ส. กุ้งไทยชี้  ทิศทางอนาคตกุ้งไทย ผลิตกุ้งที่ดีที่สุดมอบแด่ชาวโลก

คาดปีหน้า จะผลิตกุ้งเพิ่ม 20% มุ่งเน้นคุณภาพ ความปลอดภัย ปลอดสารตกค้าง ผลิตกุ้งไซซ์ใหญ่ โปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม มีจรรยาบรรณทางการค้า ให้ดียิ่งๆ ขึ้น

วอนรัฐช่วยแก้ปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งเกินไป ซึ่งทำให้ส่งออก/แข่งขันไม่ได้ ประชาสัมพันธ์เชิงรุก ให้โอกาสเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรายย่อยเข้าถึงแหล่งทุน การเสริมสภาพคล่อง การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ให้กับภาคการผลิต ภาคการส่งออก และส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ฯลฯ เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมกุ้งไทย

วันนี้ (12 ธันวาคม 2562) ดร. สมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย นำทีมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ประกอบด้วย ท.พ. สุรพล ประเทืองธรรม นายกกิตติมศักดิ์ และที่ปรึกษาสมาคมกุ้งไทย นายบรรจง นิสภวาณิชย์ อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ-ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ นายปกครอง เกิดสุข อุปนายกสมาคม และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ นายสมชาย ฤกษ์โภคี นายกสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย และ เลขาธิการสมาคมกุ้งไทย และ นางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย และกรรมการบริหารสมาคมกุ้งไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์กุ้งของไทย ปี 2562 ว่า ผลผลิตกุ้งเลี้ยงปี 2561 โดยรวมอยู่ที่ 290,000 ตัน ส่วนผลผลิตกุ้งเลี้ยง ปี 2562 นี้อยู่ที่ประมาณ 290,000 ตัน (จำนวนเท่ากับปี 2561) คาดการณ์ว่าปี 2563 จะผลิตกุ้งได้เพิ่มขึ้น ร้อยละ 20 หรือประมาณ  350,000-400,000 ตัน หากทุกปัจจัยเอื้ออำนวย

“ผลผลิตกุ้งไทย ปี 2562 นี้ คาดว่าจะผลิตได้ 290,000 ตัน เท่าปีที่แล้ว (โดยร้อยละ 34 เป็นผลผลิตกุ้งจากภาคใต้ตอนล่าง ร้อยละ 30 จากภาคตะวันออก ร้อยละ 25 จากภาคใต้ตอนบน และร้อยละ 12 จากภาคกลาง ตามลำดับ) แม้เกษตรกรผู้เลี้ยงสามารถรับมือ-จัดการกับสถานการณ์โรคได้ดีขึ้น และยังต้องเผชิญกับโรคต่างๆ แต่ด้วยสภาพอากาศแปรปรวน และราคากุ้งที่ไม่จูงใจ/ต่ำ ผลผลิตกุ้งจึงยังไม่เพิ่มขึ้น ส่วนผลผลิตกุ้งทั่วโลกคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ดังแสดงในตารางที่ 1 ซึ่งจะเห็นว่าหลายประเทศ เช่น เวียดนาม อินเดีย ประเทศแถบอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ฯลฯ ผลิตกุ้งได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอินเดีย ปีนี้ที่ผลิตกุ้งได้เกือบ 600,000 ตัน ทั้งที่ประสบปัญหาการเลี้ยง โรคระบาด สภาพแวดล้อม และอื่นๆ นั้น เป็นสาเหตุสำคัญทำให้ราคากุ้งทั่วโลกตกต่ำ ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ากุ้งในประเทศ และความสามารถในการแข่งขันของกุ้งไทยในตลาดโลก

ส่วนข้อมูลการส่งออกกุ้งเดือนม.ค. – ต.ค. ปีนี้ ปริมาณ 135,249 ตัน มูลค่า 40,185 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2561 ที่ส่งออกปริมาณ 143,129 ตัน มูลค่า 45,545 ล้านบาท ลดลงทั้งปริมาณ และมูลค่า ที่ ร้อยละ 6 และ ร้อยละ 12 ตามลำดับ” (ดังแสดงในตารางที่ ‚) นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าว

นายปกครอง เกิดสุข อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และประธานที่ปรึกษาชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงสถานการณ์การเลี้ยงกุ้งภาคใต้ตอนล่างว่า “ผลผลิตปี 2562 คาดการณ์ว่ามีผลผลิตประมาณ 99,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ ร้อยละ 4 จากปัญหาภาวะราคากุ้งผันผวน ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งฝั่งอันดามันปรับตัวไปเลี้ยงกุ้งกุลาดำมากขึ้น นอกจากนี้พบปัญหาโรคอีเอ็มเอส อาการขี้ขาว และโรคตัวแดงดวงขาว”

นายสมชาย ฤกษ์โภคี นายกสมาคมกุ้งทะเลไทย และเลขาธิการสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า “ผลผลิตกุ้งปี 2562 ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนประมาณ 85,000 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย พบปัญหาขี้ขาวตลอดทั้งปี รวมถึง EMS โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพบตัวแดงค่อนข้างมากในช่วงปลายปี ส่งผลให้ผลผลิตไม่ดีเท่าที่ควรจากความเสียหายดังกล่าวประกอบกับทิศทางราคากุ้งไม่ค่อยดี เกษตรกรจึงลดความหนาแน่นลง ลดจำนวนกุ้ง จำนวนบ่อลง”

นางสาวพัชรินทร์ จินดาพรรณ นายกสมาคมกุ้งตะวันออกไทย และกรรมการบริหารสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า “ผลผลิตกุ้งปี 2562 ในพื้นที่ภาคตะวันออกประมาณ 73,000 ตัน ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ต้นปี จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ประสบปัญหาการเลี้ยงจากโรคขี้ขาวค่อนข้างรุนแรง ส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา พบปัญหา EHP และโรคหัวเหลือง และปัจจุบันก็ยังคงพบขี้ขาวอยู่แต่เบาบางลง แต่มีปัญหา WSSV เข้ามาแทนในช่วงปลายปี ทำให้การเลี้ยงยังคงประสบกับความเสียหายทำให้ผลผลิตออกมาได้ไม่ดีนัก ส่วนภาคกลางผลผลิตกุ้งปี 2562 ในพื้นที่ภาคกลางประมาณ 33,000 ตัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”

นายบรรจง นิสภวาณิชย์ อุปนายกสมาคมกุ้งไทย และผู้ทรงคุณวุฒิ-ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ คณะกรรมการนโยบายประมงแห่งชาติ กล่าวว่า “โดยภาพรวมการเลี้ยงกุ้งของไทย เกษตรกรยังคงเผชิญหน้ากับปัญหาโรคตัวแดงดวงขาว อาการขี้ขาว ที่ยังคงสร้างความเสียหายกระจายในพื้นที่เลี้ยงหลักๆ ทำให้เกษตรกรไม่สามารถสร้างผลการเลี้ยงที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีต้นทุนแฝงจากความเสียหายและกุ้งที่โตได้ไม่เต็มศักยภาพ ในปีนี้หลายๆ ฟาร์มจึงปรับลดความหนาแน่นในการเลี้ยงลงมาประมาณ ร้อยละ 20-30 เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรค นอกจากนี้ยังพบรายงานการเกิดโรค EMS อย่างต่อเนื่องในปีนี้เช่นกัน แต่มั่นใจว่าปีหน้าปัญหาดังกล่าวจะดีขึ้น ด้วยเกษตรกรผู้เลี้ยงเองมีความรู้ความเข้าใจในปัญหา มีการปรับตัว ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเลี้ยง ผนึกกำลังเป็นหนึ่ง ที่สำคัญทุกภาคส่วนได้หันมาช่วยกันอย่างเต็มที่”

ท.พ.สุรพล ประเทืองธรรม นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกุ้งไทย และนายกสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย กล่าวว่า “อนาคตกุ้งไทย ก็ยังสามารถกลับมาได้แน่นอน เพราะความต้องการกุ้งในตลาดโลกยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือ ความสามารถในการผลิตกุ้ง ที่สามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดโลก ทั้งปริมาณ คุณภาพ และต้นทุนที่ไม่สูงมาก”

“จากการประชุมนานาชาติ  Shrimp 2019 หรือ กุ้ง 2019 ซึ่งสมาคมกุ้งไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน กับ FAO กรมประมง เมื่อเร็วๆ นี้ ที่กรุงเทพฯ นั้น สินค้ากุ้งจากการเลี้ยง ยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลกอย่างมาก ในปริมาณที่สูงขึ้น ด้วยเป็นอาหารโปรตีนเนื้อขาวที่มีโภชนาการดี ผลผลิตสัตว์น้ำที่จับจากทะเลมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น แม้มีหลายประเทศหันมาเลี้ยงกุ้งกันมากขึ้นก็ตาม เชื่อว่า ในฐานะที่ประเทศไทย เคยเป็นแชมป์ผลิตกุ้งและส่งออกกุ้งมากที่สุดในโลกในหลายปีติดต่อกันมา กอปรกับตลาดนำเข้ากุ้งสำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน ก็ยังให้เครดิต และเชื่อมั่นในสินค้ากุ้งไทยว่าคุณภาพดี ปลอดภัยที่สุด ขอให้เราผลิตได้มากพอและสม่ำเสมอ ในราคาที่สามารถแข่งขันได้เท่านั้น

ที่สำคัญด้วยประเทศไทยมี ลูกกุ้งที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก จากสายพันธุ์ที่โตเร็ว แข็งแรง ปลอดโรค ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพสูงที่จะผลิตกุ้งไซซ์ใหญ่ ทิศทางการผลิตกุ้งไทย จะไม่เน้นปริมาณ แต่มุ่งเน้นผลิตกุ้งคุณภาพ ดี ปลอดภัย ปลอดสารตกค้าง ผลิตกุ้งไซซ์ใหญ่ โปร่งใส ตรวจสอบย้อนกลับได้ เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม มีจรรยาบรรณทางการค้า ให้ดียิ่งๆ ขึ้น ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะกลับมาทวงแชมป์คืนเป็นไปได้สูง และหากทุกปัจจัยเอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากขณะนี้เรายังเผชิญปัญหาการเลี้ยงและอุปสรรคต่างๆ ที่พี่น้องเกษตรกร และส่วนที่เกี่ยวข้องต้องไปช่วยกันปรับปรุงแก้ไขพัฒนาร่วมกัน ส่วนเรื่องที่ต้องให้รัฐดำเนินการให้ ได้แก่ แก้ปัญหาเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งเกินไป ทำให้ไม่สามารถส่งออกและแข่งขันได้ ภาครัฐควรมีการสนับสนุนส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมการเลี้ยงกุ้งไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง มีการเจรจากับตลาดคู่ค้าเพื่อเปิดตลาดใหม่ๆ เพื่ออุตสาหกรรมกุ้งไทยที่ยั่งยืน และที่สำคัญต้องเจรจาเรื่อง FTA เพื่อเปิดตลาด EU ให้กุ้งจากไทยสามารถกลับมาแข่งขันได้ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก การให้โอกาสเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งรายย่อยเข้าถึงแหล่งทุน การเสริมสภาพคล่อง การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ให้กับภาคการผลิต ภาคการส่งออก และส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ฯลฯ เพื่อให้อุตสาหกรรมกุ้งของประเทศอยู่รอด ได้รับการพัฒนาให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ” ดร. สมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย กล่าวทิ้งท้าย

ตารางที่ 1 ผลผลิตกุ้งเลี้ยงโลก*  ปี 2555-2562

หน่วย: พันตัน

ประเทศ/ปี 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562* %เปลี่ยนแปลง

61/62

ไทย 250 230 260 300 300 290 290
จีน 650 625 600 550 525 525 625 +19%
เวียดนาม 240 300 210 260 320 410 440 +7%
อินโดนีเซีย 180 200 220 270 260 270 260 -4%
อินเดีย 270 420 470 530 600 560 580 +4%
มาเลเซีย 46 35 30 40 45 39 48 +23%
ฟิลิปปินส์ 52 57 48 53 55 56 58 +36%
อเมริกากลาง-ใต้ 555 630 628 669 810 870 973 +12%
อื่นๆ 65 70 100 110 160 200 135 -33%
รวม 2,308 2,567 2,566 2,782 3,075 3,220 3,409 +5%

 

ที่มา: สมาคมกุ้งไทย,  ประมาณการ         

Last Updated : Dec.11, 2019

 

ตารางที่ 2 การส่งออกกุ้งไทย ปี 2562* (ม.ค.-ต.ค.)

หน่วย: ปริมาณ-ตัน, มูลค่า-ล้านบาท

ประเทศ/

กลุ่มประเทศ

ม.ค. – ต.ค. 61 ม.ค. – ต.ค. 62 % เปลี่ยนแปลง
ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า
เอเชีย 82,673 24,212 81,623 22,297 -1.27 -7.91
       – จีน 14,203 4,391 22,034 5,977 55.14 36.12
       – ญี่ปุ่น 34,394 12,144 32,816 11,048 -4.59 -9.03
       – อื่นๆ 34,076 7,677 26,773 5,272 -21.43 -31.33
สหรัฐอเมริกา 40,716 14,546 36,740 12,550 -9.77 -13.72
อียู 5,546 2,010 4,987 1,705 -10.08 -15.17
ออสเตรเลีย 6,390 2,314 4,434 1,429 -30.61 -38.25
อื่นๆ 7,804 2,463 7,465 2,204 -4.34 -10.52
รวม 143,129 45,545 135,249 40,185 -5.51 -11.77

ที่มา: สมาคมกุ้งไทย-รวบรวมจากกรมศุลกากร