ข้าวคลุกกะปิ อาหารจานเดียวรสเด็ด

ข้าวคลุกกะปิ เป็นอาหารจานเดียวของทางภาคกลาง ที่นำเอาข้าวก้นหม้อ หรือข้าวค้างคืนมาคลุกกับกะปิดีในครัว แล้วตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่กะปิลงไปผัดให้หอม ผัดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ข้าวลงผัด ใช้ไฟแรงผัดให้เข้ากัน ตักข้าวขึ้นใส่จาน จัดเสิร์ฟพร้อมกับหอมแดงซอย กุ้งแห้งทอด กุนเชียงทอด พริกทอด หรือพริกขี้หนูซอย ไข่เจียวหั่นฝอย ถั่วฝักยาวซอย มะม่วงดิบสับเส้นยาว แตงกวา มะนาว และหมูหวาน จากนั้นก็แค่คลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ได้รสชาติกลมกล่อมของข้าวผัดกะปิ เมนูอาหารจานเดียวที่อร่อยครบเครื่อง หอมหวนชวนหิวอย่างแน่นอน

ข้าวคลุกกะปิ

อาหารหลักของคนไทยที่ขาดไม่ได้ในเกือบทุกมื้อ ก็คงหนีไม่พ้น ข้าว เพราะข้าวก็คือจุดเริ่มต้นของอาหารนั่นเอง คนไทยกินข้าวเป็นอาหารหลัก และเมื่อเรานำข้าวมาผัดกับกะปิได้รสชาติที่เข้ากันเกิดรสอร่อยรวมอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมรสชาติที่ได้จากเครื่องเคียงที่ผสมผสานเข้ากัน จนทำให้เมนูข้าวคลุกกะปิจานนี้กลายเป็นเมนูโปรดของท่านไปเลย

เมนูโบราณที่ยุคปัจจุบันยังได้รับความนิยม และยังขายดิบขายดี

สำหรับ กะปิ ถือว่าเป็นเครื่องปรุงก้นครัวของไทยมาแต่โบราณกาล ใช้ทำอาหารได้หลากหลายทั้ง แกง ผัด และปรุงเป็นน้ำพริก ให้รสชาติเค็ม และมีกลิ่นหอม ข้าวคลุกกะปิ เป็นอาหารจานเดียวของคนโบราณที่นำกะปิมาคลุกกับข้าวสวย แล้วกินกับเครื่องเคียงต่างๆ ที่มีรสอร่อยหลายรสในจานเดียว เช่น รสหวานจากหมูหวาน เปรี้ยวจากมะม่วง เผ็ดจากพริกขี้หนู และมีเนื้อสัมผัสทั้งกรอบจากกุ้งแห้งทอด และความนุ่มจากไข่เจียว

กะปิคุณภาพดี ต้องทำมาจากเคยที่นำมาหมัก มีแคลเซียมสูงมาก ช่วยบำรุงกระดูก ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่มีอยู่ในนม กะปิมีวิตามินบี 12 สูงมาก ซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ จึงต้องมาจากอาหารที่เรานำเข้าสู่ร่างกาย วิตามินบี 12 นั้นจะช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และยังมีไขมันโอเมก้า 3 ชนิดเดียวกับปลาทะเลน้ำลึก จึงช่วยเรื่องเส้นเลือดอุดตัน และโรคหัวใจได้อย่างดี

ความเป็นมา

ข้าวคลุกกะปิ อร่อยด้วยเครื่องเคียงต่างๆ คือ มะม่วงดิบซอย ไข่เจียว หมูหวาน กุนเชียง พริกขี้หนูซอย และผักต่างๆ

จากพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ใน “บันทึกความหิว” มีใจความว่า….ข้าฝันไปว่าเสด็จยายทรงปรุงข้าวคลุกกะปิให้กินอร่อยมาก

ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า ข้าวคลุกกะปิ นั้นน่าจะเป็นอาหารดั้งเดิมของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งจากต้นตำรับของข้าวคลุกกะปิ คือ ข้าวคลุกปลาดุกย่าง โดยทั้งข้าวคลุกกะปิและข้าวคลุกปลาดุกย่าง วิธีการทำและใช้เครื่องปรุงลักษณะเดียวกัน วิธีการทำไม่ยุ่งยาก และหาเครื่องปรุงได้ง่าย ลักษณะของข้าวคลุกกะปิต้องมีสีนวล มีรสชาติของกะปิ และมีกลิ่นหอม กะปิที่ใช้ต้องเลือกกะปิอย่างดี มีสีสวย สีไม่คล้ำมาก ข้าวที่ใช้ต้องเป็นข้าวที่หุงไม่แฉะ เม็ดสวย จึงนิยมใช้ข้าวเสาไห้ หรือข้าวหอมมะลิเก่า โดยหุงใช้น้ำน้อย สมัยโบราณท่านจะห่อกะปิด้วยใบตอง แล้วนำไปปิ้งไฟให้มีกลิ่นหอมก่อนนำมาคลุกกับข้าว ปัจจุบัน ใช้วิธีนำกะปิลงไปผัดในกระทะให้หอมแล้วคลุกกับข้าวเพื่อช่วยเพิ่มความหอมของกะปิ และทำให้เม็ดข้าวมีสีสวย เครื่องเคียงสำคัญของข้าวคลุกกะปิ ซึ่งจะขาดไม่ได้คือ กุ้งแห้งทอดกรอบ และเครื่องเคียงประกอบอื่นๆ ได้แก่ หมูหวาน ไข่เจียวหั่นฝอย หอมแดงซอย พริกขี้หนูซอย มะม่วงดิบ ผักชี และแตงกวา เป็นต้น

คุณค่าทางโภชนาการ

คุณค่าทางโภชนาการของข้าวคลุกกะปิ 1 จาน ให้พลังงานประมาณ 549 กิโลแคลอรี ซึ่งเป็นปริมาณพลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของที่แนะนำให้บริโภคใน 1 วัน สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงาน 1,600 กิโลแคลอรี ต่อวัน

ส่วนปริมาณโปรตีน จัดว่ามีค่อนข้างสูงคือประมาณ 25 กรัม หรือคิดเป็นร้อยละ 48 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคประจำวัน ซึ่งมาจากเนื้อหมู กุ้งแห้ง และไข่เจียว เป็นส่วนใหญ่

แต่เมื่อดูปริมาณไขมัน อาจถือได้ว่าข้าวคลุกกะปิเป็นอาหารจานเดียวที่ให้ปริมาณไขมันสูงไปบ้าง คือ พลังงานที่ได้จากไขมันมากกว่า ร้อยละ 30 ของพลังงานทั้งหมด หรือคิดเป็น ร้อยละ 43 ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคทั้งวัน

สำหรับผู้ที่กินข้าวคลุกกะปิ 1 จาน คือ ถ้าเป็นเด็กหญิงวัยทำงาน และผู้สูงอายุที่ต้องการพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี ไขมันวันละประมาณ 53 กรัม ข้าวคลุกกะปิ 1 จาน จะให้พลังงานพอดีสำหรับเป็นอาหาร 1 มื้อ แต่มีปริมาณไขมันที่ค่อนข้างมากเกินไป ดังนั้น จึงควรลดปริมาณไขมันที่จะกินในมื้อถัดไปลง ซึ่งอาจทำได้โดยการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทผัด ทอด อาหารที่ใส่กะทิ หรือกินอาหารเหล่านี้ให้น้อยลง

ข้าวคลุกกะปิ อาหารจานเดียวรสเด็ด

หมูหวาน เป็นเครื่องเคียงข้าวคลุกกะปิที่อยู่คู่กันมาตลอด

ข้าวคลุกกะปิ ที่นำข้าวสวยไปผัดคลุกเคล้ากับกะปิจนหอม เป็นเมนูที่เครื่องเคียงเยอะมาก  และสามารถกินได้ทุกอย่างที่อยู่ข้างๆ จาน ถึงแม้ว่าเป็นเมนูที่ต้องใช้เวลาทำ แต่ก็คุ้มค่าในการรอคอยที่จะได้กินในฝีมือตัวเอง หากเตรียมทุกอย่างพร้อม ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย

ส่วนผสม

  1.  หอมแดงสับ
  2.  หมูสามชั้น
  3. น้ำตาลปี๊บ
  4.  ซีอิ๊วขาว
  5.  ซีอิ๊วดำ
  6. กุนเชียง
  7.  ไข่ไก่
  8.  กะปิ
  9.  ข้าวสวย
  10.  พริกขี้หนูซอย
  11.  มะม่วงเปรี้ยว
  12.  กุ้งแห้ง
  13.  ถั่วฝักยาว
  14. หอมแดงซอย
  15.  แตงกวา
  16.  มะนาว

วิธีทำ

เตรียมเครื่องเคียงก่อน มีหมูหวาน กุนเชียงทอด ไข่ฝอย มะม่วงเปรี้ยวสับ มะนาวหั่นซีก หอมแดงซอย ถั่วฝักยาวซอย กุ้งแห้ง และแตงกวา

นำกระทะใส่น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ นำหัวหอมแดงลงไปผัดจนหอม ใส่หมูสามชั้นลงไปผัดจนสุก จากนั้นใส่เครื่องปรุง น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ลงไปผัดให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อย เคี่ยวหมูไปเรื่อยๆ ประมาณ 10 นาที เคี่ยวให้เหนียวเสร็จแล้วตักใส่ถ้วยแยกไว้

ทำไข่ฝอย ตีไข่ให้พอแตก ทอดด้วยไฟอ่อน ทอดจนสุกทั้งสองด้านแล้วนำขึ้นมาหั่นฝอยๆ

นำข้าวสวยมาคลุกกับกะปิ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อข้าว 2 ถ้วย คลุกบนกระทะด้วยไฟอ่อน หรือนำมาคลุกในชามแล้วใส่ถุงมือขยำ จัดเตรียมข้าวคลุกกะปิใส่จานและตกแต่งด้วยเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสรรพ พร้อมรับประทานได้

จุดเด่นของอาหารไทยอย่างหนึ่งคือ รสชาติที่มีครบทั้งรส และกลิ่น คือ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด และหอมยั่วน้ำลาย อาหารจานเดียวที่มีครบเครื่องครบรสอย่าง ข้าวคลุกกะปิ เมนูโบราณที่ยุคปัจจุบันยังขายดิบขายดี ถูกจริตคนไทยมาโดยตลอด

ดังนั้น ข้าวคลุกกะปิ จึงเป็นเมนูโบราณที่ในยุคปัจจุบันยังได้รับความนิยม ด้วยเพราะเครื่องเคียงต่างๆ ที่อร่อยถูกอกถูกใจคนไทย และข้าวที่ใช้ทำต้องเป็นข้าวสวยที่หุงเสร็จต้องทิ้งไว้ให้แห้ง ข้าวมีเมล็ดร่วนสวย ไม่แฉะ ไม่เละ ส่วนกะปิที่ใช้ทำก็ต้องเป็นกะปิอย่างดี จึงจะทำให้ข้าวที่นำมาคลุกกะปิหอม อร่อย กินคู่กับหมูหวาน และสารพัดเครื่องเคียงที่เพิ่มเติมให้เมนูข้าวคลุกกะปิมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม และยังมีรสชาติที่อร่อยยิ่งขึ้นอีกด้วย

………………..

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ.2563