เอ็มเทค-สวทช. หนุนผู้ประกอบการ ผุด Bicbok “แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” นวัตกรรมเสริมความปลอดภัย

การราดยางมะตอยและการซ่อมแซมถนน ต้องอาศัยกระบวนการหลอมยางมะตอยให้เหลวหรืออ่อนตัว และคลุกเคล้ากับหินบดก่อนนำไปบดอัดทับผิวถนน ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากเพราะใช้ทั้งพื้นที่กว้างและเครื่องจักรขนาดใหญ่ในการทำงาน แม้จะมีการพัฒนายางมะตอยแบบผสมสำเร็จรูปชนิดบรรจุถุง เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกในการปิดผิวหรือซ่อมแซมจุดเสียหายขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายประการ เช่น ต้องใช้แรงอย่างมากในการบดอัดและเกลี่ยวัสดุให้เรียบเนียน รวมถึงต้องทิ้งไว้เป็นเวลา 2-3 วัน เพื่อให้ยางมะตอยคงรูปและลดกลิ่นรบกวนลง

ด้วยข้อจำกัดข้างต้นของวัสดุยางมะตอย นายพรพรต สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิทูเมน อินโนเวชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทในฐานะที่คุ้นเคยกับวัสดุยางมะตอยมานานจึงมองหาวิธีการใหม่เพื่อให้วัสดุยางมะตอยใช้งานง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น จนเกิดแนวคิดที่จะสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ “แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” พร้อมใช้งาน โดยร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ Bicbok “แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” พร้อมใช้งาน ที่สามารถปูปิดทับพื้นผิวที่หลากหลายได้สะดวกโดยไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญ และใช้งานได้กับพื้นที่ทุกขนาดและยังคงคุณลักษณะที่โดดเด่นของยางมะตอย

ดร.พิทักษ์ เหล่ารัตนกุล นักวิจัยอาวุโสของกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีเซรามิกส์และวัสดุก่อสร้าง เอ็มเทค สวทช. กล่าวว่า แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูปที่พัฒนาขึ้น เป็นนวัตกรรมของวัสดุปิดผิวที่มีความโดดเด่นในด้านคุณสมบัติและความสะดวกในการใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับ lifestyle ของผู้บริโภคสมัยปัจจุบันที่นิยมสินค้าประเภท DIY (Do It Yourself) โครงสร้างวัสดุมี 3 ชั้น ชั้นบน เป็นชั้นยางมะตอยผสมหินกรวด เพื่อให้สามารถกันน้ำ รับน้ำหนักและแรงเสียดทานได้ดี ชั้นกลาง เป็นชั้นที่มีตาข่ายไฟเบอร์ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น พร้อมทั้งเสริมแรงป้องกันการฉีกขาด และรักษารูปทรงของแผ่นพื้นยางมะตอย ส่วน ชั้นล่าง จะเป็นยางมะตอยที่ปรับสูตรเป็นพิเศษ เพื่อสร้างแรงยึดเกาะกับพื้นผิวต่างๆ ที่จะนำไปปิดทับได้อย่างดี ทำให้สะดวกต่อการใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยวัสดุยึดเกาะหรือกาวเหมือนวัสดุปิดผิวโดยทั่วไป

“แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูปสามารถออกแบบให้มีขนาดและความหนาได้หลากหลายตามลักษณะพื้นผิวและวัตถุประสงค์การใช้งาน แต่โดยทั่วไปได้กำหนดขนาดมาตรฐานไว้ที่ 50×50 และ 50×100 เซนติเมตร และมีความหนาตั้งแต่ 5-30 มิลลิเมตร เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งและขนส่ง โดยมีราคาขายประมาณ 270-450 บาท ต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับคุณลักษณะและความหนาของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะใกล้เคียงกับราคาของกระเบื้องเซรามิกทั่วไป

จุดเด่นอีกอย่างคือใช้งานง่าย เพียงลอกแผ่นกระดาษออกจากผิวด้านล่างของผลิตภัณฑ์ แล้วปูทับลงบนพื้นผิวที่ต้องการได้ทันที โดยกาวชั้นล่างนี้มีแรงยึดเกาะสูง สามารถใช้งานได้กับพื้นผิวเกือบทุกประเภท เช่น พื้นกระเบื้องเซรามิก พื้นคอนกรีต พื้นดินลูกรัง พื้นหญ้า รวมถึงพื้นที่ที่มีความลาดชันและไม่สม่ำเสมอ ที่สำคัญแผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูปยังสามารถตัดเป็นรูปทรงที่ต้องการได้ง่าย เพียงใช้คัตเตอร์กรีดแล้วใช้มือหักตามแนว จึงสะดวกแก่การนำไปใช้กับพื้นที่ทุกขนาดและรูปทรง นอกจากนี้ ยังมีความสามารถนำไปใช้งานได้ทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง โดยหากเป็นการใช้งานพื้นที่กลางแจ้ง หลังปูพื้นแล้วจะต้องทำเพิ่มขั้นอีกขั้นตอนโดยการยาแนวด้วยเทปกาวยางมะตอยเพื่อเชื่อมรอยต่อของแต่ละแผ่นให้เป็นผืนเดียวกัน และป้องกันไม่ให้หญ้าแทรกขึ้นตามแนวรอยต่อ”

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์และทดสอบสมบัติของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานวัสดุปิดผิว พบว่า แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูปที่พัฒนาขึ้น จะยังคงคุณสมบัติสำคัญใกล้เคียงกับการปิดพื้นผิวด้วยยางมะตอยตามวิธีการทำงานปกติคือ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรับแรงกระแทกและเสียดสีได้ดี พื้นผิวมีความขรุขระเล็กน้อยช่วยเพิ่มแรงเสียดทานลดการลื่นไถล ไม่ดูดซับน้ำและความชื้น ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความทนทานและง่ายต่อการดูแลรักษา นอกจากนี้ยังค้นพบว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียงและลดการสะสมความร้อนจากแสงแดดอีกด้วย จึงนับเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความน่าสนใจต่อการนำไปใช้เพื่อลดข้อจำกัดหรือปัญหาที่เกิดจากวัสดุปิดผิวแบบทั่วไป

Advertisement

นายพรพรต กล่าวเสริมว่า จากการสำรวจตลาดจากผู้บริโภคที่เคยนำผลิตภัณฑ์ไปใช้งาน ได้รับการตอบรับที่ดีโดยสะท้อนว่า ผลิตภัณฑ์นี้มีความเหมาะสมอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่ที่ต้องการเสริมความปลอดภัยจากการลื่นไถล เช่น พื้นที่ซักล้าง พื้นที่ลาดชัน ทางเดิน ทางจักรยาน ที่จอดรถ ทางรถวิ่ง รวมถึงบริเวณไหล่ทางหรือเกาะกลางถนนที่ต้องการป้องกันหญ้าขึ้น นอกจากนั้น ยังสามารถนำไปใช้ปิดทับผิวเพื่อความสวยงามและลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นจากพื้นดินแทนการใช้อิฐบล็อกตัวหนอนหรือเทพื้นคอนกรีตได้ดี โดยสามารถปิดทับพื้นผิวที่ทรุดตัวเล็กน้อยได้โดยไม่ฉีกขาดแต่อย่างใด

Advertisement

“แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูป” ได้มีการผลิตและจัดจำหน่ายทางออนไลน์แล้วในชื่อ “Bicbok” และกำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนขยายการจำหน่ายไปสู่ห้างร้านทั่วประเทศ จากความสำเร็จในการร่วมมือพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นพื้นยางมะตอยสำเร็จรูปจนทำให้เป็นที่ยอมรับในตลาดและขยายกำลังการผลิตสู่ระดับกึ่งอุตสาหกรรมได้แล้วนั้น ปัจจุบัน ดร.พิทักษ์ และบริษัท บิทูเมน อินโนเวชั่น จำกัด ยังมีแผนการพัฒนาร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความน่าสนใจแก่ผลิตภัณฑ์ต่อการนำไปใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น การพัฒนากระบวนการเพิ่มลวดลายและสีสันให้กับพื้นผิว การพัฒนาวัสดุให้สามารถลดการสะสมความร้อนและการคายความร้อนซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้ได้มากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ประสบความสำเร็จ จากการประสานทำงานร่วมกันระหว่าง สวทช. และเอกชน สร้างสรรค์นวัตกรรม ได้เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ผู้บริโภคได้ใช้เสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ยังมีแนวความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับให้สามารถตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐบาลทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจแบบ BCG (Bio/Circular/Green) economy model โดยการนำน้ำยางพาราซึ่งเป็นผลผลิตทางด้านการเกษตรหลักของประเทศ และการนำเศษวัสดุพลอยได้จากอุตสาหกรรมต่างๆ มาเพิ่มมูลค่าโดยการใช้เป็นส่วนประกอบในอนาคตด้วย