“จรัสแสง” ทับทิมเมล็ดนิ่ม…ของดี ตำบลกลางดง รสหวานอมเปรี้ยว กินอร่อย ขายดีที่ญี่ปุ่น

ในวันนี้ กลางดง มีไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง คือ “ทับทิมเมล็ดนิ่ม” จากไร่จรัสแสง ของครอบครัว “ทองจรัส” ภายใต้การนำของ คุณทองเริ่ม และคุณละเอียด ทองจรัส บ้านเลขที่ 52 หมู่บ้านบ้านชายเขา หมู่ที่ 4 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30320

ครอบครัว “ทองจรัส” เจ้าของ ทับทิม พันธุ์ “จรัสแสง”
ครอบครัว “ทองจรัส” เจ้าของ ทับทิม พันธุ์ “จรัสแสง”

ไร่จรัสแสง เนื้อที่ 30 ไร่ ปลูกไม้ผลแบบผสมผสานหลากหลายชนิด ได้แก่ ลิ้นจี่ กล้วย ขนุน มะละกอ กระท้อน แอปเปิ้ล อะโวกาโด ส่วน “ทับทิมเมล็ดนิ่ม” ไม้ผลเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่มีอนาคตสดใสเรืองรองนั้น คุณพ่อทองเริ่ม ได้มอบหมายให้ลูกชาย 2 คน คือ คุณอัครินทร์ หรือ คุณกลาง เป็นผู้ดูแลด้านการผลิต และ คุณชาติชาย หรือ คุณโย่ง ดูแลด้านการตลาด-แปรรูป

คุณโย่ง (คุณชาติชาย) ดูแลฝ่ายการตลาด ผู้ผลักดันน้ำทิมทับจรัสแสงโกอินเตอร์
คุณโย่ง (คุณชาติชาย) ดูแลฝ่ายการตลาด ผู้ผลักดันน้ำทิมทับจรัสแสงโกอินเตอร์

คุณกลาง เล่าว่า ไร่จรัสแสง ปลูกสะสมพันธุ์ทับทิมมานานหลายสิบปีแล้ว ปลูกและขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ทำให้เกิดการกลายพันธุ์จนได้ทับทิมเมล็ดพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะโดดเด่น รสชาติหวาน แตกต่างจากพันธุ์อื่นอย่างชัดเจน เสน่ห์ความนิ่มของเมล็ดทับทิมพันธุ์นี้ ทำให้คนที่มีโอกาสชิมอยากกินจนแทบหยุดไม่ได้ ปัจจุบันทับทิมเมล็ดนิ่มของไร่จรัสแสง มีจำนวน 2 สายพันธุ์ คือ ทับทิมพันธุ์ “เพชรชมพู” และ ทับทิมพันธุ์ “จรัสแสง”

 

ทับทิม พันธุ์ “เพชรชมพู” 

ลักษณะเด่นของทับทิม พันธุ์ “เพชรชมพู” คือ เมล็ดนิ่ม สีชมพูสดใส รสหวาน อร่อย ที่สำคัญให้ผลดกมาก ต้นทับทิมพันธุ์เพชรชมพูมีหนามน้อย ปลูกปีเดียวก็ให้ผลผลิต ตั้งแต่ดอกบานจนเก็บผลผลิตได้ ใช้เวลา 10 เดือน  ระยะเวลาออกดอกไม่แน่นอน แต่ทยอยออกดอก ติดผลในลักษณะทะวาย ทับทิม พันธุ์ “เพชรชมพู” มีน้ำหนักโดยเฉลี่ย ผลละ 5 ขีด ขนาดใหญ่สุดที่เคยชั่งได้ ผลละ 1 กิโลกรัม เปลือกในช่วงผลอ่อนสีเขียว ผลแก่ที่ผ่านการห่อ สีผลจะจางลง ยามแก่ผลสีเข้มขึ้น ผลผลิตในช่วงฤดูฝนจะมีเมล็ดสีชมพู ช่วงฤดูแล้งเมล็ดจะมีสีแดงจัด

ทับทิม พันธุ์ “จรัสแสง” 

อีกชนิดคือ ทับทิม พันธุ์ “จรัสแสง” เป็นสินค้าตัวใหม่ที่คุณโย่งไปยื่นขอจดทะเบียนพันธุ์พืชกับกรมวิชาการเกษตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบุแหล่งที่มาของทับทิมพันธุ์นี้ว่า ช่วง ปี 2554 ได้นำสายพันธุ์ทับทิมจากประเทศอินเดียมาปลูก โดยใช้เมล็ดได้ต้นกับดอกของทับทิมทั้งหมด 5 ต้น เมื่อต้นทับทิมทั้ง 5 ต้น ออกดอก ผสมพันธุ์โดยใช้ละอองเรณูดอกของทับทิมสายพันธุ์อินเดีย มาผสมกับทับทิมพันธุ์เพชรชมพู

ทับทิมพันธุ์จรัสแสง ผลโตเต็มที่ น้ำหนักเฉลี่ย ผลละ 3-4 ขีด
ทับทิมพันธุ์จรัสแสง ผลโตเต็มที่ น้ำหนักเฉลี่ย ผลละ 3-4 ขีด

จากนั้น ก็เพาะเมล็ดทับทิมที่ได้จากการผสมแล้ว จนได้ต้นทับทิมทั้งหมด 50 ต้น ในจำนวนนี้มีอยู่ 3 ต้น เท่านั้น ที่มีลักษณะแตกต่างจากพันธุ์เดิม คือมีดอกสีส้มแดง ออกดอกเป็นช่อ และผลเป็นพวง ตั้งแต่ 3 เดือนแรก แยกลูกทับทิมออกจากกลุ่ม และเด็ดลูกทับทิมออกให้เหลือน้อยลง จากนั้น ห่อลูกทับทิมด้วยหนังสือพิมพ์ และคัดเลือกต้นที่ให้ผลขนาดใหญ่ มีน้ำหนักมากที่สุด มีเมล็ดนิ่ม น้ำมาก และมีรสชาติอร่อย หวาน เปรี้ยวเล็กน้อย เพียง 1 ต้น จาก 3 ต้น เมล็ดทับทิมที่เห็นเมื่อถูกแสงแดดจะมีแสงแวววาว จึงตั้งชื่อว่า “พันธุ์จรัสแสง” ซึ่งตรงกับชื่อไร่ของผู้ยื่น

ทับทิมพันธุ์จรัสแสง มีลักษณะประจำพันธุ์ทางพฤกษศาสตร์ ประเภท ทับทิม ชื่อสามัญ Pomegranate วงศ์ Punicaceae ชื่อวิทยาศาสตร์ Punica granatum L. ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก ต้น เป็นไม้พุ่ม เนื้อไม้แข็ง ทรงพุ่มโปร่ง มีความสูงประมาณ 2-3 เมตร เส้นรอบโคนต้นประมาณ 9 เซนติเมตร สีของเปลือกมีสีเทาน้ำตาล มีหนามยาวแหลมคม ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนาน เรียงตรงข้าม มีความกว้าง 1.5 เซนติเมตร ยาว 5 เซนติเมตร โคนใบมน ยอดอ่อนเป็นสีแดง

ทับทิมพันธุ์จรัสแสง ออกดอกเป็นช่อ และผลเป็นพวง
ทับทิมพันธุ์จรัสแสง ออกดอกเป็นช่อ และผลเป็นพวง

ทับทิมพันธุ์จรัสแสง มีดอกเดี่ยว หรือออกเป็นช่อดอก ช่อดอกยาว 4 เซนติเมตร ดอกกว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 4 เซนติเมตร ดอกมีสีส้มอมแดง ผล ทรงผลค่อนข้างกลมใหญ่ ความกว้างผล 7-10 เซนติเมตร ยาว 7-10 เซนติเมตร ผลโตเต็มที่ มีน้ำหนัก เฉลี่ย 3-4 ขีด ต่อผล ผลมีสีแดงปนเขียวอมเหลือง เมล็ด มีจำนวนมาก อัดกันแน่นเต็มเปลือก เมล็ดมีสีส้มแดง นิ่ม และรสชาติดี ให้ผลผลิตเป็น 3 ช่วง ในเดือนพฤษภาคม สิงหาคม และธันวาคม ทับทิมจรัสแสงมีลักษณะเด่นสำคัญ คือ 1. เมล็ดนิ่ม รสชาติดี และมีสีสันสวยงาม 2. ให้ผลผลิตเร็ว (หลังปลูกประมาณ 6 เดือน) และให้ผลผลิตดี ขนาดผลใหญ่

การปลูก-ดูแล

ทุกวันนี้ ไร่จรัสแสง มีพื้นที่ปลูกทับทิมเกือบ 20 ไร่ คุณกลาง กล่าวว่า ทับทิมเมล็ดนิ่มปลูกได้ทั่วไป ระยะปลูกที่เหมาะสม ระหว่างต้นระหว่างแถว 5 คูณ 5 เมตร ไร่หนึ่งมีจำนวนต้นทั้งหมด 64 ต้น นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง เพราะจะทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดีเช่นเดียวกับต้นแม่พันธุ์ ส่วนการเพาะเมล็ดทำได้ง่ายและได้ปริมาณมาก ในเวลารวดเร็ว แต่เสี่ยงกับการกลายพันธุ์ได้ง่าย

