ศักยภาพการเกษตรหลายด้าน เปิดหน้าต่างการซื้อขายสินค้าคุณภาพ เกิดรายได้อย่างยั่งยืน

งาน The International Horticultural Exhibition 2019 หรือ Beijing Expo 2019 เป็นงานแสดงพืชสวนนานาชาติระดับ A1 (A1 International Horticultural Exposition) ซึ่งได้รับการรับรองจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (AIPH: International Association of Horticultural Producers) และสำนักงานจัดงานมหกรรมนานาชาติ (BIE: Bureau of International Expositions) คาดว่ามีผู้ร่วมจัดแสดงจาก 80 ประเทศ 20 องค์กร โดย 73 ประเทศและองค์การต่างประเทศ เข้าร่วมนิทรรศการภายนอกอาคาร และ 27 ประเทศและองค์การต่างประเทศเข้าร่วมนิทรรศการภายในอาคาร ผู้เข้าชมงาน 16 ล้านคน

ว่าที่ร้อยตรี สมสวย ปัญญาสิทธิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

กำหนดการจัดงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 เมษายน ถึง 7 ตุลาคม ณ เขตเหยียนชิ่ง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยแนวคิดในการจัดงาน คือ “Live Green, Live Better” มีพื้นที่จัดงานถึง 6,000 ไร่ วัตถุประสงค์ของการจัดงานนั้นก็เพื่อแลกเปลี่ยนและขยายความร่วมมือในเรื่องพืชสวนระหว่างกัน พร้อมทั้งสร้างความตระหนักรู้ถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืนที่มีความสมดุลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

คณะผู้บริหารเดินชมนิทรรศการต่างๆ

ซึ่งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เชิญประเทศไทยเข้าร่วม The International Horticultural Exhibition 2019 หรือ Beijing Expo 2019 กระทรวงพาณิชย์ในฐานะผู้แทนไทยในองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE) ได้สอบถามความคิดเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงความเป็นไปได้ ในการที่จะร่วมงานนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาแล้วเห็นว่า การที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงาน Beijing Expo 2019 จะเกิดประโยชน์ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ สินค้าเพื่อสุขภาพของไทย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศได้เห็นถึงศักยภาพและความหลากหลาย และเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของผลผลิตสินค้าพืชสวนของไทย จึงจะช่วยขยายโอกาสทางการตลาดสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการศึกษาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการผลิตพืช ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการผลิตการตลาดของประเทศไทย รวมถึงประชาสัมพันธ์เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ

เปิดงานสัปดาห์ประเทศ (Thailand Week) ในงาน Beijing Expo 2019

คณะรัฐมนตรีจึงมีมติ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560 อนุมัติการเข้าร่วมงาน The International Horticultural Exhibition 2019 หรือ Beijing Expo 2019 โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักการเข้าร่วมงาน และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรพิจารณาดำเนินการเข้าร่วม Beijing Expo 2019 โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้เห็นชอบหลักการเข้าร่วมงาน Beijing Expo 2019 ในลักษณะสวนถาวรภายนอกอาคาร บนพื้นที่ 1,600 ตารางเมตร ตลอดระยะเวลาจัดงาน และจัดทำโครงการเข้าร่วมงานเป็นการจัดแสดงนิทรรศการและให้บริการข้อมูลด้านสินค้าเกษตร วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่นๆ

ว่าที่ร้อยตรี สมสวย ปัญญาสิทธิ์ ทำอาหารให้ผู้เข้าร่วมงานได้รับประทาน

สวนถาวรภายนอกอาคารที่จัดแสดงในงาน คือ บ้านไทย (Thailand Pavilion) ตั้งอยู่ในโซนนิทรรศการนานาชาติ (International Exhibition Zone) บนพื้นที่ G51 และ G52 ขนาดรวม 1,600 เมตร หรือ 1 ไร่ ประกอบด้วย อาคารแสดงสินค้าและบริการข้อมูลประเทศไทย ขนาดพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นเรือนไทยหมู่ภาคกลางจำนวน 3 หลัง ส่วนพื้นที่ด้านนอกที่เหลือได้ทำการตกแต่งภูมิทัศน์เป็นสวนไทย ดำเนินการในลักษณะ Team Thailand โดยมีหน่วยงานหลักดำเนินการ ได้แก่ กรมศิลปากร กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการดำเนินการ ดังนี้

  1. สร้างบ้านไทย (Thailand Pavilion) ในลักษณะเรือนไทยหมู่ภาคกลาง เพื่อแสดงอัตลักษณ์วิถีชีวิตคนไทยตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้แนวคิด “The Green Way of Life, the Thai Way of Sufficiency” โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเป็นสถานที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการและให้บริการข้อมูลด้านสินค้าเกษตร วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และกิจกรรมอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับวิถีของคนไทย และวัฒนธรรมไทยอย่างเป็นรูปธรรม เรียบง่าย และใช้ได้จริง ผ่านบ้านไทยโบราณและสวนไทยด้านแนวความคิด “ซุปเปอร์มาร์เก็ตรอบบ้าน”
  2. จัดนิทรรศการถาวร ภายใต้แนวคิด Thailand, Kitchen of the World โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นหน่วยงานดำเนินการหลัก นำเสนอสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ และให้บริการข้อมูลทางด้านการเกษตรและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจัดแสดงสินค้า Thai select และจัดแสดงสินค้าแปรรูปที่มีศักยภาพทางการตลาด รวมทั้งจะพิจารณาถึงสินค้าที่มีโอกาสแต่ยังไม่สามารถทำตลาดได้
  3. จัดนิทรรศการท่องเที่ยวไทย โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นำเสนอเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญและการท่องเที่ยวในเมืองรอง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลประจำตลอดระยะเวลา 6 เดือน และมีเอกสารข้อมูลทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษแจกแก่ผู้เข้าชมงาน
  4. จัดนิทรรศการหมุนเวียนภายในแนวคิด Quality of Thailand’s Seasonal Horticultural Products นำเสนอความอุดมสมบูรณ์ คุณภาพ และความหลากหลายตามฤดูกาลของสินค้าเกษตรพืชสวนไทย กลุ่มสินค้าที่นำไปจัดแสดง ประกอบด้วยกล้วยไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชผัก สมุนไพร และผลไม้นานาชนิด

เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ว่าที่ร้อยตรี สมสวย ปัญญาสิทธิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ประเทศ (Thailand Week) ในงาน Beijing Expo 2019 ณ Thailand Pavilion (บ้านไทย) เมืองเหยียนชิง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้แทนประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมจัดงานให้เกียรติเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

บ้านไทย (Thailand Pavilion)

ว่าที่ร้อยตรี สมสวย ให้ข้อมูลว่า การเข้าร่วมจัดงาน Beijing Expo 2019 ในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลัก โดยดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในนามทีมประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์สินค้าเพื่อสุขภาพของไทย ให้ผู้เข้าชมงานทั้งชาวจีนและชาวต่างประเทศ ได้เห็นถึงศักยภาพและความหลากหลาย และเกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานของผลผลิตสินค้าพืชสวนของไทย ขยายโอกาสทางการตลาดสินค้าเกษตรให้มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มมากขึ้น การศึกษาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการผลิตพืช ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการผลิตการตลาดของประเทศไทย และประชาสัมพันธ์เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ

“การเข้าร่วมจัดงานในครั้งนี้ เรามีความคาดหวัง ว่าจะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ คือ ประเทศไทยและประเทศจีน ในการที่จะนำเสนอสินค้าทางด้านการเกษตรสู่ชาวโลก ทั้งเป็นการเผยแพร่เทคโนโลยีและการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้ผู้เข้าร่วมงานได้ชม พร้อมกันนี้ ยังได้นำสินค้าทางการเกษตรมาร่วมจัดแสดงในโซนนิทรรศการถาวร และติดคิวอาร์โค้ดที่เป็นข้อมูลของเกษตรกรบนสินค้านั้นๆ เพื่อให้ผู้บริโภคหรือผู้เข้าชมนิทรรศการที่ต้องการติดต่อกับผู้ผลิต ก็สามารถติดต่อซื้อขายได้ทันที และสิ่งที่สำคัญเรายังมีการส่งเสริมการสร้างมูลค่าสินค้าทางการเกษตร การขายสินค้าเกษตรให้กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีความนิยมสินค้าไทยหลากหลายชนิด” ว่าที่ร้อยตรี สมสวย กล่าว

โซนอาหารไทยได้รับความสนสจจากนักท่องเที่ยวจีนอย่างมาก

พืชที่นำมาจัดแสดงภายในงาน Beijing Expo 2019 มีตั้งแต่ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผลขึ้นชื่อของไทยอย่างทุเรียนและมังคุด ซึ่งเป็นราชาและราชินีของผลไม้ไทยที่สร้างรายได้เข้าประเทศปีละประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีพืชผักและสมุนไพรที่อยู่ในประเทศไทยมาจัดแสดง เพื่อให้การร่วมงานในครั้งนี้ให้ผู้เข้าชมงานได้เห็นถึงสิ่งต่างๆ ในเรื่องของการทำเกษตรของไทยได้อย่างครบถ้วน ซึ่งสมุนไพรไทยเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ปัจจุบันชาวจีนค่อนข้างให้ความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการนำมาใช้ในทางการบีบนวดแพทย์แผนไทย การทา การประคบ การเป็นยาหอม เรียกว่าสมุนไพรไทยค่อนข้างเป็นที่นิยมของชาวจีนอยู่ในขณะนี้

การแสดงสวนภายนอกอาหารของประเทศจีน

นอกจากนี้ การส่งจำหน่ายสินค้าสดเพื่อส่งออกมาจำหน่ายยังต่างประเทศ ว่าที่ร้อยตรี สมสวย กล่าวว่า จะพบปัญหาในเรื่องของการควบคุมโรคและแมลงเป็นอุปสรรคหลัก จึงทำให้อาจมีผลต่อการกีดกันทางการค้าได้ ส่งผลให้ผู้รับซื้อและเกษตรกรในประเทศมีการแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน โดยนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปมากขึ้น ซึ่งผู้บริโภคในประเทศจีนเองเริ่มนิยมในสินค้าแปรรูป เพราะนอกจากจะเก็บรักษาได้นานแล้ว มีความสะดวกในหลายๆ ด้าน ส่งผลให้ผู้ประกอบการของไทยมีการปรับตัวและผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด นั้นก็คือ การผลิตสินค้าแปรรูปจากผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการขนส่งและไม่เกิดปัญหาว่าสินค้าสดถูกตีกลับ จนทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเสียหายจนถึงขั้นขาดทุน

โซนปลูกพืชผักจากประเทศจีน

“การที่เราได้มาร่วมงานพืชสวนโลกหรือ Beijing Expo 2019 มันก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ลูกค้าชาวจีนมีความเชื่อมั่นว่า สินค้าทางการเกษตรของเราไม่ได้มีผลผลิตสดอย่างเดียว ยังมีสินค้าที่มีมาตรฐานจากการแปรรูป เพราะนิทรรศการที่เรานำมาจัดแสดงจะมีคิวอาร์โค้ดติดกับสินค้า ดังนั้น ผู้ซื้อที่ต้องการทำการซื้อขายกับผู้ประกอบการไทย ก็สามารถติดต่อข้อมูลโดยตรงจากคิวอาร์โค้ดได้ทันที จึงทำให้ขั้นตอนการซื้อขายเป็นไปได้อย่างเรียบร้อย คือผู้ซื้อชาวจีนและผู้ประกอบการชาวไทย ได้พูดคุยกันโดยตรง จึงมีศักยภาพในการผลิตที่ดียิ่งขึ้น ตรงตามอัตลักษณ์ที่ถูกต้องตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้โชว์ศักยภาพ และผลิตสินค้าตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป” ว่าที่ร้อยตรี สมสวย กล่าว

