สภาเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอหน่วยงานรัฐจัดสรรน้ำช่วยชาวนาที่เดือดร้อน

นายสินสมุทร คงประโยชน์ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงว่า จากการจัดประชุมเครือข่ายสภาเกษตรกรที่ผ่านมา จะได้รับข้อร้องเรียนความเดือดร้อนของเกษตรกรทำนาจากปัญหาขาดแคลนน้ำ หลังจากที่เริ่มทำนาปรัง เพราะไม่มีการจัดสรรน้ำไปให้ ทำให้ข้าวที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย จึงได้ประสานหน่วยงานภาครัฐเพื่อชี้แจงซึ่งเมื่อวันพุธที่ ต้นเดือนกุมภาพันธ์  ณ ที่ว่าการอำเภอภาชี มีเกษตรกรกรในหลายอำเภอที่ได้รับความเดือดร้อนการจากการทำนารอบที่ 2 ปีเพาะปลูก 2559/60  มาเข้ารับฟังราว 800 คน  สาระสำคัญจากภาครัฐคือเกษตรกรต้องมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาเนื่องจากน้ำต้นทุนมีเท่าเดิม แต่การเพิ่มขึ้นของประชากรนอกภาคการเกษตรมีมากต้องใช้น้ำมาก เกษตรกรควรมีแหล่งน้ำในไร่นาของตนเอง ทำการเกษตรที่ใช้น้ำน้อย สถานการณ์ปัจจุบันชาวนาได้ทำนาปรังมากกว่าพื้นที่จัดสรรน้ำ

ในส่วนของเกษตรกรนั้น นายสินสมุทร ฯ ได้กล่าวว่า  ปีนี้เกษตรกรในพื้นที่ไม่ทราบถึงแผนการจัดสรรน้ำจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากเดิมปกติคณะกรรมการจัดการชลประทานกลุ่มผู้ใช้น้ำจะมีการประชุมวางแผนการใช้น้ำร่วมกัน แต่ปีนี้ไม่มีการประชุมจึงทำให้เกิดสภาพปัญหาดังกล่าว สำหรับข้อสรุปคือให้กลุ่มผู้ใช้น้ำสำรวจพื้นที่ทำนาและอายุข้าวขณะนี้ แจ้งให้ชลประทานทราบเพื่อบริหารจัดการน้ำให้บรรเทาความเดือดร้อน และที่สำคัญคือเกษตรกรต้องไม่ทำนาปรังเพิ่มอีก อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนการใช้น้ำสำหรับการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะข้าวนาปรังนั้น กรมชลประทานได้ชี้แจงว่าได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานเข้าไปควบคุมการส่งน้ำเป็นรอบเวรอย่างใกล้ชิด และในเบื้องต้นจะขอรับการจัดสรรน้ำเพิ่มเข้ามาในคลองระพีพัฒน์เป็นช่วงๆ ช่วงละประมาณ 2 – 3 วัน ในช่วงที่พื้นที่เพาะปลูกเริ่มขาดน้ำ รวมทั้งประสานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จ เพื่อขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไม่ให้เกษตรกรเพาะปลูกข้าวเพิ่มขึ้นอีก