| ผู้เขียน | นิด ชากังราว |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ประยุธ ปุณศรี จากสวนราชไมตรี สู่สอยดาวไฮแลนด์
จำคำปู่สอนไว้ “สวน (ทุกชนิด) จะดีงามได้ต้องเห็นรอยเท้าเจ้าของสวนเต็มไปหมด”
จันทบุรี นอกจากจะเป็นจังหวัดที่อยู่ภาคตะวันออกมีชื่อด้านผลไม้แล้ว อดีตนักขุดทองเคยไปหาทรัพยากรในดินมีพลอยที่มีราคา สมกับที่เรียก “ทับทิมจันท์” ราคาแพงแล้ว จันทบุรียังเป็นแหล่งทรัพยากรทางทะเลที่มีนักประมงมาประกอบอาชีพหาปลา
ที่นี่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน หากใครไปชมมาคงต้องพักอยู่หลายวัน จึงจะชมได้ทั่วถึง
มีโอกาสไปเที่ยวชมสวนผลไม้ที่จันทบุรีมาหลายครั้ง สมัยราคาผลไม้ยังมีราคาถูก ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ฯลฯ แล้วยังมีลำไย ที่ลูกใหญ่ ปลูกกันมากจนชิดเขตอาณาจักรกัมพูชากันเลย ผลไม้เหล่านี้กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อตลาดชาวจีนแผ่นดินใหญ่ติดใจรสชาติผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียน ที่เคยขายราคาถูกในฤดูร้อน กลับเป็นของแพงขึ้นมาในบัดดล มาได้หลายปี
เพราะว่าทุเรียนเป็นสินค้าส่งออกที่ชาวจีนต้องการกันมาก สวนทุเรียนต่างยิ้มกับราคาของมันที่ชาวสวนต่างเหมือนถูกล็อตเตอรี่ตามๆ กัน
ถัดมาเป็นยางพาราที่ราคาห่อเหี่ยวทั้งประเทศ บางสวนโค่นทิ้งเอายางพาราออกปลูกทุเรียนทดแทน
แถบบ้านตำบลคมบาง ยังมีสวนยางพาราเก่าแก่สุด ชื่อ สวนราชไมตรี ความมีชื่อเสียงตั้งแต่ครั้งอดีตกล่าวกันว่า หลวงราชไมตรี เป็นคนแรกของภาคตะวันออกที่นำต้นยางพารามาปลูกไว้ที่จันทบุรี รองมาจากจังหวัดตรัง
และขอนำประวัติอย่างคร่าวๆ มีที่มาของ หลวงราชไมตรี เดิมชื่อ ปูม ปุณศรี เป็นบุตรคนที่สองของ หลวงประมวญราชทรัพย์ (จีนจำปา) จางวาง นายกอง ส่วนทองคำโรงงานหวายพัศ
ในสวนหลวงราชไมตรี มีอาณาบริเวณหลายพันไร่ ปลูกยางพาราเป็นคนแรกของภาคตะวันออก เฉพาะที่พักในสวนยางที่ปลูกแบบทันสมัย สร้างราวสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นบ้านประวัติศาสตร์ อายุราว 150 ปี ปัจจุบันกรมศิลปากรได้เข้ามาดูแลเพื่อรักษาไว้เป็นมรดกชาติที่หาดูยาก เคยมีอดีตนายกรัฐมนตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยพักมาแล้ว
การดำเนินงานสวนยางพาราในอดีตที่บรรดาลูกจ้างมาทำงาน ต่างได้รับการดูแลทั้งที่พัก อาหาร การรักษาพยาบาลเจ็บป่วย ที่เข้ามาทำงานเสมือนลูกหลาน เมื่อมีลูกหลานออกมาก็ส่งเรียนสนับสนุนลูกของลูกจ้าง พร้อมสวัสดิการต่างๆ อย่างดี
บรรดาลูกจ้างเหล่านี้ยามเกษียณถึงวัยชราแล้ว ทางสวนยางพาราก็ยังรับเลี้ยงต่อพร้อมมีเบี้ยหวัดให้ไว้ใช้ในยามแก่เฒ่าจนกว่าชีวิตจะหาไม่
เรียกว่าเลี้ยงดูตั้งแต่พ่อถึงลูก จนถึงวัยชราตลอดไป
กล่าวถึงทายาทที่ดำเนินการบริหารมาในสวนราชไมตรี เขาชื่อ คุณประยุธ ปุณศรี หลานปู่หลวงราชไมตรี ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังอย่างน่าชื่นชมว่า