จากการที่ไทยได้เข้าร่วมการจัดแสดงพืชสวนโลกมาโดยตลอด ว่าที่ร้อยตรี สมสวย กล่าวว่า ประเทศไทยก็จะนำผู้ประกอบการในประเทศไปนำเสนอสินค้าในทุกรูปแบบ จึงทำให้สินค้าของไทยหลายอย่างสามารถจำหน่ายได้มูลค่าในแต่ละปีหลายหมื่นล้านบาท เพราะมีการซื้อขายกันโดยตรง อย่างเช่น ข้าวสาร ทุเรียน ลำไย มังคุด และอื่นๆ อีกหลายชนิด ซึ่งสินค้าเหล่านี้ได้รับความนิยมในหลายนานาประเทศ จนทำให้บางประเทศส่งคนมาร่วมคิดร่วมทำผลิตค้นคว้าสินค้าเกษตรเพื่อไปจำหน่ายในประเทศของตนเอง ฉะนั้น เมื่อประเทศไทยได้มาเข้าร่วมการจัดงานพืชสวนโลก หรือ Beijing Expo 2019 จึงเป็นการช่วยเปิดหน้าต่างของสินค้าไทย โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจึงเป็นเหมือนตัวกลางในการนำเสนอผลผลิตทางการเกษตรของประเทศไทย และให้เกิดการซื้อขายสินค้าที่หลากหลาย โดยลูกค้าสามารถติดต่อกับผู้ประกอบการได้โดยตรง และนำรายได้เข้าประเทศได้หลักหมื่นล้านบาท จึงทำให้เกษตรกรที่ต้องการส่งสินค้าไปขายยังตลาดต่างประเทศ มีการเตรียมตัวในด้านต่างๆ เพื่อให้สินค้ามีมาตรฐานและสามารถส่งทำตลาดยังต่างประเทศได้

“เมื่อตลาดต่างประเทศเริ่มเข้ามาในบ้านเรามากขึ้น ตอนนี้เกษตรกรหลายรายได้มีการตื่นตัว โดยบ้านเราตั้งการผลิตอยู่ 3 หลัก คือ 1. การขายเป็นรายได้ 2. การทำเพื่อบริโภค และ 3. การทำเป็นรายได้และบริโภค ดังนั้น เกษตรกรที่ต้องการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ ก็ต้องผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและตรงตามที่ตลาดต้องการ โดยควบคุมการผลิตให้ตรงตามลูกค้ากำหนด เช่น การผลิตที่ไม่มีสารพิษตกค้าง การส่งสินค้าสดที่ไม่มีโรคและแมลงปนไปกับสินค้า จึงทำให้เกษตรกรต้องมีศักยภาพและปรับตัวให้เท่าทันตลาดอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบันเกษตรกรไทยจำนวนมากก็ดำเนินการตามนี้แล้ว อย่างเช่น การทำเกษตรแปลงใหญ่รวมตัวกันขายสินค้า จึงทำให้ลูกค้าต่างประเทศติดต่อซื้อขายได้ง่าย ไม่ต้องผ่านหลายๆ สวน เพื่อให้ได้สินค้าจำนวนมากๆ แต่ซื้อผ่านกลุ่มได้โดยตรง สินค้าจึงมีความเพียงพอ และควบคุมในเรื่องของคุณภาพได้ ดังนั้น การทำเกษตรแปลงใหญ่ในบ้านเราตอนนี้ ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์ในการทำสินค้ามาตรฐานส่งออก เพราะควบคุมได้ทั้งคุณภาพและผู้ซื้อสามารถประหยัดเวลาในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี” ว่าที่ร้อยตรี สมสวย กล่าวว่าทิ้งท้าย

พื้นที่จัดงานทั้งหมด 6,000 ไร่
การจัดแสดงโชว์นิทรรศการภายในอาคาร

นิทรรศการถาวรของประเทศเนปาล
นิทรรศการจากประเทศญี่ปุ่น

บรรยากาศงานยามเย็น