ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงที่จะประสบภัยแล้งนอกเขตชลประทานแล้ว ในปีนี้ 105 อำเภอ 34 จังหวัด แบ่งเป็น เฝ้าระวัง 86 อำเภอ ใกล้วิกฤติ 12 อำเภอ และอยู่ในพื้นที่วิกฤต 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก อ.กงไกรลาศ และ อ.เมืองสุโขทัย จ.สุโขทัย อ.ชุมแสง อ.บรรพตพิสัย และอ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ และอ.โพนทะเล จ.พิจิตร ส่วนในเขตพื้นที่ชลประทาน การบริหารจัดการน้ำยังเป็นไปตามแผนและยังไม่มีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ คาดว่าปริมาณน้ำจะมีเพียงพอไปใช้จนถึงเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำชับให้กรมชลฯ ดูแลพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรังในเขตลุ่มแม่น้ำให้ดี โดยกำชับในส่วนของนาปรังรอบ 3 ให้เป็นศูนย์เท่านั้น เนื่องจากกรมชลประทานจะไม่ส่งน้ำให้โดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม จากวันนี้จนถึงเดือนเมษายน กรมชลฯได้เตรียมน้ำสำรองของ 4 เขื่อนหลัก รวมปริมาณ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เพื่อสนับสนุนการเกษตรโดยเฉพาะหากฝนไม่ตกลงมาหรือเกิดฝนทิ้งช่วงในต้นฤดูกาล
ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ยังไม่มีการออกประกาศพื้นที่ใดเป็นเขตภัยพิบัติเพิ่มเติม จากจังหวัด สระเเก้ว ที่ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติตั้งเเต่เดือนธันวาคม 2559 และยังไม่มีรายงานประกาศเพิ่ม ซึ่งหากเทียบข้อมูลช่วงวันเดียวกันของปีที่เเล้ว มีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 12 จังหวัด ปีนี้จึงมั่นใจได้ว่าน้ำจะเพียงพอต่อการใช้แน่นอนปัจจุบันอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 45,816 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 61%