“ผมได้รับฟังจากพ่อ ได้เล่าให้ผมฟังว่า สมัยทวดปู่อพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มาทางเรือสำเภา แล้วจับจองที่ดินไว้ย่านคมบางไว้หมื่นกว่าไร่ คือหลวงประมวญราชทรัพย์ (จีนจำปา) แล้วตกทอดถึงวันนี้ เหลือประมาณ 3,000 ไร่เศษ”
เหตุที่ลดลงเหลือเท่านี้ คุณประยุธ อธิบายต่อ
“สมัยปู่ได้บริจาคให้กับทางราชการไว้มาก อย่างเช่น สถานีกสิกรรมพลิ้ว และน้ำตกพลิ้ว ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่สถานที่ราชการ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในการเกษตรแก่สาธารณชนโดยไม่หวังผลตอบแทนเลย เพื่อให้มีการพัฒนาอาชีพการเกษตรสืบต่อไปเพื่อความก้าวหน้า”
คุณประยุธ ยังกล่าวถึงเรื่องราวท่านปู่ นอกจากมีที่พักอยู่ในย่านชุมชนริมน้ำจันทบูรที่สร้างไว้ บัดนี้เป็นสถานที่ไว้พักและมีสิ่งโบราณสถานที่ข้าวของเก่าแก่ไว้มากมาย เป็นสิ่งล้ำค่าหาดูยากที่สะสมเอาไว้ และจัดให้คนภายนอกไว้ดู และมีสถานที่พักรับรองเหมือนรีสอร์ต ใครจะมาพักก็ต้องสั่งจองไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ผิดหวัง
คุณประยุธ ได้ยกป้ายเป็นภาษาจีนมาโชว์ให้ดูระหว่างนั่งสนทนากันอย่างออกรสชาติ
ด้วยความห่วงใยของท่านปู่ที่ไม่อยากเห็นหลาน เหลน ต่อภายข้างหน้าจะทิ้งสวนยาง สวนผลไม้ หรือไม่สนใจใยดีกับอาชีพเดิมที่รุ่นทวดปู่ ได้สร้างเอาไว้ เพื่อจะได้ดูแลรักษาสวนยางไว้ต่อไป
ป้ายที่ยกมาเหมือนป้ายทั่วไปตามร้านค้าที่ยังมีอยู่ตามต่างจังหวัด ไว้ติดชื่อเป็นภาษาจีนล้วน โดยคุณประยุธแปลให้ฟังดังนี้
“สวนจะดีได้จะต้องมีรอยเท้าเจ้าของสวนเต็มไปหมด”
ความหมายของมันก็คือ คนเป็นเจ้าของสวนยาง สวนผลไม้ จะต้องหมั่นเข้าไปดูแลรักษาสวนทุกวัน หรือบ่อยๆ เพื่อให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้จะได้เห็นสิ่งบกพร่องภายในสวนว่ามีปัญหาอะไรจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที กล่าวกันง่ายๆ ให้ความสนใจต่อสวน อย่าไปทอดทิ้ง หรือให้คนอื่นดูแลแทน การเห็นรอยเท้าก็เพื่อให้ขยันเข้ามาดูบ่อยๆ นั่นเอง ต้นไม้จะได้เติบโตเร็วขึ้น ว่ากันอย่างงั้น
ย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีเศษ ที่คุณประยุธไปสมัครงานที่สอยดาวไฮแลนด์ นั้นเป็นมาอย่างไร ทั้งที่มีสวนดูแลตั้งมากมาย คุณประยุธตอบคำถามผู้เขียนว่า
“เรื่องราวในอดีต ผมเรียนจบปริญญาตรีจากประเทศฟิลิปปินส์ อายุยังไม่มาก ขณะที่ทางสวนราชไมตรี มีคุณพ่อดูแลอยู่แล้ว ผมเห็นว่าประกาศรับผู้จัดการสวนสอยดาวไฮแลนด์ ที่อำเภอโป่งน้ำร้อน ที่มี เจ้าสัวชาตรี โสภณพนิช และ คุณหมอชัยยุทธ กรรณสูต และ พล.ต.อ. ณรงค์ มหานนท์ เป็นกรรมการบริษัท มันเป็นงานท้าทายที่คนหนุ่มอย่างผมอยากจะออกไปทำงานข้างนอกดูบ้าง เพื่อหาประสบการณ์ในโอกาสที่เพิ่งเรียนจบมาใหม่ได้งานท้าทายอยู่ ผมก็เลยไปสมัครงานที่สำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพ สีลม”
