อดีตทหารผ่านศึก ชีวิตไม่หยุดนิ่ง ทำเกษตรไม้ผล สร้างงาน สร้างเงิน สร้างสุข ที่เมืองแพร่

“วันๆ หมกมุ่นอยู่แต่ในบ้านไม่ได้นาน ใจมันอยู่ที่สวน ต้องใช้ชีวิตอยู่กับสวน มันเงียบดี อากาศก็บริสุทธิ์ สดชื่น เดินดูโน่น…นั่น…นี่ เห็นใบไม้สีเขียวเป็นมัน เห็นดอกไม้ผลสวยงาม มีกลิ่นหอม รอดูผล แม้ได้เวลาเก็บผลก็ยังเสียดาย อยากให้ติดผลอยู่บนต้นนานๆ มันเป็นชีวิตที่มีความสุข”  คำปรารภของ ร.ต. ประเสริฐ ชอบธรรม อดีตทหารผ่านศึก ทำเกษตรไม้ผล ที่แพร่

ร.ต.ประเสริฐ ชอบธรรม ภรรยา คุณไฉน ชอบธรรม มีบุตร 2 คน คนหนึ่งทำงานประจำ อีกคนกำลังศึกษาระดับปริญญาโท ครอบครัวนี้อยู่บ้านเลขที่ 106/1 หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ 54150 โทรศัพท์ 081-299-4674

สภาพสวน
กล้วยผสมผสานทุเรียน

ร.ต. ประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวคือ พ่อ-แม่ ทำอาชีพเกษตรกรรมอยู่ก่อนแล้ว เมื่อปี พ.ศ. 2527 ตนเองต้องไปเข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารเกณฑ์ สังกัด ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ได้ออกสนามรบที่อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ปะทะกับผู้ก่อการร้ายทหารลาวได้รับบาดเจ็บ อวัยวะบางส่วนพิการ จึงเป็นอดีตทหารผ่านศึกได้รับพระราชทานยศ ร้อยตรี อยู่ในการดูแลขององค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินเลี้ยงชีพ เงินผดุงเกียรติ และสวัสดิการบางเรื่อง

เมื่อได้แต่งงานกับ คุณไฉน ช่วงนั้นชีวิตครอบครัวก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่พอมี พอใช้ จึงทำสวนเกษตร เพราะใจรักปลูกส้มเขียวหวาน แต่เนื่องจากขาดความรู้ ประสบการณ์ ปะทะกับโรคและแมลง ผลผลิตไม่ได้คุณภาพ ราคาต่ำ ต้องขายทั้งๆ ที่รู้ว่าขาดทุน เป็นหนี้เป็นสินก็เลยเลิก นำเงินไปลงทุนซื้อวัว ควาย มาเลี้ยง แต่ก็มีปัญหาอุปสรรคในการหาอาหารให้เขา ปล่อยให้หากินเองก็ไม่ได้ เพราะพื้นที่ตรงนี้มันเป็นภูเขา อาหารมีจำกัด จึงขายไปทั้งหมด

ร.ต. ประเสริฐ ชอบธรรม และภรรยา

ร.ต. ประเสริฐ กล่าวอีกว่า ก็เพราะใจรักการเกษตร ก็หันมาปลูกไม้ผลอีกครั้ง ครั้งนี้ลงทุนปลูก ส้มโอสายพันธุ์ขาวใหญ่ เริ่มจาก 50 ต้น ส้มโอเป็นไม้ผลที่ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยากอะไร ขายก็ได้ราคาดี เพราะส้มโอมีรสชาติดี อร่อย ผลได้น้ำหนักที่ผู้ซื้อต้องการ จึงขยายกิ่งพันธุ์ด้วยการตอนกิ่ง นำมาปลูกเพิ่มในพื้นที่ ปัจจุบัน มีส้มโอ 200 ต้น

การดูแลรักษา

การดูแลส้มโอ…ให้ความสำคัญกับเรื่อง น้ำ เป็นหลัก ต้องรู้จังหวะที่จะให้ในช่วงระยะเวลาต่างๆ ทั้งช่วงเตรียมการออกดอก หลังการตัดแต่งกิ่ง การจัดการพื้นที่โดยรอบทรงพุ่มให้โล่ง ให้แสงแดดส่องถึงพื้นและโคนต้น ถึงเดือนธันวาคมก็จะเริ่มให้น้ำแบบวันเว้นวัน ดูความชุ่มชื้นของดินเป็นหลัก แต่ต้องให้น้ำอยู่ตลอดจนถึงฤดูฝน

ดูแลดี

ปุ๋ย ก็ให้ตลอด แต่ให้ครั้งละน้อยๆ เดือนละครั้ง โดยใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 สูตรใดสูตรหนึ่งผสมกับปุ๋ย สูตร 46-0- 0 อัตรา 1:1 เพื่อเป็นการส่งเสริมบำรุงต้น ใบ ดอก ผล

“ถ้าเราทำให้ต้นส้มโอ ใบ มีความสมบูรณ์แข็งแรงจะไม่มีโรค ไม่มีแมลงรบกวน เขาก็จะให้ผลผลิตที่คุ้มค่ากับการลงทุน” ร.ต.ประเสริฐ กล่าว

เรื่องสารเคมีนั้น ร.ต.ประเสริฐ บอกว่า ไม่ได้ใช้สารเคมีที่ต้องสัมผัสกับดิน หรือผลโดยตรง อย่างแมลงวันทองก็ใช้ยาเฉพาะ ทำเป็นกับดักแขวนไว้ตามกิ่งเฉพาะช่วงที่ระบาดเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้พบทุกปี
ผลผลิตส้มโอจะออกสู่ตลาดเป็นรุ่น หลักๆ มีอยู่ 3 รุ่น คือ เดือนสิงหาคม ธันวาคม และกุมภาพันธ์ จะมีแหล่งซื้อเข้ามาดู ประเมินจำนวนผลผลิต ตีราคาเหมาทั้งสวน นำคนงานมาตัดผลเอง ขนขึ้นรถบรรทุกเอง

ส้มโอพระเอกของสวนนี้

“ปัจจุบัน มีแหล่งรับซื้อเพียงเจ้าเดียวเป็นเจ้าประจำ เขาดูผลผลิตบนต้นก็ประเมินได้ว่า จะมีผลผลิตเท่าไร จะเข้ามาตัดผลรุ่นต่อไปในเดือนอะไร เราก็คอยดูแลผลให้มีคุณภาพ ไม่ร่วงหล่น”

รายได้จากการขายผลผลิตส้มโอ เฉพาะต้นที่ให้ผลผลิตแล้ว ประมาณ 50 ต้น แต่ละปีขายได้เงินไม่ต่ำกว่า 130,000 บาท ส่วนอีก 150 ต้น จะเริ่มให้ผลผลิตในปีนี้

ทุเรียน

เริ่มปลูกทุเรียนเมื่อปี พ.ศ. 2559 จำนวน 70 ต้น มีทั้งสายพันธุ์หมอนทอง และหลงลับแล ถ้านับอายุต้นก็ 3-4 ปี แต่ต้นที่เพิ่งลงปลูกได้ไม่ถึงปีก็มีหลายต้น

“ทุเรียน เป็นไม้ผลที่ไม่ธรรมดา ดูแลยาก แต่ผมมุ่งมั่นดูแลเอาใจใส่ที่ดีเพื่อให้มีผลผลิตแซงหน้าส้มโอ ซึ่งเป็นพระเอกของสวนนี้ให้ได้ ผมคิดว่า ผมทำได้ เชื่อมั่นว่า ทำได้ พร้อมที่จะดูแลเขา ผมไม่มีประสบการณ์กับเรื่องทุเรียนมาก่อน ผมศึกษาจากสื่อออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้เชื่อตามนั้นทั้งหมด ต้องนำมาทดลองทำดูเพื่อให้ได้ข้อสรุปเป็นความรู้ของผมเอง ตอนนี้มันถูกบรรจุไว้ในสมองของผมแล้ว” ร.ต. ประเสริฐ กล่าวด้วยรอยยิ้ม อันแสดงถึงความมั่นอกมั่นใจ

ตัดต้นยางเพื่อปลูกส้มโอและทุเรียนทดแทน
ทุเรียนกำลังงอกงาม

การให้น้ำ

ร.ต. ประเสริฐ บอกว่า ตนเองใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับสวน เว้นแต่วันไหนต้องไปทำธุระข้างนอก แต่ก็มีภารกิจข้างนอกน้อยมาก ดังนั้น ทุกวันตั้งแต่รุ่งเช้าจะต้องเดินดูสวน ดูทุเรียนทุกต้น ดูว่ายังมีสภาพเป็นปกติแล้วก็จะเปิดสปริงเกลอร์ให้น้ำ ครั้งละ 30 นาที ในฤดูร้อน และ 10 นาที ในฤดูหนาว ต้องติดตามทั้งการพยากรณ์อากาศว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ทั้ง ฝน หนาว ร้อน เพื่อจะได้เตรียมการได้ทัน เช่น การฉีดพ่นแคลเซียม-โบรอน หรือถ้าเกิดเชื้อราที่ต้นหรือมีแผลก็จะใช้ ไฮท็อป มาทาให้ ก็แก้ไขปัญหาไปได้

