กรมป่าไม้-ราช กรุ๊ป จับมือค้นหาป่าชุมชนต้นแบบ ขยายผลสู่เป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน 10 ล้านไร่

มีโอกาสเดินทางไปที่กรมป่าไม้โดยได้รับเชิญให้ไปร่วมงาน “ค้นหาป่าชุมชนต้นแบบพลังขับเคลื่อนสู่เป้าหมายการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ในโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ประจำปี 2563”

กรมป่าไม้ ร่วมกับบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินงานมา 13 ปี เพื่อขยายผลรองรับเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน 10 ล้านไร่ ด้วยการจัดตั้งป่าชุมชนให้ได้ 15,000 แห่ง ภายใน 5 ปีนับตั้งแต่ปี 2562-2566 เป้าหมายดังกล่าวยังเป็นการตอบสนองต่อเป้าหมาย การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ 15 ในการปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศบกอย่างยั่งยืน

การจัดประกวดป่าชุมชนตัวอย่างประจำปี 2563 ในโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” เพื่อเฟ้นหาป่าชุมชนที่จะเป็นต้นแบบในการจัดการป่าอย่างยั่งยืน เป็นวิธีหนึ่งที่นำมาใช้เพื่อขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่าชุมชน 10 ล้านไร่ ในปีนี้ได้กำหนดแนวคิด “ป่าสร้างน้ำ” เป็นประเด็นหลักของกิจกรรม และเป็นกรอบในการสรรหาป่าชุมชนที่มีความเข้มแข็งในการดูแลฟื้นฟูป่าจนระบบนิเวศสมบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตน้ำหล่อเลี้ยงชุมชนไม่ให้ขาดแคลนแม้ในสถานการณ์ที่สังคมส่วนใหญ่ประสบปัญหาภัยแล้ง โดยมี คุณนันทนา บุญยานันต์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าชุมชน เป็นผู้ดำเนินงาน

คุณสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า จากการที่พระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 มีผลให้ป่าชุมชนที่กรมป่าไม้จัดตั้งและมีอายุก่อนวันที่ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้เป็นป่าชุมชนตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้มีจำนวน 11,322 แห่ง มีหมู่บ้านที่เข้าร่วมจำนวน 13,016 หมู่บ้าน พื้นที่ป่ารวม 6.29 ล้านไร่ โดยกรมป่าไม้มีเป้าหมายในการผลักดันให้ป่าชุมชนทั้งสิ้นจำนวน 15,000 แห่ง มีหมู่บ้านเข้ามามีส่วนร่วมจำนวน 18,000 หมู่บ้าน รวมพื้นที่ป่าไม้ทั้งประเทศ 10 ล้านไร่ ภายในระยะเวลา 5 ปี

คุณสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล

ทั้งนี้ กรมป่าไม้ ได้ใช้ยุทธศาสตร์การรักษาป่าอย่างมีส่วนร่วมมาใช้ในการขับเคลื่อนงานด้านป่าชุมชน ด้วยการประสานความร่วมมือกับภาคประชาชนและภาคเอกชน โดยภาคประชาชนจะเข้ามาช่วยมีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาป่าร่วมกับเจ้าหน้าที่ ขณะที่ภาคเอกชนก็เข้ามาร่วมสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือภารกิจของกรมป่าไม้อีกทางหนึ่งด้วย บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือเป็นแนวร่วมสำคัญที่สนับสนุนการทำงานด้านป่าชุมชนของกรมป่าไม้มาตั้งแต่ปี 2551 ภายใต้ความร่วมมือโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ซึ่งได้ขยายแนวคิดป่าชุมชนเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ด้วยความมุ่งมั่นบนเป้าหมายในการรักษาผืนป่าของประเทศของทุกภาคส่วน กรมป่าไม้เชื่อมั่นว่า เป้าหมายพื้นที่ป่าชุมชน 10 ล้านไร่บรรลุผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน

คุณบุญทิวา ด่านศมสถิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารองค์กร บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนายั่งยืนไม่เพียงมุ่งสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าทางสังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย ในด้านสิ่งแวดล้อมบริษัทมุ่งเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ทั้งสองประเด็นนี้ เป็นที่มาของการริเริ่มโครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ซึ่งเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทที่เน้นการปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศบกอย่างยั่งยืน โดยผ่านการส่งเสริมชุมชนการเข้ามามีส่วนร่วมจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ 15 และเป้าประสงค์ที่ 15.2 ที่ส่งเสริมให้ภาคส่วนต่างๆ ช่วยกันส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ฟื้นฟูป่าไม้ที่เสื่อมโทรม รวมทั้งปลูกป่าในพื้นที่ที่ไม่เคยเป็นป่ามาก่อน

คุณบุญทิวา ด่านศมสถิต

สำหรับปีนี้บริษัทและกรมป่าไม้ ก็จะร่วมกันจัดกิจกรรมประกวดป่าชุมชนตัวอย่างระดับประเทศต่อเนื่อง เพื่อคัดสรรชุมชนที่จะเป็นแบบอย่างในการพัฒนาและจัดการป่าชุมชนอย่างยั่งยืน ที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ปี 2551-2562 มีป่าชุมชนตัวอย่างที่อยู่ภายใต้โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน รวม 1,683 แห่ง (คิดเป็นร้อยละ 14.9) ป่าชุมชนตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนการอนุรักษ์ป่า สร้างคนรุ่นใหม่ และขยายแนวร่วมป่าชุมชน ส่วนพื้นที่ป่าของป่าชุมชนตัวอย่างรวม 1.5 ล้านไร่ ยังจะเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 3 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีช่วยลดภาวะโลกร้อน

