เผยแพร่ |
---|
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มุ่งหน้าพัฒนาการออกแบบและการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนพร้อมตั้งเป้า บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมดจะต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) ใช้ใหม่ (Recyclable) ผลิตเป็นสินค้าใหม่ได้ (Upcyclable) หรือสามารถย่อยสลายได้ (Compostable) และจะยกเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ไม่จำเป็นภายในปี 2568 สำหรับกิจการในประเทศไทย และปี 2573 สำหรับกิจการในต่างประเทศ
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทได้ออกแบบและพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด ยืดอายุของอาหารให้ยาวนานขึ้น ลดปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ และการสูญเสียอาหารที่ไม่ถูกบริโภค (Food Waste) ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการใช้วัสดุที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามนโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนบนพื้นฐานแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ยกตัวอย่างเช่น การปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ถุงไก่สด ให้เหลือพลาสติกเพียงชั้นเดียวแทนการใช้พลาสติกหลายชั้นทำให้บรรจุภัณฑ์แบบใหม่ใช้พลาสติกน้อยลงถึง 43% โดยไม่กระทบต่อการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ วัสดุที่ใช้ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด
ซีพีเอฟยังได้พัฒนาถาดพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) จากวัสดุธรรมชาติที่หมุนเวียนได้ (Renewable Resources) ที่เรียกว่า Polylactic Acid (PLA) โดยนำมาใช้กับสินค้ากลุ่มหมูสดและไก่สดแช่เย็น เป็นรายแรกของประเทศไทยตั้งแต่ปี 2558 และล่าสุดบริษัท Tops Foods ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีพีเอฟในเบลเยียม ได้วัสดุที่ทำจากเยื่อไม้สนย่อยสลายได้มาใช้กับ บรรจุภัณฑ์ของวีแกนลาซานญ่า แบรนด์ PURE
นอกจากนี้ บริษัทยังพยายามจัดหาบรรจุภัณฑ์ ที่มีการนำวัสดุรีไซเคิล (Recycled Material) มาใช้ในบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีการสัมผัสกับอาหารโดยตรง (Secondary Packaging) หรือใช้สำหรับการขนส่ง เช่น กล่องกระดาษลูกฟูก ซึ่งมีสัดส่วนวัสดุรีไซเคิลอยู่ที่ร้อยละ 70-100 และในธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทซีพีเอฟ เช่น ร้าน Star Coffee ก็ได้หันมาใช้วัสดุที่ยั่งยืนทดแทนการใช้พลาสติกที่ย่อยสลายยาก เช่น แก้วและหลอดที่ทำจากไบโอพลาสติกผลิตจากพืช ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 100%