“แต่ปีนี้ผมใจไม่ดี เพราะทุเรียนน็อกอากาศหนาวช่วงเดือนมกราคม ซึ่งทำอะไรไม่ได้มากนักกับธรรมชาติ ใบแสดงอาการร่วงหล่น แต่ก็ฟื้นตัวมาได้ด้วยตัวของเขาเองและก็แตกกิ่งก้านออกมามาก ใบมีความสมบูรณ์จนเป็นปกติแล้ว”

ลองกองก็มี
มะละกอผลไม้สุขภาพขายดี

ปุ๋ย… ร.ต. ประเสริฐ จะให้ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตและปรับสภาพดินด้วยกิจกรรมจากจุลินทรีย์ เพราะจุลินทรีย์มีประโยชน์ต่อดินและต้นทุเรียน ช่วยย่อยเศษซากพืชซากสัตว์จนกระทั่งแปรสภาพเป็นอินทรียวัตถุ ช่วยปรับสมดุลให้ดิน ทั้งนี้ ร.ต. ประเสริฐ บอกว่า ได้ผลิตน้ำหมักชีวภาพไว้ใช้เองด้วย ทั้งฉีดพ่น ต้น ใบ รด-ราด ลงดิน

ร.ต. ประเสริฐ นำผู้เขียนเดินดูแปลงเกษตร เนื้อที่ทั้งหมด 17 ไร่ นอกจาก ส้มโอ ทุเรียนแล้ว ยังมีพืชพรรณอีกหลากหลายชนิด อาทิ กล้วยหอม กล้วยไข่ แก้วมังกร มะละกอ มะนาว ลองกอง น้อยหน่า

ปลูกตามริมห้วยแม่ปะ
มะนาวเก็บขายได้ปีละหลายบาท

ร.ต. ประเสริฐ บอกว่ากำลังโค่นต้นยางพาราเพื่อนำพื้นที่มาปลูกส้มโอและทุเรียน ซึ่งกำลังทำกิ่งตอนไว้เป็นจำนวนมาก ร.ต. ประเสริฐ ได้เล่าย้อนอดีตว่าเคยหลงผิด ปลูกพืชตามกระแส นั่นคือ ดาวอินคา ได้ผลผลิตดีมาก แต่ขายไม่ได้ราคาก็เลยตัดทิ้งทั้งหมด หันมาปลูกทุเรียนดูสภาพพื้นที่ ที่ ร.ต. ประเสริฐ ปลูกทุเรียนแล้วน่าจะมีปัจจัยอะไรที่ส่งผลให้ทุเรียนเจริญเติบโตได้ดี

ร.ต. ประเสริฐ คาดหวังว่า อีก 1-2 ปี ทุเรียนก็จะเริ่มให้ผลผลิต พื้นที่ของแปลงปลูกเป็นเนินเขาเตี้ยๆ เป็นแอ่งที่ราบระหว่างภูเขาและเป็นร่องเขา มีห้วยแม่ปะ ซึ่งรองรับอินทรียวัตถุจากต้นน้ำทับถมไว้ในลำห้วย จึงมีความชื้นตลอดปี พื้นที่ก็ติดแม่น้ำยม ย่อมก่อให้เกิดความแตกต่างของลมฟ้าอากาศ สภาพดิน ชนิดของดินและลักษณะภูมิประเทศ ทำให้เกิดปัจจัยร่วมที่มีความหลากหลาย ทั้งอุณหภูมิ ความชื้นในอากาศจากปริมาณฝน ซึ่งในละแวกนั้น ร.ต. ประเสริฐ บอกว่ารู้กันดีว่าห้วยแม่ปะมีความชื้นสูงเป็นล่องฝนที่มีปริมาณฝนตกมาก

ตอนกิ่งส้มโอไว้ขยายพันธุ์
ต้นหญ้าคลุมดินให้แก่เผือกหอม

ร.ต. ประเสริฐ บอกว่า ที่ยังขาดการปฏิบัติก็คือ ยังไม่ได้นำดินไปตรวจวิเคราะห์เพื่อจะได้ข้อสรุป ว่าการที่ต้นทุเรียนมีการเติบโตเร็วนับแต่เริ่มปลูกเกิดจากปัจจัยของธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินตามที่ต้นทุเรียนต้องการแล้ว บวกกับปัจจัยแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเติบโตของต้นทุเรียน หรือจากการเติมปัจจัยทางการเกษตรเพิ่มเติมลงไปในดินที่มีอิทธิพลต่อพัฒนาการของทุเรียน

ส่วนผลผลิตอื่นๆ นั้น ร.ต. ประเสริฐ กล่าวว่า ก็ช่วยให้มีรายได้พอสมควร ทั้งกล้วยหอม-กล้วยไข่ ปีหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท เผือกหอม 30,000 บาท หรือมะนาว ก็ปีละ 4,000-5,000 บาท รายได้จากการขายผลผลิตปีหนึ่งๆ ประมาณ 200,000 บาท ได้สร้างเงินให้แก่ครอบครัว ทั้งเพิ่มทรัพย์สิน บ้าน รถยนต์ และส่งลูกเรียนหนังสือได้ถึงระดับปริญญาโท ก็จากรายได้ที่สวนนี่แหละ ส่วนค่าใช้จ่ายนั้น ร.ต. ประเสริฐ กล่าวว่ามีไม่มากนัก เป็นค่าไฟฟ้า น้ำมันรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เพราะตนเองขาไม่ดีต้องใช้รถเป็นพาหนะเข้าไปดูแลภายในสวน นอกนั้นเป็นค่าปุ๋ย หัวเชื้อทำน้ำหมักชีวภาพ ส่วนค่าจ้างแรงงานจากคนนอกไม่มี แค่สองสามี-ภรรยา ก็พอที่จะดูแลสวนได้

กล้วยไข่ สร้างรายได้แต่ละปีเป็นจำนวนมาก
ขนุนผลใหญ่มาก

ผู้เขียนมีคำถามถึงอดีตทหารผ่านศึก ร.ต. ประเสริฐ ว่าการดูแลไม้ผลหลายๆ ชนิดในแปลงเดียวกัน มันยากไหม? ร.ต. ประเสริฐ กล่าวว่า ก็ยากอยู่…แต่ต้องให้ความสำคัญกับไม้ผลทุกชนิดที่เราลงมือปลูก จะทอดทิ้งเขาไม่ได้ เช้าๆ ก็ดูแลต้นทุเรียน ให้น้ำ ถึงช่วงเวลาให้ปุ๋ยก็ต้องให้ จากนั้นก็ดูแลต้นส้มโอ ดูหนอน ดูพัฒนาการของการเติบโต บ่ายๆ ดูความชุ่มชื้นในดินหลังเปิดน้ำตอนเช้าแล้วว่ายังมีความชื้นอยู่หรือแห้งแล้ว เพื่อปรับเวลาการให้น้ำตามฤดูกาลและกล่าวอีกว่า วันๆ หมกมุ่นอยู่แต่ในบ้านไม่ได้นาน ใจมันอยู่ที่สวน ต้องใช้ชีวิตอยู่กับสวน มันเงียบดี อากาศก็บริสุทธิ์สดชื่น เดินดูโน่น…นั่น…นี่ เห็นใบไม้สีเขียวเป็นมัน เห็นดอกไม้ผลสวยงาม มีกลิ่นหอม รอดูผล แม้ได้เวลาเก็บผลก็ยังเสียดาย อยากให้ติดผลอยู่บนต้นนานๆ มันเป็นชีวิตที่มีความสุข

ชีวิตในอดีตเคยผ่านการเป็นคนขี้เหล้ามาก่อน แต่ปัจจุบันเลิกหมด ให้เวลาของชีวิตกับการเกษตร สร้างงาน สร้างเงิน ครอบครัวมีสุข เป็นสิ่งที่ครอบครัวเราปรารถนา

แก้วมังกร
กล้วยหอมสร้างรายได้แต่ละปีเป็นจำนวนมาก

“การทำงานในสวนนี่แหละดี ไม่ได้เป็นลูกน้องใคร ไม่มีเจ้านาย ทำเองด้วยใจรัก ต้องดูแลทุ่มเทให้เขา เพราะเราสร้างเขามา ถ้าเกิดมารวย ก็ไม่ต้องทำเองก็ได้”

คุณไฉน บอกว่า เธอเป็นผู้จัดการสวน และเป็นผู้ช่วยดูแลกิจการต่างๆ ภายในสวน ทั้งคอยให้กำลังใจ ทั้งลูกๆ ก็เป็นกำลังใจให้ ทำให้การทำงานในสวนไม่ค่อยมีอุปสรรค ทุกอย่าง ทุกปัจจัยเกื้อหนุนกันอย่างลงตัว

“การเป็นเกษตรกรของครอบครัวของน้อง ได้มีการพัฒนาความรู้หาประสบการณ์ในกิจกรรมด้านการเกษตรทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผนการผลิต การใช้งานที่ดิน การวางระบบน้ำ การดูแลและการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อให้ครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกัน แค่นี้ก็มีสุข”