หนุ่มกำแพงเพชร เลี้ยงปูนาครบวงจร พร้อมแปรรูปเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ดี

ถ้าพูดถึงสัตว์น้ำที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปูนากำลังได้รับความนิยม เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาปูนาในแหล่งธรรมชาติเริ่มมีจำนวนลดน้อยลง เมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ไม่ว่าเดินไปหนแห่งไหนในท้องทุ่งนา ก็สามารถหาปูนานำมาประกอบอาหารหรือจำหน่ายเพื่อเกิดรายได้ ยิ่งเป็นคนที่อยู่ตามต่างจังหวัดด้วยแล้ว ปูนาจึงถือว่าเป็นสัตว์น้ำที่รู้จักดี

เมนูรับประทานเล่นจากปูนา

แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป บวกกับการทำเกษตรที่พึ่งสารเคมีมากขึ้น จึงทำให้จำนวนของปูนาในแหล่งธรรมชาติลดน้อยลง มีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานปูนา ส่งผลให้ระยะหลังๆ มานี้ การเลี้ยงปูนาจึงเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หลายคนให้ความสนใจและยึดทำเป็นอาชีพสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

คุณวิโรจน์ แก้วแสงทอง อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ที่ 18 ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ได้เห็นช่องทางการสร้างรายได้จากการเลี้ยงปูนา เมื่อมีโอกาสได้กลับมาอยู่บ้านเกิด จึงเรียนรู้การเลี้ยงปูนาและสร้างเป็นธุรกิจแบบครบวงจร โดยนำผลผลิตที่ได้มาทำการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้ปูนาที่เลี้ยงมีตลาดแน่นอน สามารถจำหน่ายได้ทั้งหมดและเป็นอาชีพที่ยั่งยืน

คุณวิโรจน์ แก้วแสงทอง

สนใจการเลี้ยงปูนา

เพราะมองว่าทำเงินได้จริง

คุณวิโรจน์ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเป็นครูสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่โรงเรียนเอกชน ต่อมาได้ลาออกและได้ไปทำงานอยู่บริษัทเอกชนเกี่ยวกับด้านไอที เมื่อทำไปเรื่อยๆ เริ่มรู้สึกเบื่ออยากจะกลับมาอยู่บ้านเกิด โดยไม่ต้องจากบ้านไปไกลได้อยู่ดูแลครอบครัวไปพร้อมๆ กัน ระหว่างที่ได้มาอยู่บ้านจึงได้ศึกษาการเลี้ยงปูนา กุ้งฝอย และหอยขม จากสื่อโซเชียลต่างๆ โดยทำ 3 อย่างนี้ไปพร้อมๆ กัน เมื่อทดลองจนถึงที่สุด ปูนาเป็นสัตว์น้ำที่ตอบโจทย์ในการเลี้ยงมากที่สุด

“พอเราเลี้ยงแล้วได้ทดลองขาย ทั้ง 3 ชนิดนี้ สรุปแล้วปูนาในพื้นที่ของเราสามารถขายได้ดีกว่า ตั้งแต่นั้นมาก็เลยมาตั้งใจเลี้ยงปูนาเพียงอย่างเดียว ทำอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2560 เริ่มแรกพอทำมีผลผลิตก็ออกจำหน่ายตามตลาดนัดต่างๆ พอลูกค้ามีมากขึ้น เขาไม่ได้ซื้อลูกพันธุ์เราอย่างเดียว เขาต้องการที่จะให้เราทำการแปรรูปด้วย ทีนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้เลี้ยงแบบครบวงจร ตั้งแต่ขายลูกพันธุ์จนไปถึงนำมาประกอบอาหาร และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากปูนาต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้” คุณวิโรจน์ เล่าถึงที่มา

บ่อซีเมนต์เลี้ยงปูนา

พื้นที่รอบบ้าน

ว่างตรงไหนเลี้ยงตรงนั้น

ในขั้นตอนของการเลี้ยงปูนานั้น คุณวิโรจน์ บอกว่า ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อนสำหรับการเลี้ยงปูนา อย่างตัวเขาเองมีพื้นที่ว่างตรงไหนในบริเวณบ้าน จะเลี้ยงบริเวณนั้นให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของพื้นที่ โดยสภาพอากาศที่เขาอยู่ค่อนข้างร้อนจะเลี้ยงด้วยกระชังบกค่อนข้างมีปัญหา จึงได้ใช้บ่อเลี้ยงก่อด้วยซีเมนต์เป็นส่วนใหญ่ ขนาดบ่ออยู่ที่ 2×3 ตารางเมตร และภายในบ่อจะมีจัดพื้นที่อยู่อาศัย เช่น กระเบื้อง หรือกระบอกไม้ไผ่เพื่อให้ปูนาได้หลบซ่อนตัว

นำปูนาที่ไม่ได้ไซซ์มาแปรรูป

“พอเราเตรียมบ่อเรียบร้อยแล้ว ก็จะเอาพ่อแม่พันธุ์มาใส่เลี้ยงในบ่อได้ทันที อายุพ่อแม่พันธุ์ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 4-8 เดือน นำมาปล่อยเลี้ยงตัวผู้ตัวเมียให้จับคู่กันอยู่ที่อัตราส่วน 1 ต่อ 1 เมื่อแม่พันธุ์ได้รับการผสมจากพ่อพันธุ์แล้ว นับไปประมาณ 45-50 วัน แม่พันธุ์ก็จะตั้งท้องและมีลูกติดอยู่หน้าท้องให้เห็น จากนั้นจับแม่ปูมาทำคลอด ให้ลูกออกจากหน้าท้อง และนำลูกปูนาที่ได้มาทำการอนุบาล ให้มาอยู่ที่พื้นที่ที่เราจัดเตรียมไว้ให้ และเลี้ยงด้วยอาหารผงที่เราจัดเตรียมไว้ให้ เลี้ยงไปเรื่อยๆ จนลูกปูโตประมาณ 1 เดือน ก็จะย้ายไปเลี้ยงในบ่ออื่นต่อไป” คุณวิโรจน์ บอก

น้ำพริกปูนา

จากนั้นนำลูกปูหลังจากอนุบาลเรียบร้อยแล้ว มาเลี้ยงต่อในบ่อซีเมนต์ที่เตรียมไว้ เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดที่ใช้เลี้ยงลูกอ๊อด เปอร์เซ็นต์โปรตีนอยู่ที่ 32 โดยให้กินตามตางรางที่กำหนดสลับกับการให้กินอาหารที่ได้ในท้องถิ่น เช่น กล้วย และพืชผักต่างๆ เลี้ยงอยู่แบบนี้อีก 3 เดือน ปูนาทั้งหมดก็จะได้ขนาดไซซ์ที่พร้อมจำหน่ายได้

ในเรื่องของการเกิดโรคในปูนานั้น คุณวิโรจน์ บอกว่า ตั้งแต่เลี้ยงมายังไม่ประสบปัญหาในเรื่องนี้มากนัก เพราะการเลี้ยงปูนาค่อนข้างใส่ใจในเรื่องความสะอาดเป็นอย่างมาก มีการถ่ายน้ำให้อยู่เสมอ ดังนั้น ในเรื่องของการสะสมโรคจึงไม่เกิดขึ้นอยู่ภายในบ่อจนทำให้ปูเกิดความเสียหาย

พื้นที่ก้นบ่อ ทำเป็นที่หลบซ่อน

ทำตลาดครบวงจร

ขายได้ทุกช่องทาง

ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายปูนานั้น คุณวิโรจน์ บอกว่า ระยะแรกๆ จะต้องนำปูที่เลี้ยงออกไปตระเวนจำหน่ายยังตลาดนัดต่างๆ บ้าง เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จัก และเมื่อมีลูกค้ารู้จักมากขึ้น จึงปรับเปลี่ยนการจำหน่ายให้สอดคล้องต่อความต้องการคือ นำปูนาที่เลี้ยงมาทำการแปรรูป พร้อมกับเปิดร้านอาหารที่ทำเมนูเกี่ยวกับปูนาโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ต่อความต้องการของลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหารจากเมนูปูนาอีกด้วย

เมนูอาหารจากปูนา

“ตอนนี้เรียกได้ว่าผมขายแบบครบวงจรเลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่พ่อแม่พันธุ์ปูนา ขายอยู่ 2 ราคา คือ พ่อแม่พันธุ์หนุ่มสาวที่พร้อมผสมพันธุ์ขายอยู่ที่คู่ละ 60 บาท ส่วนปูนาที่ผ่านการผสมพันธุ์จนตั้งท้องแล้ว ราคาอยู่ที่คู่ละ 100 บาท และส่วนปูที่ทรงไม่ดีทรงไม่สวยเราก็จะนำมาทำการแปรรูป สร้างเป็นสินค้าเพิ่มมูลค่า เช่น น้ำพริกปูนา และผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ อีกหลายชนิด จึงทำให้ปูนาในฟาร์มของเราจำหน่ายได้ทุกอย่าง แบบครบวงจรในเวลานี้” คุณวิโรจน์ บอก

การส่งพ่อแม่พันธุ์จำหน่าย

สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงปูนาเป็นอาชีพทำเงิน คุณวิโรจน์ บอกว่า ปูนาสามารถทำตลาดและนำมาแปรรูปได้อย่างแท้จริง โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะล้นตลาด เพราะปัจจุบันปูนาในแหล่งธรรมชาติมีจำนวนน้อยลง และตลาดดังมีความต้องการเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากผู้ที่สนใจอยากจะเลี้ยงอย่างจริงจัง เพียงศึกษาอุปนิสัยของปูให้ดี จากนั้นมาทดลองเลี้ยงด้วยตนเองก่อนว่าชอบจริงๆ หรือไม่ เมื่อประสบผลสำเร็จจากการเลี้ยงแล้วจึงค่อยๆ ขยับขยายการเลี้ยงไปเรื่อยๆ ปูนาก็จะเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืนแน่นอน

ปูนาตัวใหญ่ๆ ก้ามโตๆ

สนใจในเรื่องของการเลี้ยงปูนาและต้องการศึกษาดูงานเพื่อนำมาต่อยอดสร้างเป็นอาชีพ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณวิโรจน์ แก้วแสงทอง หมายเลขโทรศัพท์ (061) 582-9748