กระทั่งพอถึงวันสอบสัมภาษณ์ ต้องเดินทางไปสอบที่สำนักงานใหญ่ มีกรรมการมานั่งสัมภาษณ์หลายคนล้วนมีชื่อเสียงที่รู้จักกันดี คุณประยุธ กล่าวถึงวันไปสอบ
“ผมจำได้ว่าเดินทางไปสอบที่กรุงเทพฯ ผมใส่กางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวไปสัมภาษณ์ วันนั้นมีผู้ไปสอบเพื่อเป็นผู้จัดการสวนสอยดาว (ไม่เกี่ยวกับสนามกอล์ฟ) ราวร่วมสิบคน ทุกคนแต่งตัวดี ผูกเน็กไท บางคนใส่สูทก็มี ทุกคนแต่งกายสุภาพหมด มีผมคนเดียวเท่านั้นที่แต่งแบบลูกทุ่ง หรืออาจไม่ถูกกาลเทศะก็ได้นะ” คุณประยุธ กล่าวอย่างอารมณ์ดี
ในที่สุดเขาก็ได้เข้าทำงานคนเดียวที่สอบผ่านสัมภาษณ์ หรือเป็นเพราะกรรมการอ่านประวัติ หรือ Profile ผมดี ก็เป็นได้ หรือการแต่งตัวแบบลูกทุ่งชนิดลุยงานก็อาจจะเป็นไปได้
งานและหน้าที่ในตำแหน่งผู้จัดการสวน ผมดูแลในสอยดาวไฮแลนด์ มีบ้านพักพร้อม ส่วนที่ทำงานอีกแห่ง ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาจันทบุรี ผมก็เข้ามาบ่อย เป็นออฟฟิศกลาง มีปัญหาอะไรโทร.หาที่กรุงเทพฯ ได้สะดวก
ผมรับผิดชอบเรื่องต้นไม้ทั้งหมด เวลามีผู้ใหญ่เข้ามาที่สอยดาวไฮแลนด์ สำหรับคุณหมอชัยยุทธ กรรณสูต ท่านชอบสั่งงาน และเวลาสั่งงานท่านจะเขียนลงบนแผ่นกระดาษแผ่นใหญ่ๆ เหมือนกระดาษเขียนโปสเตอร์ ตัวอักษรก็ใหญ่ด้วย เขียนเป็นข้อๆ ให้ปฏิบัติตามที่ท่านสั่งไว้แล้วกำชับจะมาตรวจดู…ส่วนเจ้าสัวชาตรี โสภณพนิช ท่านเป็นคนรักต้นไม้มาก ห้ามคนงานตัดต้นไม้อย่างเด็ดขาดในสอยดาวไฮแลนด์ มีต้นสักที่มีอยู่ธรรมชาติกลางป่าเต็มไปหมด ท่านลงทุนซื้อรถขุดต้นไม้หรือถอนต้นไม้ใหญ่แล้วย้ายต้นไม้ได้ ทุ่นแรงงาน นำมาจากที่เดิมมาปลูกใหม่ให้เป็นแถว เป็นแนว เป็นไม้สักที่ท่านหวงแหนมาก จนสามารถจัดระบบไม้สักยืนต้นได้เป็นแนวสวยงาม ส่วนราคารถที่นำเข้ามาแม้เป็นรถมือสอง ราคายังหลายล้าน ใช้งานได้ดีกว่าแรงงานคนขุด…สมัยบุกเบิกเจ้าสัวชาตรีจะมาบ่อย แล้วพักที่โรงแรมในเมืองจันทบุรี เพราะที่สอยดาวยังอยู่ระหว่างก่อสร้างยังไม่เรียบร้อยดี
หลังจากโรงแรมรีสอร์ตสร้างเสร็จพร้อมกับสนามกอล์ฟ เจ้าสัวชาตรีจะมาบ่อยในยามหัวค่ำ ท่านจะมานั่งดูทิวทัศน์หลังรีสอร์ต มีภูเขาและท้องฟ้า ยามราตรีพระจันทร์เต็มดวงท่านจะนั่งดูจนเกือบสว่างด้วยความสุขต่อธรรมชาติที่หาดูยากในกรุงเทพฯ
สำหรับสมาคมกอล์ฟมีผู้จัดการต่างหาก และรีสอร์ตแยกกันทำงาน ด้านพืชสวนที่คุณประยุธดูแลเป็นสัดส่วน ภายในสอยดาวไฮแลนด์นั้น หากมีโอกาสควรสำรองที่พักไว้เพื่อไม่ผิดหวัง ภายในสอยดาว แค่นั่งรถชมทั่วก็กำไรคุ้มแล้ว ที่อยู่ของสอยดาวไฮแลนด์ กอล์ฟรีสอร์ต บ้านทับทราย เลขที่ 153/1 หมู่ที่ 2 ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ห้องพักซาเทรียมกอล์ฟ รีสอร์ต (Chatrium golf resort)
สวนราชไมตรี เลขที่ 44 หมู่ที่ 6 ตำบลคมบาง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี 22000 คุณประยุธ โทร. (081) 761-3414
