เผยแพร่ |
---|
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) ได้มอบหมายให้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จัดการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนบูรณาการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการเกษตรในวันนี้ เพื่อให้ส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ได้รับทราบและเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สร้างความเชื่อมโยงเครือข่ายในการติดตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่ผ่านมา มีแผนงานโครงการตามพระราชดำริภายใต้กระทรวงเกษตรฯ มากกว่า 3,500 โครงการ ซึ่งเป็นการพัฒนาด้านแหล่งน้ำกว่า 3,000 โครงการ และงานพัฒนาด้านการเกษตรและการส่งเสริมอาชีพกว่า 500 โครงการ โดยการสัมมนาครั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ มุ่งขยายผลการเรียนรู้เกี่ยวกับแนวพระราชดำริให้สามารถนำศาสตร์พระราชามาปรับใช้ ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เพราะภาคเกษตร สามารถรองรับวิกฤตการณ์ทางด้านเศรษฐกิจได้ดี จะเห็นได้จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ หรือผลกระทบไวรัสโควิด-19 ที่อาจกระทบต่อพนักงานหรือแรงงานจากภาคธุรกิจหลายแห่งต้องกลับสู่ภูมิลำเนาไปประกอบอาชีพด้านเกษตร นอกจากนั้น กระทรวงเกษตรฯ ยังนำนโยบาย Eat Thai First เพื่อส่งเสริมการบริโภคอาหารไทย สินค้าเกษตรไทยให้ยืนหนึ่ง อันเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนตามแนวพระราชดำริในการพัฒนาภาคเกษตรไทยร่วมกัน
ด้าน นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการ สศก. กล่าวเสริมว่า สศก. ได้ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) จัดงานงานครั้งนี้ขึ้น ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้สนองงานพระราชดำริมาถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ ทั้งเลขาธิการ กปร. (นายดนุชา สินธวานนท์) รองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา (นายอภิชาต จงสกุล) และปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ดร.ปรเมธี วิมลศิริ) มาร่วมอภิปราย
ทั้งนี้ สศก. ได้รับมอบหมายให้ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลแนวทางประกอบการขับเคลื่อนโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมาย สามารถเป็นต้นแบบขยายผลไปในชุมชนใกล้เคียงและพื้นที่อื่นๆ ต่อเนื่อง เช่น โครงการเกษตรวิชญา โครงการศูนย์ภูฟ้าฯ โครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาฯ เป็นต้น นอกจากนี้ สศก. จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในมิติต่างๆ เช่น รายละเอียดโครงการ ผลการติดตามและประเมินผลโครงการเข้าเป็นส่วนหนึ่งใน Big Data ด้านการเกษตรของกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนโครงการต่อไป
ดังนั้น การสัมมนาครั้งนี้ จะเป็นอีกเวทีสำคัญ ที่ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทุกหน่วยงานได้รับความรู้ ความเข้าใจแนวทางในการขับเคลื่อนหลากหลายมิติ และรับทราบกรอบแนวทางในการติดตามโครงการ อันจะก่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติงานเกิดผลสัมฤทธิ์ ขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ อย่างกว้างขวางต่อไป ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ในทุกมิติของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน