กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวดาหลาลูกผสม 4 พันธุ์ใหม่ ตอบโจทย์สีสันสดใสส่งออกง่าย

พันธุ์ยะลา3

กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวดาหลา 4 พันธุ์ใหม่ ไม้ดอกพื้นเมืองภาคใต้อนาคตไกล โชว์จุดขายดาหลาพันธุ์ยะลา 1-4  มีช่อดอกและกลีบประดับสีสันหลากหลาย โดดเด่น สะดุดตา ดอกบานคงที่ น้ำหนักช่อดอกน้อย ง่ายต่อการบรรจุหีบห่อ เหมาะสำหรับผลิตเพื่อส่งออกตีตลาดต่างประเทศ

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ดาหลา เป็นไม้ดอกพื้นเมืองทางภาคใต้ที่ผลิตเป็นการค้า มีการใช้ประโยชน์กันอย่างแพร่หลายในรูปของไม้ตัดดอกประดับอาคารสถานที่ จึงมีผู้นำดาหลาไปปลูกเป็นการค้าสำหรับตัดดอกในจังหวัดนนทบุรี สมุทรสาคร กาญจนบุรี ระยอง จันทบุรี และกระบี่ โดยจำหน่ายในราคา ดอกละ 5-20 บาท และต้นพันธุ์ (หน่อ) ราคาหน่อละ 50-300 บาท

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร

สำหรับต่างประเทศ ตลาดนำเข้าดอกดาหลาที่สำคัญของไทย ได้แก่ บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคูเวต ส่วนต้นพันธุ์ส่งไปจำหน่ายที่ แองโกลา สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สเปน ซึ่งตลาดดังกล่าวมีปริมาณความต้องการสูงกว่าปริมาณการนำเข้าดอก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพันธุ์ดาหลาที่ปลูกในปัจจุบันมีช่อดอกและก้านดอกใหญ่ น้ำหนักมาก เมื่อดอกบานกลีบดอกแผ่ใหญ่ การบรรจุหีบห่อทำได้ยาก ช่อดอกช้ำง่าย ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ดังนั้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายของพันธุ์ดาหลา ทั้งรูปทรง สีสันที่หลากหลาย และขนาดดอกที่เหมาะสมสำหรับส่งออกเป็นการค้า ศูนย์วิจัยพืชสวนยะลา กรมวิชาการเกษตร ได้วิจัยและปรับปรุงพันธุ์ดาหลาเพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะทรงถ้วย น้ำหนักช่อดอกน้อย  กลีบประดับสีสันสวยงาม ช่อดอกมีขนาดแตกต่างจากพันธุ์ที่มีอยู่เดิม และให้ผลผลิตดอกไม่ต่ำกว่า 100 ดอก/กอ/ปี และเหมาะสำหรับผลิตเพื่อส่งออกเป็นการค้า โดยได้ดำเนินการรวบรวมพ่อแม่พันธุ์  การผสมพันธุ์ การคัดเลือกพันธุ์ และการทดสอบพันธุ์ ตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์ ตั้งแต่ปี 2549     จนประสบความสำเร็จได้ ดาหลาพันธุ์ใหม่จำนวน 4 พันธุ์ ผ่านการรับรองเป็นพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตร เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2562 ดังนี้

พันธุ์ยะลา 1
พันธุ์ยะลา 1

ดาหลาพันธุ์ยะลา 1  มีช่อดอกสีแดงเข้ม กลีบประดับหนาเรียงเป็นระเบียบคล้ายดอกบัว ช่อดอกขนาดปานกลาง ให้ผลผลิตดอก จำนวน 386 ดอก/กอ/ปี อายุปักแจกัน 5 วัน

พันธุ์ยะลา 2
พันธุ์ยะลา 2

ดาหลาพันธุ์ยะลา 2 มีช่อดอกสีแดงอมส้ม ขอบกลีบมีสีเขียวอ่อนเด่นสะดุดตา เรียงซ้อนหลายชั้น ช่อดอกขนาดเล็ก ให้ผลผลิตดอก 300 ดอก/กอ/ปี อายุปักแจกันนาน 6 วัน

พันธุ์ยะลา 3
พันธุ์ยะลา 3

ดาหลาพันธุ์ยะลา 3 มีช่อดอกสีแดงสด ขอบกลีบประดับสีขาว ช่อดอกขนาดใหญ่ ให้ผลผลิตดอก 227 ดอก/กอ/ปี อายุปักแจกัน 5 วัน

พันธุ์ยะลา 4

ดาหลาพันธุ์ยะลา 4 มีช่อดอกสีชมพูอมแดง กลีบประดับหนา ขอบกลีบมีสีขาว ช่อดอกขนาดปานกลาง  ให้ผลผลิตดอก 280 ดอก/กอ/ปี อายุปักแจกันนาน 6 วัน

พันธุ์ยะลา 4
พันธุ์ยะลา 4

ดาหลาลูกผสมทั้ง 4 พันธุ์ ให้ผลผลิตได้ดีเกือบตลอดปี ส่วนด้านคุณภาพ ดาหลาพันธุ์ยะลา 1 และพันธุ์ยะลา 2 ช่อดอกมีลักษณะโดดเด่นสะดุดตา ช่อดอกขนาดเล็กเป็นทรงถ้วย ส่วนดาหลาพันธุ์ยะลา 3 และยะลา 4 ช่อดอกขนาดกลางเป็นทรงถ้วย เหมาะสำหรับการนำมาใช้ประดับตกแต่ง กลีบประดับสีสดใสเรียงซ้อนเป็นระเบียบ ความยาวก้านช่อดอกสั้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางก้านช่อดอก ขนาดช่อดอก  และน้ำหนักช่อดอกไม่ใหญ่มาก ทำให้ง่ายต่อการบรรจุหีบห่อ และขนส่ง

พันธุ์ยะลา 1
พันธุ์ยะลา 2
พันธุ์ยะลา 3
พันธุ์ยะลา 3

“ดาหลาพันธุ์ใหม่ทั้ง 4 พันธุ์ มีรูปลักษณ์ภายนอกที่แปลกใหม่ กลีบประดับมีสีสันที่สวยงาม โดดเด่นสะดุดตาต่อผู้พบเห็น การบานของดอกคงที่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เหมาะสำหรับผลิตเพื่อส่งออกเป็นการค้า ทำให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น สามารถกระตุ้นและรักษาส่วนแบ่งตลาดดาหลาของไทยในต่างประเทศได้” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว