3แบงก์รัฐขานรับครม.เข็นโครงการสินเชื่อช่วยคนใต้

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบมาตรการด้านการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพิ่มเติมจากมติครม. วันที่ 24 มกราคม 2560 ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินให้แก่เกษตรกร รายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ใน 6 เดือนแรก หลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องยื่นขอสินเชื่อภายใน 3 เดือนนับถัดจากเดือนที่เกิดภัยพิบัติ, โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูการผลิตรายละไม่เกิน 300,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 10 ปี โดยปีที่ 1 – 4 คิดอัตราดอกเบี้ยจากเกษตรกร 2% ต่อปี และตั้งแต่ปีที่ 5 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ย MRR วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถยื่นขอสินเชื่อตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2560

นายกฤษฎา กล่าวว่า ธนาคารออมสินออกโครงการสินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน เพื่อเป็นเงินทุนหรือเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ รายละไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 5 ปี ปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ปีที่ 2 – 5 คิดอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน วงเงินสินเชื่อรวม 4,000 ล้านบาท และสามารถใช้บุคคลค้ำประกันหรือค้ำประกันโดย บสย. ได้ เปิดให้ยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2560, โครงการสินเชื่อเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในอัตรา 10% ของวงเงินกู้สินเชื่อเดิม สูงสุดรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 5 ปี ปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ย เอ็มแอลอาร์ลบ2 ต่อปี ปีต่อไปคิดดอกเบี้ย เอ็มแอลอาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.5% ต่อปี วงเงินสินเชื่อรวม 2,500 ล้านบาท ยื่นขอสินเชื่อภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้

นายกฤษฎา กล่าวว่า ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) จัดทำโครงการสินเชื่อฟื้นฟู SMEs จากอุทกภัยภาคใต้ ปี 2560 เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนรายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 7 ปี ปีที่1-3 คิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ปีที่4-7 เป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ธพว.กำหนด สามารถยื่นขอสินเชื่อภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ครม.มีมติ หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน