นิมิตร์ เทียมมงคล กับความก้าวหน้าในการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์

ขณะที่เศรษฐกิจตกต่ำและมีคนตกงานเป็นจำนวนมาก ในปัจจุบันนี้การเพาะถั่วงอกนับเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ทำเงินได้เร็ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน มีข้อมูลว่าคนไทยบริโภคถั่วงอกไม่น้อยกว่า 1 ล้านกิโลกรัม ต่อวัน แต่รูปแบบการเพาะถั่วงอกตัดรากและผลิตในรูปแบบของเกษตรอินทรีย์จนได้รับใบรับรองผลิตภัณฑ์อินทรีย์ มาตรฐานประเทศไทย จากกรมวิชาการเกษตร จะมีอยู่เพียงไม่กี่รายและที่มีชื่อเสียงระดับประเทศจะเป็นของ คุณนิมิตร์ เทียมมงคล ที่เริ่มต้นจากการเพาะถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษในตะกร้าพลาสติก ประยุกต์วัสดุเพาะมาเพาะในบ่อซีเมนต์ เนื่องจากความต้องการของตลาดมีมากขึ้น

 ขั้นตอนการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์

พื้นฐานในการเพาะถั่วงอกแบบอินทรีย์นั้น คุณนิมิตร์ แนะนำว่า คนที่สนใจควรที่จะทดลองเพาะถั่วงอกโดยใช้ตะกร้าพลาสติกให้เกิดความชำนาญก่อน แล้วจึงค่อยขยายขนาดภาชนะเพาะเป็นแบบวงบ่อปูน ซึ่งมีหลักการเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนขนาดอุปกรณ์เท่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะถั่วงอกตัดรากแบบอินทรีย์ เริ่มจากตะกร้าพลาสติกทรงกลมมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 18 นิ้ว สูงประมาณ 11 นิ้ว มีรูตาข้างรอบตะกร้า และมีรูที่ก้นเพื่อใช้เป็นที่ระบายน้ำ เมล็ดถั่วเขียวที่มีวางขายในท้องตลาดจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ถั่วเขียวผิวมัน และถั่วเขียวผิวดำ ถั่วทั้ง 2 ชนิด

เมื่อนำมาเพาะเป็นถั่วงอกจะมีความแตกต่างกัน ถั่วเขียวผิวมันเพาะได้ถั่วงอกที่มีขนาดต้นโต สีขาวอมเหลือง แต่จะมีการเปลี่ยนสีค่อนข้างไวเมื่อโดนลมและแสง แต่สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเอาถั่วงอกใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น ไม่ให้โดนลม จะคงความขาวได้นาน แต่ถ้าจะเก็บไว้บริโภคหลายๆ วัน ควรจะเก็บไว้ในตู้เย็นได้นาน 7 วัน สำหรับถั่วเขียวผิวดำหรือหลายคนเรียกว่า “ถั่วแขก” จะมีขนาดของเมล็ดเล็กกว่า เมล็ดมีสีดำ เมื่อนำมาเพาะเป็นถั่วงอกจะได้ถั่วงอกที่มีสีขาว มีความกรอบและรสชาติที่ดีกว่าถั่วเขียวผิวมัน แต่มีข้อเสียตรงที่ได้ต้นถั่วงอกที่มีขนาดต้นเล็กกว่า มีอัตราการเจริญเติบโตช้ากว่า สีของต้นถั่วงอกที่เพาะจากถั่วเขียวผิวดำจะทนต่อการเปลี่ยนสีได้ดีกว่าถั่วเขียวผิวมัน ตลาดจะต้องการถั่วงอกจากถั่วเขียวผิวมันมากกว่า

เนื่องจากมีสีขาวอมเหลืองน่ารับประทานมากกว่า และก่อนที่จะเพาะควรจะคัดเลือกเมล็ดให้ดีเสียก่อน คัดเมล็ดถั่วที่แตก เมล็ดลีบ และเศษสิ่งสกปรกต่างๆ ออก (ถ้าเมล็ดไม่สะอาดหรือทำความสะอาดไม่ดี จะเป็นสาเหตุของเชื้อโรคเข้ามาทำความเสียหายได้) เมล็ดถั่วเขียว อัตรา 1 กิโลกรัม เพาะถั่วงอกได้ 6-7 กิโลกรัม

ตะแกรงรองพื้นก้นตะกร้า

จะใช้ตะแกรงพลาสติกขนาดรูตาใหญ่ ตัดให้ใหญ่ตามขนาดตะกร้าพลาสติกที่ใช้เพาะ แต่จะต้องมีขนาดของรูตะแกรง กว้างxยาว 1×1 เซนติเมตร นำสายยางมามัดกับตะแกรงเสริมให้สูงขึ้นตามรูป จุดประสงค์ที่ยกตะแกรงเพาะให้สูงจากพื้นเล็กน้อยเพื่อให้มีการระบายน้ำเป็นไปอย่างสะดวก ตะแกรงเกล็ดปลา เป็นตะแกรงพลาสติกที่มีรูละเอียด มีขนาดของรู กว้างxยาว เพียง 4-5 มิลลิเมตร เท่านั้น หรือดูให้มีรูตาเล็กกว่าเมล็ดถั่วเขียว ป้องกันการหลุดร่วง ตะแกรงชนิดนี้จะมีจำหน่ายตามร้านวัสดุก่อสร้าง

เมื่อเมล็ดถั่วเขียวงอกออกมาส่วนของรากจะแทงทะลุตะแกรงออกมา ส่วนของต้นจะตั้งตรง สะดวกต่อการตัดต้นถั่วงอกออกจากราก ในการเพาะถั่วงอกตัดรากไร้สารพิษต่อ 1 ตะกร้า จะใช้ตะแกรงรองพื้น 1 แผ่น และตะแกรงเกล็ดปลา จำนวน 4 แผ่น ใช้กระสอบป่านเพื่อให้ความชุ่มชื้น ประโยชน์ของการใช้กระสอบป่าน (กระสอบข้าวสาร) เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่เมล็ดถั่วเขียวที่เพาะและสามารถซักทำความสะอาดได้หลายครั้ง หลังจากเพาะถั่วงอกในแต่ละครั้ง จะต้องตัดกระสอบป่านให้มีขนาดเท่ากับตะแกรงเกล็ดปลา และจะใช้จำนวน 6 ผืน ต่อการเพาะถั่วงอก 1 ตะกร้า

เนื่องจากตะกร้าที่ใช้เพาะเป็นภาชนะโปร่งแสง ไม่ทึบแสงเหมือนที่เพาะในวงบ่อปูนหรือถังพลาสติกดำ ใช้ถุงดำคลุมตะกร้าพลาสติกเพื่อไม่ให้โดนแสงนั่นเอง การคัดเลือกถุงดำควรจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าตะกร้าเพาะ จะต้องตัดมุมก้นถุงดำ 2 ข้างออก เพื่อให้ระบายน้ำออกได้เมื่อมีการรดน้ำให้ตะกร้าเพาะถั่วงอก น้ำที่จะใช้ในการเพาะถั่วงอกควรเป็นน้ำที่สะอาด เช่น น้ำประปา หรือน้ำบาดาล เป็นต้น

การตัดรากถั่วงอก
เป็นเคล็ดลับการเพาะถั่วงอกของคุณนิมิตร์

เมื่อครบ 3 คืนแล้ว เช้าขึ้นมาเราจะเปิดปากถุงดำ นำตะกร้าเพาะถั่วงอกออกมาจากถุงดำ จะพบว่าถั่วเขียวที่เราเพาะไว้นั้นงอกออกมาจนเต็มตะกร้าครบทั้ง 4 ชั้น สังเกตเห็นรากถั่วเขียวแทงทะลุตะแกรงเกล็ดปลาออกมา จะมองเห็นส่วนของต้นและรากของถั่วงอกแยกกันอย่างชัดเจน นำน้ำสะอาดใส่กะละมัง นำแผงถั่วงอกออกมาจากตะกร้า ให้คว่ำส่วนหัวของถั่วงอกลงน้ำในกะละมัง จากนั้นเราจะกระแทกแผงถั่วงอกกับน้ำเบาๆ เพื่อให้เปลือกหุ้มเมล็ดถั่วเขียวหลุดออกจากส่วนหัว จะทำให้ถั่วงอกดูสวยและสะอาดยิ่งขึ้น ในการตัดต้นถั่วงอกออกจากรากนั้น แนะนำให้ใช้มีดคมๆ ตัด ควรจะตัดฝั่งที่เป็นตะแกรงเกล็ดปลาเพราะจะตัดง่ายกว่าฝั่งที่เป็นกระสอบป่าน ตัดต้นถั่วงอกลงในกะละมังที่มีน้ำสะอาด จากนั้นใช้ตะแกรงพลาสติกตาใหญ่มาร่อนเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออกจากต้นถั่วงอกอีกครั้ง ส่วนของเปลือกหุ้มเมล็ดจะจมลงก้นกะละมัง ร่อนเอาต้นถั่วงอกมาสะเด็ดน้ำในตะกร้าสักพัก

เทคนิคการถ่วงน้ำเพื่อให้ต้นถั่วงอกอวบอ้วน

สำหรับคนที่ชอบรับประทานต้นถั่วงอกที่อวบอ้วนก็มีเคล็ดลับและเทคนิคการถ่วงน้ำให้ต้นถั่วงอกอวบอ้วน ในคืนที่ 2 ของการเพาะถั่วงอกจะเป็นช่วงที่ต้นถั่วงอกเจริญเติบโตดีที่สุด เป็นระยะของการยืดยาวของต้นมากที่สุด และเป็นช่วงที่ต้องการน้ำและความชื้นมาก นอกจากจะรดน้ำให้ตะกร้าพลาสติก 3 เวลาแล้ว ในคืนดังกล่าวควรจะรดน้ำบนถุงดำที่ปิดตะกร้า รดจนให้น้ำขังเป็นแอ่งบนปากตะกร้า โดยน้ำหนักของน้ำจะไปกดทับต้นถั่วงอก จะส่งผลให้ต้นถั่วงอกมีขนาดของต้นอ้วนขึ้นและน่ารับประทานยิ่งขึ้น นอกจากนั้น น้ำที่เราถ่วงยังช่วยเพิ่มความชื้นให้มีมากขึ้น ในการใช้น้ำถ่วงหลังจากผ่านคืนที่ 2 ไป เมื่อเปิดดูพบว่าต้นถั่วงอกยังไม่ค่อยอ้วน ให้ถ่วงน้ำอีกครั้งในคืนที่ 3

ขั้นตอนการบรรจุถุงและการเก็บรักษา

นับเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญ เมื่อต้นถั่วงอกสะเด็ดน้ำแล้ว ให้รีบเอาไปบรรจุลงถุงพลาสติกทันที มัดปากถุงให้แน่น เหตุผลที่ต้องรีบบรรจุถั่วงอกลงถุงพลาสติกให้เร็วที่สุด เพราะถ้าปล่อยให้ถั่วงอกสัมผัสอากาศนานๆ ต้นถั่วงอกจะเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีเหลืองแล้วจะคล้ำดำในที่สุด ตลาดไม่ต้องการ หรือนำไปประกอบอาหารไม่น่ารับประทาน ถั่วงอกไร้รากแบบอินทรีย์ของร้าน “ศูนย์งอกงาม” จะเก็บรักษาได้นานถึง 7-10 วัน โดยไม่เหลือง และยังคงความสดและกรอบเหมือนใหม่ๆ แต่จะต้องเก็บไว้ในตู้เย็น

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ.2563


สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิ้ง https://shorturl.asia/0zJwQ 📲- Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354