การปลูกในช่วงเตรียมดิน จะใส่ปุ๋ยคอก ระยะที่ผลเติบโต จะใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ หลังปลูกจะดูแลตัดแต่งกิ่งบ้าง เมื่อต้นทับทิมติดผลจะต้องห่อเพื่อกันแมลง ไม่ควรห่อผลช่วงที่ลูกเล็กมากนัก เพราะจะทำให้ผลผลิตที่ได้แคะแกร็นไม่สมบูรณ์ การปลูกต้นทับทิมเจอปัญหาโรคแอนแทรกโนสและเชื้อรารบกวนบ้าง อย่างไรก็ตาม การปลูกทับทิมต้องระวังอย่าใช้ยาแรงฉีด เพราะใบจะร่วงได้

 

แปรรูปน้ำทับทิม
“ยี่ห้อ สรร” ขายดีโกอินเตอร์แล้ว

ทับทิมพันธุ์ทั่วไปที่ปลูกในเมืองไทย มักให้ผลผลิตปีละ 1 ครั้ง ส่วนทับทิมสายพันธุ์อินเดีย แม้จะให้ผลผลิตเยอะกว่า แต่มีจุดอ่อนในเรื่องเมล็ดแข็ง ขณะที่ทับทิมเมล็ดนิ่มของไร่จรัสแสง ให้ผลผลิตมากกว่า สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึงปีละ 3 ครั้ง ผลผลิตของสวนแห่งนี้จึงได้รับความสนใจจากตลาดในวงกว้าง

“สรร” เป็นน้ำทับทิมคั้นสด 100% ขายดีในตลาดญี่ปุ่น
“สรร” เป็นน้ำทับทิมคั้นสด 100% ขายดีในตลาดญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม คุณโย่ง มองการณ์ไกลว่า การขายผลผลิตโดยพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง ได้ผลกำไรน้อย ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน คุณโย่งได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนสนิท เช่น คุณเอ๊ดดี้-นิภาพร เตียงทอง คุณพิษณุ สังข์ทอง คุณสาธิต บุษราคัม สร้างโรงงานแปรรูปน้ำทับทิม เกรดพรีเมี่ยมในไร่จรัสแสง โดยนำสุดยอดทับทิมอร่อยทั้ง 2 สายพันธุ์ มาผสมกันและบรรจุขวดออกจำหน่าย ในชื่อแบรนด์ “สรร” มุ่งเจาะตลาดลูกค้าระดับบน ขายในราคา ขวดละ 120 บาท สาเหตุที่มีราคาสูง เพราะต้องใช้ผลทับทิมสดน้ำหนักครึ่งกิโลกรัมมาคั้น จึงจะได้น้ำทับทิม 1 ขวด ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันมะเร็ง ป้องกันความแก่ แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าพืชผลไม้อื่นๆถึง 3 เท่า สินค้าน้ำทับทิมสรรได้รับการคัดเลือกจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมโครงการไอพลัสดี (i+d: Innovation+Design) คือโครงการเพิ่มมูลค่าของสินค้า ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาผสานกับดีไซน์ ทำให้สินค้าน้ำทับทิมสรรผ่านการค้นคว้าและวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย (วว.) จนได้นวัตกรรมใหม่ที่จะคงคุณค่าทางสารอาหารของทับทิมไว้ได้ใกล้เคียงกับกินทับทิมสดจากผล และเก็บได้นานนอกตู้เย็น ถึง 2 เดือน โดยยังคงรสชาติและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ไว้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญเป็นน้ำทับทิมคั้นสด 100% ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และปราศจากสารกันบูด ไร้การเติมแต่งสี กลิ่น รสใดๆ ทั้งสิ้น

ที่ผ่านมา สินค้าน้ำทับทิมสรรมีโอกาสเปิดตัวสู่ตลาดโลก ในงาน THAIFEX และ งาน Diet&Beauty Fair Asia 2015 ประเทศญี่ปุ่น สินค้าได้รับความสนใจจากผู้ซื้อหลายประเทศ ปัจจุบัน มีตลาดหลักอยู่ที่ญี่ปุ่น ผลงานดังกล่าวประกาศศักดาความสำเร็จของทับทิมพันธุ์จรัสแสงที่พัฒนาสายพันธุ์โดยเกษตรกรไทย ปลูก แปรรูป และส่งออกด้วยตัวเอง โกอินเตอร์ในตลาดโลกได้อย่างน่าภาคภูมิใจ หากใครอยากชิมน้ำทับทิมสรรและทับทิมพันธุ์จรัสแสงผลสด สามารถแวะซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาชิดลม

คุณโย่ง บอกว่า ทับทิมพันธุ์จรัสแสง มีรสหวานอมเปรี้ยว ฉ่ำน้ำแล้ว เมล็ดยังนิ่ม เคี้ยวกรุบ และไม่ฝาด กลืนไปได้เลย ลูกค้านิยมซื้อกลับไปกินเล่น หรือปรุงรสเป็นเมนูสลัด หรือทำเป็นค็อกเทล เป็นอาหารคาวหวานได้มากมาย หรืออย่างง่ายที่สุด นำเมล็ดทับทิมไปใส่กับน้ำในช่องทำน้ำแข็งในตู้เย็น แกะออกมาเป็นก้อนน้ำแข็งที่มีทับทิมอยู่ข้างในงดงามและสร้างสรรค์สุดๆ

 

“จันทน์ผาแปลก”
เรือนยอดแผ่ขยายคล้ายพัดหรือกำแพง  

อีกหนึ่งของแปลกในไร่จรัสแสง ที่คุณกลางพาไปชมคือ จันทน์ผาแปลก เรือนยอดแผ่ขยายคล้ายพัดหรือกำแพง 1 ในล้าน ที่กลางดง คุณกลาง บอกว่า ผมปลูกต้นจันทน์ผาไว้จำนวนมาก โดยปลูกมานานกว่า 20 ปี เริ่มปลูกเพราะสนใจรูปร่างที่สวยงามของจันทน์ผา จึงขอเมล็ดจากสวนรุกขชาติมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เพื่อนำมาเพาะขยายพันธุ์ ก่อนหน้านี้มีจันทน์ผาจำนวนมาก แต่ปัจจุบันขุดล้อมจำหน่ายไปเกือบหมด ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 200 ต้น เท่านั้น

ในต้นจันทน์ผา จำนวน 200 ต้น ของคุณกลาง มีจันทน์ผาอยู่ 1 ต้น พบว่า รูปร่างช่วงบนของยอดจันทน์ผา มีรูปร่างแปลก ต้นจันทน์ผาต้นนี้มีอายุประมาณ 20 ปี ปลูกลงดิน รอการจำหน่ายเหมือนต้นอื่นๆ แต่แปลกตรงที่ต้นนี้ส่วนยอดของลำต้นแตกออกลักษณะคล้ายพัดหรือกำแพง ส่วนอีกด้านของยอดเดียวกันและต้นเดียวกัน มีส่วนลำต้นที่งอกยื่นออกมา มองดูลักษณะคล้ายนาคปรก ซึ่งเป็นรูปร่างประหลาด และมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากถึง 1 ในล้านทีเดียว

“ผมทำจันทน์ผามานานกว่า 20 ปี เพิ่งมีต้นนี้ต้นเดียวที่รูปร่างลักษณะประหลาดแบบนี้ และยังไม่เคยเห็นที่ไหนอีก จึงจัดอยู่ในกลุ่มของหายาก ถ้ามีคนมาขอซื้อก็ขาย ราคาน่าจะอยู่ที่หลักแสนหรือหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับการตกลง” คุณกลาง กล่าว

ใครอยากได้ข้อมูลเรื่องต้นพันธุ์ทับทิมเพชรชมพูและจรัสแสง หรือต้นจันทน์ผา ก็สามารถพูดคุยสอบถามกับคุณกลางได้โดยตรง หรือเข้าเยี่ยมชมไร่จรัสแสงได้ อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 140 กิโลเมตร หากขับรถมาจาก กทม. ถึงกลางดง ให้กลับรถหน้าร้านข้าวสามสี และเข้าซอยเทศบาล 10 ขับเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ก็จะพบป้ายไร่จรัสแสง อยู่ทางขวามือ

กระแสความนิยมบริโภคผลไม้เพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะ “ทับทิม” ขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยมีไร่ทับทิมขนาดใหญ่ เพียง 3 แห่ง คือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอกลางดง คือ ไร่จรัสแสง ทุกวันนี้ ทับทิมขายดีมากจนไร่จรัสแสงผลิตสินค้าได้ไม่ทันกับความต้องการของตลาด คุณโย่งจึงมองหาเกษตรกรรุ่นใหม่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตร เพื่อลงทุนปลูกทับทิมเมล็ดนิ่มป้อนเข้าสู่โรงงานแปรรูปในอนาคต