เผยแพร่ |
---|
นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า “กลุ่มผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก” ถือเป็นต้นแบบหมู่บ้านผักอินทรีย์แห่งแรกของจังหวัดอำนาจเจริญ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 ภายใต้การนำของประธานกลุ่มคือ นางจำปา สุวะไกร ปัจจุบันมีสมาชิก 15 ราย โดยทางกลุ่มมีเป้าหมายในการปลูกผักอินทรีย์เพื่อให้เป็นแหล่งอาหาร สด สะอาด ปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมทั้งพัฒนาสินค้าผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ให้เป็นสัญลักษณ์ “เมืองธรรมเกษตร” ตามนโยบายของจังหวัดอำนาจเจริญ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 11 จังหวัดอุบลราชธานี (สศท.11) ได้สำรวจข้อมูลต้นทุนและผลตอบแทนจากการผลิต ผักอินทรีย์ ปี 2563 ของเกษตรกรกลุ่มผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก ตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ พบว่า มีต้นทุนการผลิต 5,708 บาท ต่อโรงเรือน ต่อรอบการผลิต ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 45-50 วัน ให้ผลผลิตเฉลี่ย 200-270 กิโลกรัม ต่อโรงเรือน ต่อรอบการผลิต ราคาที่เกษตรกรขายได้ 50 บาท ต่อกิโลกรัม ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 6,792 บาท ต่อโรงเรือน ต่อรอบการผลิต ด้านการเพาะปลูก เกษตรกรจะปลูก ในโรงเรือนขนาด 30×6 เมตร มีจำนวน 100 โรงเรือน สามารถปลูกผักอินทรีย์ได้จำนวน 200-270 กิโลกรัม ต่อโรงเรือน นอกจากนี้ ผักอินทรีย์ยังเป็นพืชทางเลือกที่เกษตรกรนำมาปลูกทดแทนการผลิตข้าวนาปี และมันสำปะหลังทั่วไปในพื้นที่เหมาะสมน้อย (S3) และไม่เหมาะสม (N) รวมถึงพื้นที่ปลูกยางพาราที่ประสบปัญหาด้านราคา
ปัจจุบัน สินค้าเกษตรอินทรีย์ของกลุ่ม จำหน่ายในชื่อแบรนด์ “ไร่ภูตะวัน ออร์แกนิค ฟาร์ม” จังหวัดอำนาจเจริญ ผลผลิตร้อยละ 70 ส่งจำหน่ายให้กับคู่ค้าหลักคือ บริษัท S&B food supply จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่จัดส่งผักขายให้กับห้าง Tops supermarket ทั่วประเทศ ส่วนร้อยละ 30 ส่งจำหน่ายตลาดในท้องถิ่น อาทิ ตลาดสีเขียวอำนาจเจริญ ตลาดปลอดสารพิษ ตลาดบุญนิยม และจุดจำหน่ายพืชผักปลอดสารพิษ ปั๊มน้ำมัน ปตท. อำนาจเจริญ เป็นต้น ซึ่งทางกลุ่มสามารถส่งผลผลิตได้ 1.5-2 ตัน ต่อ 5 วัน ทำให้มีรายได้หมุนเวียนกว่า 100,000 บาท ต่อ 5 วัน นอกจากนี้ ผักอินทรีย์บ้านหนองเม็กยังได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระดับสากล คือ Organic Thailand และ IFOAM เป็นโรงเรือนผักอินทรีย์เมืองธรรมเกษตร ดังนั้น จึงเป็นเครื่องการันตีและสร้างความมั่นใจกับผู้ค้าได้ว่า ผักอินทรีย์ของกลุ่มได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูง
ด้าน นายนิกร แสงเกตุ ผู้อำนวยการ สศท.11 กล่าวเสริมว่า กลุ่มผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก มีความต้องการขยายฐานการผลิตเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์สินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจากการสัมภาษณ์พูดคุยกับผู้ประสานงานด้านการตลาดของกลุ่ม (นายศุภชัย มิ่งขวัญ) ได้บอกเล่าว่า ระยะแรกทางกลุ่มประสบปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์มาตรฐานอินทรีย์คุณภาพ รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวน ส่งผลให้ผลผลิตลดลงไม่สามารถส่งออกได้ตามมาตรฐาน จึงได้ดำเนินการจัดซื้อเมล็ดพันธุ์มาตรฐานอินทรีย์จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของทางกลุ่ม จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครรินทร์ (นำโดย ดร.นราทิพย์ หมวกกรอง นักปรับปรุงพันธุ์พืช) ทำการวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์อินทรีย์คุณภาพ ต้านทานโรคและสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเสนอโครงการขอทุนวิจัยจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ซึ่งได้รับทุนวิจัยจำนวน 1.6 ล้านบาท โดยพืชที่พัฒนาพันธุ์ ได้แก่ ผักตระกูลสลัด ข้าวโพด เมล่อน และมะเขือเทศ ซึ่งมีระยะเวลาการดำเนินโครงการ 3 ปี (2562-2564) และเมื่อสิ้นสุดโครงการ ทางกลุ่มมุ่งหวังว่าจะเป็นแหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์สินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพ ทั้งเมล็ดพันธุ์หลัก เมล็ดพันธุ์ลูกผสม และเป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืชสายพันธุ์พื้นเมืองของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นอกจากนี้ ทางกลุ่มยังมีนโยบายด้านการส่งเสริมความรู้และพัฒนาบุคลากรทางการเกษตร โดยเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจทำการเกษตรอินทรีย์ให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน รวมถึงเปิดรับนักศึกษา ฝึกประสบการณ์วิชาชีพจากมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ เพื่อสร้างบุคลากรด้านการเกษตรที่มีคุณภาพและพัฒนาอาชีพเกษตรกรให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป สำหรับท่านที่สนใจข้อมูลการผลิตผักอินทรีย์กลุ่มบ้านหนองเม็ก ทางกลุ่มยินดีให้เกษตรกรสามารถเข้ามาศึกษาดูงานได้ หรือสามารถขอคำปรึกษาได้ที่ นายศุภชัย มิ่งขวัญ กลุ่มผักอินทรีย์บ้านหนองเม็ก หมู่ที่ 5 ตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ โทร. (090) 932-7915 หรือ (095) 613-1411