ที่มา | คิดเป็นเทคโนฯ |
---|---|
ผู้เขียน | จิรภรณ์ ล้วนเลิศ |
เผยแพร่ |
หอยแมลงภู่ จัดเป็นสัตว์น้ำ มีราคาถูก รับประทานง่าย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีการประยุกต์ใช้เปลือกหอยแมลงภู่ ความนิยมในการบริโภคหอยแมลงภู่และปริมาณผลผลิตหอยแมลงภู่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่า หอยแมลงภู่ เป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปริมาณหอยแมลงภู่มีมากขึ้น คือ เปลือกหอยแมลงภู่
วิธีการกำจัดโดยนำซากเปลือกหอยมาเป็นส่วนผสมในการผลิตคอนกรีต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยลดปริมาณขยะ กำจัดขยะอินทรีย์ ลดความต้องการพื้นที่ในการฝังกลบขยะและลดปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อม ครัวเรือนหรือชุมชนที่มีปริมาณเปลือกหอยเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก นำไปต่อยอดในการทำเป็นอาชีพเสริมให้กับแรงงานที่รับจ้างแกะหอยและยังเพิ่มมูลค่าให้กับเปลือกหอยอีกด้วย
นางสาวรติกร สมิตไมตรี ผู้ประสานงานโครงการพัฒนาเกษตรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) กิจกรรม : การยกระดับและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรไทยสู่การเป็นเกษตรกรปราดเปรื่อง (Smart Farmer) ด้วยต้นแบบเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตรสมัยใหม่ พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เล่าว่า โครงการนี้มีที่มาจาก การที่เราเห็นปัญหาหนึ่งจากการทำประมงชายฝั่งทะเล ในพื้นที่ของอ่าวศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่มีการเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่เป็นจำนวนมาก และหอยแมลงภู่จัดเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญ มีความนิยมในการบริโภคหอยแมลงภู่จำนวนมาก และสามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารได้หลากหลาย ผลกระทบที่เกิดจากการบริโภคและการแปรรูปหอยแมลงภู่ คือ มีเปลือกหอยแมลงภู่ที่เหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก
การกำจัดส่วนใหญ่คือ การนำไปถมที่ แต่เปลือกหอยที่มีเศษเนื้อติดอยู่ก็จะเกิดการเน่าและส่งกลิ่นเหม็นรบกวน คณะผู้วิจัยจึงได้เสนอแนวทางใหม่ในการกำจัดซากเปลือกหอย โดยนำเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตคอนกรีต เป็นผลิตภัณฑ์คอนกรีตต่างๆ เช่น เก้าอี้ กระถางต้นไม้ แผ่นทางเดิน เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณขยะ เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดปัญหามลภาวะทางสิ่งแวดล้อม สามารถทำได้เองในครัวเรือนหรือชุมชนที่มีปริมาณเปลือกหอยเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก นับเป็นการกำจัดเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งแบบเบ็ดเสร็จ
การประยุกต์ใช้โดยนำเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้ง เช่น
- ชุดกรองน้ำ ที่นำเปลือกหอยแมลงภู่มาแทนกรวดเล็ก
- การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ที่ทำเป็นน้ำหมักชีวภาพจากเปลือกหอยแมลงภู่
- การเพาะเห็ดในถุงขี้เลื่อย ที่นำเปลือกหอยแมลงภู่ป่นมาเพิ่มธาตุอาหารให้ก้อนเชื้อเห็ด
- ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ที่มีส่วนผสมของแมลงภู่บดที่นำมาเป็นส่วนผสมของคอนกรีต ซึ่งเราจะยกตัวอย่าง ชุดกรองน้ำเสียจากเปลือกหอยแมลงภู่ และผลิตภัณฑ์คอนกรีต
ชุดกรองน้ำเสียจากเปลือกหอยแมลงภู่
เริ่มจากการเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ นุ่น หรือสำลี ถ่าน ทรายละเอียด ทรายหยาบเปลือกหอยแมลงภู่ (แทนกรวดเล็ก) กรวดใหญ่ ขวดน้ำ
วิธีการทำชุดกรองน้ำ
- เตรียมขวดน้ำพลาสติก ขนาด 5 ลิตร ตัดก้นขวด
- วางชั้นกรองตามลำดับ นุ่นหรือสำลีวางไว้ล่างสุด ถ่าน ทรายละเอียด ทรายหยาบเปลือกหอยแมลงภู่ (แทนกรวดเล็ก) กรวดใหญ่
- วางภาชนะรับน้ำไว้ด้านล่างนุ่นหรือสำลี
ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสม
ผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมจากเปลือกหอยแมลงภู่ ได้แก่
- เก้าอี้สนาม
- กระถางต้นไม้
- อิฐบล็อกรูปทรงต่างๆ
- แผ่นทางเดิน
การทำกระถางต้นไม้
สัดส่วนผสมของคอนกรีตขนาดเล็ก
งานก่อสร้างขนาดเล็ก มีสัดส่วนผสมโดยปริมาตร คือ
เปลือกหอยแมลงภู่บด 1 ส่วน (ใช้เปลือกหอยแทนทราย)
ปูนซีเมนต์ 1 ส่วน
หิน 1 ส่วน
วิธีการผสมคอนกรีต
วิธีการผสมด้วยมือ เหมาะกับงานขนาดเล็กที่ไม่เคร่งครัดเรื่องคุณภาพมากนัก มีขั้นตอนดังนี้
- ผสมปูนและเปลือกหอยแมลงภู่บดให้เข้ากัน
- ใส่หินตามลงไป
- ใส่น้ำ (ปริมาณของน้ำที่ใส่พอที่จะทำให้คอนกรีตลื่นไหลเข้าแบบได้ หากใส่น้ำมากไปจะทำให้คอนกรีตเหลว กำลังอัดจะลดต่ำลง) จากนั้นปล่อยให้น้ำซึมเข้าส่วนผสมขณะหนึ่งแล้วผสมจนเข้ากัน
- ตักนำไปใช้งาน
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต (เก้าอี้สนาม)
วัสดุและสัดส่วน
เปลือกหอยแมลงภู่บด 3 ส่วน
ทรายหยาบ 3 ส่วน
ปูนซีเมนต์ 2 ส่วน
หิน 1 ส่วน
น้ำ 1 ส่วน
วิธีการผสมคอนกรีต
- นำส่วนผสมทั้งหมด (ยกเว้นน้ำ) มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ใส่น้ำและทิ้งไว้ ประมาณ 20-30 นาที หลังจากนั้น ผสมให้เข้ากัน
- สังเกตดูส่วนผสมว่าข้นหรือเหนียวเกินไปหรือไม่ ถ้าเหนียวเกินไปสามารถเติมน้ำลงไปได้เล็กน้อย
- นำคอนกรีตที่ได้ไปใช้งาน ขึ้นรูปในแบบต่างๆ ทิ้งไว้ 1-2 วัน จึงแกะแบบได้
…………………………….
เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563