รมช.มนัญญา สั่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ หามาตรการช่วยสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมพายุ “โพดุล”

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์พายุโซนร้อนโพดุล ทำให้เกิดน้ำท่วมสูงในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบน ส่งผลทำให้พื้นที่การเกษตรและที่อยู่อาศัยของชาวบ้านได้รับความเสียหาย จึงได้สั่งการให้ นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เตรียมมาตรการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะในส่วนของสมาชิกสหกรณ์  ซึ่งมาตรการช่วยเหลือจะเน้นดูแลเรื่องหนี้สินและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ส่งผลทำให้ขาดรายได้ที่จะส่งชำระหนี้คืนสหกรณ์ ดังนั้น จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอวงเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อบรรเทาปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกในพื้นที่ประสบภัยครั้งนี้

ทั้งนี้ ในวันนี้ (4 กันยายน 2562) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อม นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้กำลังใจเกษตรกรและชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมนำถุงยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่มไปมอบให้เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น ณ ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อบต.บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เบื้องต้นมีสหกรณ์การเกษตรโนนศิลา จำกัด สหกรณ์การเกษตรบ้านเเฮด จำกัด และสหกรณ์การเกษตรบ้านไผ่ จำกัด ที่ส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือ เนื่องจากมีสมาชิก 2,620 ราย ได้รับความเดือดร้อน พื้นที่ไร่นาและเลี้ยงสัตว์ของสมาชิกสหกรณ์ทั้ง 3 แห่ง เสียหายประมาณ 11,895 ไร่

ด้าน นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ โดยได้เตรียมเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) จำนวน 315 ล้านบาท เป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 1 ปี เพื่อให้สหกรณ์กู้ยืมและนำไปให้สมาชิกของแต่ละสหกรณ์กู้ปลอดดอกเบี้ยเช่นกันเพื่อฟื้นฟูอาชีพหลังเกิดภัยพิบัติจากพายุโพดุล และยังได้ขยายเวลาชำระหนี้ให้สหกรณ์ที่กู้เงิน กพส.ก่อนหน้านี้ออกไปอย่างน้อย 1 ปี กรณีที่สหกรณ์นั้นมีเหตุที่จะแสดงได้ว่าได้รับผลกระทบจากพายุ จนไม่สามารถชำระหนี้ได้

ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีหนังสือแจ้งเวียนไปทุกจังหวัดที่ประสบภัย เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ถึงมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ กรมได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งสำรวจความเสียของสหกรณ์ที่รับผลกระทบจากพายุโพดุล ว่ามีสหกรณ์ใดบ้างที่รับได้รับผลกระทบ จำนวนสมาชิกที่ประสบภัย พื้นที่การเกษตรที่เสียหายและประเภทของพืชที่เสียหาย รวมถึงให้รายงานถึงความช่วยเหลือเบื้องต้นที่สหกรณ์จังหวัดได้ดำเนินการแล้วหรือกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้นมีประมาณ 20 จังหวัด แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุดรธานี นครพนม ยโสธร มหาสารคาม สกลนคร มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ อุบลราชธานี นครราชสีมา ภาคเหนือและภาคกลางตอนบน 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน เพชรบูรณ์ พิจิตร พิษณุโลก

“ก่อนจะนำมาตรการบรรเทาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยเข้าสู่ ครม.พิจารณา กรมจะหารือกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่าควรจะเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ จากนั้นจะเร่งเสนอ ครม.ให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยเหลือสมาชิก ซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมสมาชิกที่ประสบภัยที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมาได้ถามความเห็นสมาชิกสหกรณ์พบว่าสิ่งที่ต้องการคือ การพักชำระหนี้หรือขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป 1-2 ปี”   นายพิเชษฐ์ กล่าว

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากการช่วยเหลือจากภาครัฐแล้ว กรมได้ขอความร่วมมือจากสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ให้พิจารณาช่วยเหลือสมาชิกของแต่ละสหกรณ์ด้วยเพราะอาจมีปัญหาเรื่องรายได้โดยการลด หรืองดการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืม รวมทั้งขยายเวลาการชำระหนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่สมาชิก และให้ใช้เงินจากกองทุนสาธารณประโยชน์ นำไปช่วยเหลือสมาชิกผู้ประสบภัย เช่น การซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือการเยียวยาด้านอื่น

ซึ่งจากการลงพื้นที่ถามความเห็นจากสมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่พบว่า สิ่งที่ต้องการและขอให้ช่วยเหลือคือ การพักชำระหนี้ หรือขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป 1-2 ปี