Advertisement

และหากจะมองในมิติมูลค่าของป่าไม้ก็สามารถพิจารณาจากมูลค่าการให้บริการระบบนิเวศของป่าไม้ อันได้แก่ การป้องกันการพังทลายของดิน การดูดซับน้ำใต้ดิน ธาตุอาหาร การไหลผ่านของน้ำและการช่วยลดอุณหภูมิ ซึ่งจากการศึกษาของสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO เมื่อเดือนกันยายน 2560 พบว่า ป่าไม้ให้บริการระบบนิเวศ คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 89,737.48 บาท ต่อไร่ ต่อปี นับว่ามีมูลค่ามหาศาลมาก”

คุณทอน ใจดี ประธานป่าชุมชนบ้านปี้ ได้รับรางวัลป่าชุมชนชนะเลิศระดับประเทศ โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2562 ป่าชุมชนบ้านปี้ หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 10 ตำบลเวียง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เล่าว่า พื้นที่ป่าชุมชน 945 ไร่ เคยเป็นป่าเสื่อมโทรมจนชุมชนได้ร่วมใจกันพลิกฟื้นผืนป่าโดยใช้แนวคิดวิถีพอเพียงมาปรับใช้ในการอนุรักษ์และจัดการทรัพยกรธรรมชาติด้วยตระหนักว่า “ป่าพึ่งคน คนพึ่งป่า” ไม่สามารถแยกป่าออกจากวิถีของคนในชุมชนได้ ระบบนิเวศของที่นี่เป็นป่าเต็งรังผสมป่าเบญจพรรณ พืชที่พบ เช่น เต็ง รัง พลวง เห็ด หน่อไม้ สาบเสือ

Advertisement
คุณทอน ใจดี

ป่าชุมชนแห่งนี้เป็นแนวกันชนระหว่างเขตเมืองและเขตป่าอนุรักษ์ ป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติมจากวิถีเมือง ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่งที่มีนโยบายที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับป่าไม้ ซึ่งทำให้พี่น้อง ประชาชนมีจิตสำนึกในการรักป่า เห็นความสำคัญของป่าไม้มากขึ้น ทั้งนี้ ต้องขอบคุณบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่มีการส่งเสริมให้กำลังใจ เพื่อกระตุ้นให้กับชุมชนทั่วประเทศ และกรมป่าไม้ที่มีนโยบายที่มีพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทย

สำหรับกิจกรรมการประกวดป่าชุมชนตัวอย่าง ประจำปี 2563 กำหนดประเภทรางวัลออกเป็น 2 ประเภท คือ

  1. 1. รางวัลประเภทการประกวดป่าชุมชนระดับประเทศ 5 ระดับ จำนวน 144 รางวัล ดังนี้

– รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ป้ายประกาศเกียรติคุณติดตั้ง ณ ป่าชุมชน และเงินรางวัล 200,000 บาท

– รางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ 3 รางวัล ได้รับถ้วยรางวัลรองชนะเลิศระดับประเทศ ป้ายประกาศเกียรติคุณติดตั้ง ณ ป่าชุมชน และเงินรางวัล แห่งละ 100,000 บาท

– รางวัลป่าชุมชนระดับภาค 4 รางวัล ได้รับโล่รางวัลป่าชุมชนระดับภาค ป้ายประกาศเกียรติคุณติดตั้ง ณ ป่าชุมชน และเงินรางวัล แห่งละ 30,000 บาท

– รางวัลป่าชุมชนระดับจังหวัด 68 จังหวัด ได้รับโล่รางวัลป่าชุมชนระดับจังหวัด ป้ายประกาศเกียรติคุณติดตั้ง ณ ป่าชุมชน และเงินรางวัล แห่งละ 25,000 บาท

– รางวัลชมเชย 68 รางวัล ได้รับโล่รางวัลชมเชย และเงินรางวัล แห่งละ 10,000 บาท

  1. 2. รางวัลประเภทการประกวดป่าชุมชนดีเด่นด้าน “ป่าชุมชน รักษ์น้ำ รักษ์ป่า พัฒนาชีวิต” จำนวน 4 รางวัล ได้แก่

– รางวัลชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น 1 รางวัล ได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น ป้ายประกาศเกียรติคุณติดตั้ง ณ ป่าชุมชน และเงินรางวัล 100,000 บาท

– รางวัลรองชนะเลิศป่าชุมชนดีเด่น 3 รางวัล ได้รับถ้วยรางวัล ป้ายประกาศเกียรติคุณติดตั้ง ณ ป่าชุมชน และเงินรางวัล แห่งละ 25,000 บาท

ป่าชุมชนที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการประกวดได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 เมษายน 2563  ติดต่อขอรับใบสมัครและสมัครได้ที่ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1-13 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้สาขาทุกสาขา หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครที่ www.forest.go.th

(จากซ้าย ไปขวา) คุณนันทนา บุญยานันต์ คุณสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล คุณบุญทิวา ด่านศมสถิต คุณทอน ใจดี