กรมวิชาการเกษตรตามหา“พันธุ์กล้วยโบราณ 12 ชนิด” สนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า

กรมวิชาการเกษตร ตามหา​พันธุ์กล้วยโบราณ 12 ชนิด สนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ล่าสุดพบแล้ว 6 ชนิด ในพื้นที่​ จ.นราธิวาส​ และกล้วยพันธุ์หายากอื่นๆ​ อีก 30 ชนิด พร้อมจัดทำแปลงรวบรวมพันธุ์กล้วยพื้นเมืองภาคใต้ตามพระราชดำริ​ บนพื้นที่​ 2.1​ ไร่ และอยู่ระหว่างจำแนกและตรวจวิเคราะห์ลายพิมพ์​ DNA เพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 

นายจิระ  สุวรรณประเสริฐ

นายจิระ สุวรรณประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่​ 8​ (สวพ.8) กรมวิชาการเกษตร  กล่าวว่า  ตามที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  มีพระราชดำริขอให้รวบรวมพันธุ์กล้วยหายากตามรายชื่อพันธุ์กล้วยที่มีอยู่ในสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี​ และตามหนังสือโบราณ เมื่อปี 2468 ของจังหวัดยะลา ที่ได้กล่าวถึงกล้วยชายแดนใต้ 12 พันธุ์ มาไว้ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ​ จ.นราธิวาส

ประกอบด้วย 1.ปีแซ กาปา (กล้วยตะเภา)  2.ปีแซ ซูซู (กล้วยนมสาว) 3.ปีแซ ยะลอ (กล้วยหอม) 4.ปีแซ กูกู กูดอ (กล้วยเล็บม้า)  5.ปีแซ ลือเมาะมานิ​ 6.ปีแซ กาลอ (กล้วยตานี) 7.ปีแซ อาปอ (กล้วยอะไร)  8.ปีแซ ยะรี บอยอ (กล้วยนิ้วจระเข้) 9.ปีแซ ตาปง (กล้วยขนม) 10.ปีแซ สะราโต๊ะ (กล้วยร้อยหวี) 11.ปีแซ สะรือเน๊ะ (กล้วยเตี้ย) และ​ 12.ปีแซ อาเนาะอาแย (กล้วยลูกไก่)  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ท้องถิ่นและมีชื่อเป็นภาษามาลายู ทั้งนี้ พระราชดำรัสดังกล่าวมีขึ้นเมื่อครั้งทรงเสด็จฯ ติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหินจอก หมู่ 6 ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 23 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา

โดยความก้าวหน้าล่าสุด จากการที่กรมวิชาการเกษตรได้สนองพระราชดำริโดยมอบหมายให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาส ดำเนินการสำรวจรวบรวมพันธุ์กล้วยโบราณที่หายากตามพระราชดำริตามหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ​ ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและจังหวัดใกล้เคียง ปรากฏว่าสามารถตามหาพบแล้ว​ จำนวน 6 พันธุ์ ประกอบด้วย  1.ปีแซคา ป่า (กล้วยตะเภา) 2.ปีแซซูซู (กล้วยนมสาว) 3.ปีแซยะลอ (กล้วยหอม) 4.ปีแซกาลอ (กล้วยตานี) 5.ปีแซละเมาะมานิ (กล้วยเล็บมือนาง) และ​ 6.ปีแซสะราโต็ะ (กล้วยร้อยหวี) โดยส่วนใหญ่จะมีชื่อท้องถิ่นเป็นภาษามาลายูและการค้นพบส่วนใหญ่พบใน​ จ.นราธิวาส

นอกจากนี้ ระหว่างที่ตามหากล้วยพันธุ์หายาก 12 พันธุ์  กรมวิชาการเกษตร ค้นพบสายพันธุ์อื่นๆ​ อีก 30 พันธุ์ อีกด้วย โดยทั้งหมดได้ถูกรวบรวมจัดทำแปลงปลูกบนพื้นที่​ 2.1 ไร่​ ขึ้นภายใต้โครงการรวบรวมพันธุ์กล้วยพื้นเมืองภาคใต้ตามพระราชดำริไว้ ณ งานวิชาการเกษตร ศูนย์การศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จ.นราธิวาส และอยู่ระหว่างการจำแนกและจะทำการตรวจวิเคราะห์ลายพิมพ์ DNA เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลตามหลักวิชาการ

“โครงการรวบรวมพันธุ์กล้วยพื้นเมืองภาคใต้ตามพระราชดำริ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ให้เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์กล้วยหายากในพื้นที่และส่วนหนึ่งเพื่อการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนอีก 6 ชนิด ที่ยังตามหาไม่พบ กรมวิชาการเกษตรได้วางเป้าจะเร่งลงพื้นที่เพื่อสำรวจ รวบรวมพันธุ์กล้วยหายากตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ​ ให้ครบ 12 พันธุ์ เพื่อให้ทันต่อการถวายรายงานการดำเนินงานการรวบรวมพันธุ์กล้วยฯ​ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริในปีหน้า ซึ่งปัจจุบันนอกจากพันธุ์กล้วยโบราณ 12 ชนิด ที่ตามหาเพื่อสนองพระราชดำริแล้ว กรมวิชาการเกษตร ยังได้ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์พันธุ์พืชหายากทุกชนิดอีกด้วย” นายจิระ กล่าว

ด้าน นายโนรี อิสมะแอ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาส  กล่าวว่า  กรมวิชาการเกษตร ได้เริ่มรวบรวมพันธุ์กล้วยพื้นเมืองในพื้นที่ใกล้เคียงเท่าที่จะสามารถหาได้ตั้งแต่ปี​ 60 โดยนำพันธุ์กล้วยพื้นเมืองที่รวบรวมได้มาอนุบาลไว้ในถุง ดำเนินการเตรียมแปลงปลูกพันธุ์กล้วย บริเวณพื้นที่งานวิชาการเกษตร ภายในพื้นที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ จ.นราธิวาส โดยปรับพื้นที่ วางผังแปลง ยกร่องแปลงตามผังแปลงที่กำหนด​ จำนวน 36 แปลง ตามหลักวิชาการ​ เพื่ออนุรักษ์และขยายพันธุ์กล้วยดังกล่าวไม่หายสูญหายไปไหน

 “อยากฝากไปถึงคนไทยให้ตระหนักถึงคุณค่าของกล้วยโบราณพันธุ์หายาก  และช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์กรรมพืชของไทยรักษาไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษา เรียนรู้ ไม่ให้สูญหายไปไหน หากท่านใดมีพันธุ์กล้วยพื้นเมืองภาคใต้ที่นอกเหนือจากนี้ และประสงค์ที่จะให้นำมารวบรวมไว้ในโครงการนี้ ติดต่อได้ที่หน่วยงานกรมวิชาการเกษตร ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง หรือหากใครพบเห็นกล้วยพันธุ์โบราณหายากอีก 6 ชนิด​ ดังกล่าว ในหมู่บ้านหรือชุมชนใด สามารถแจ้งมาได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนราธิวาส (ศวพ. นราธิวาส)  โทร. 073-651-397″ นายโนรี กล่าว