เขื่อนหลักในโคราชเหลือน้ำเก็บเพียง 39% ชาวนาเดิมพันปลูกหอมแบ่งแทนนาปรัง

วันที่ 3 มีนาคม 2560 เกษตรกรชาว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่างพากันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกข้าวนาปรัง แล้วหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยกันอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่ทางชลประทานงดปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากน้ำในเขื่อนต่างๆ อยู่ในช่วงวิกฤต มีระดับน้ำเหลือน้อยกว่าทุกปี โดยเฉพาะนางพรพิมล แซ่พลกรัง อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ต.สีมุม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ปรับพื้นที่นาจำนวน 10 ไร่ ให้กลายเป็นแปลงปลูกหอมแบ่ง ซึ่งวันนี้อยู่ระหว่างการนำพันธุ์หอมแบ่งลงปลูกใหม่ๆ จึงต้องมาดูแลตลอดทั้งวัน

นางพรพิมล แซ่พลกรัง เกษตรกรผู้ปลูกหอมแบ่ง เปิดเผยว่า ปกติแล้วบริเวณนี้จะอยู่ใกล้กับลำคลองธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถปลูกข้าวนาปรังได้บางส่วน แต่ปีนี้น้ำในคลองเหลือน้อย จึงได้พากันปรับพื้นที่นาให้เป็นแปลงผักเพื่อปลูกหอมแบ่งซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย โดยปลูกทั้งหมด 10 ไร่ ใช้เงินลงทุน ค่าต้นพันธุ์ ค่าจ้างคนงาน ค่ารดน้ำ ค่าไฟ และค่าปุ๋ย รวมประมาณ 200,000 บาท ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 50 วัน ซึ่งหากถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็คาดว่าจะได้ต้นหอมแบ่งประมาณ 35 ตัน โดยจะมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ ส่วนราคาของต้นหอมแบ่งนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ ตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 25-30 บาท แต่ถ้าเป็นช่วงที่ขึ้นสูงสุดเมื่อปีที่แล้วถึงกิโลกรัมละ 100 บาท ดังนั้นก็ต้องรอลุ้นกันอีกทีว่าช่วงเก็บเกี่ยวจะได้ราคาดีมากน้อยเพียงใด


สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนหลัก 5 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำเพียง 39% ของความจุกักเก็บ ประกอบไปด้วย เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 94 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 30% ของความจุกักเก็บทั้งหมด 314 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนมูลบน อ.ครบุรี มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 63 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 45% ของความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 107 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 39% ของความจุกักเก็บทั้งหมด 275 ล้านลูกบาศก์เมตร, เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 66 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 42% ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีระดับน้ำกักเก็บเหลืออยู่ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 51% ของความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้านลูกบาศก์เมตร