สมาคมผู้ผลิตไก่ฯ ชี้ ส่งออกไก่ไทยยังแกร่ง ตลาดจีนสดใส หลังรับรองโรงงานไก่อีก 7 แห่ง คาดช่วยดันส่งออกไก่ปีนี้ร่วม 9.6 แสนตัน

นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เผยสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย-ผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ส่งผลดีต่อการส่งออกไก่ไทย เล็งตลาดจีนเป็นหลัก หลังประกาศขึ้นทะเบียนโรงเชือดสัตว์ปีกไทยอีก 7 โรงงาน คาดเริ่มมีคำสั่งซื้อช่วง Q3/63 ชี้ความต้องการบริโภคสูง เชื่อดันการส่งออกปีนี้ที่ 9.5-9.6 แสนตัน

นายอนันต์ ศิริมงคลเกษม นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยว่า จากการร่วมประชุมกับกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการผลิตไก่สดและแปรรูปของไทย พบว่าในวิกฤติโควิด-19 ยังคงมีโอกาสสำหรับสินค้าเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ของไทยที่ยังคงเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพ เนื่องจากผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีการผลิตและแปรรูปที่ทันสมัย ระบบฟาร์มมีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมป้องกันโรคในสัตว์ปีกในระดับแนวหน้าของโลก และด้วยศักยภาพการเป็นผู้ผลิตไก่เนื้อเป็นอันดับ 8 ของโลก ด้วยกำลังการผลิต 2.8 ล้านตัน ต่อปี และเป็นผู้นำด้านการส่งออกเป็นอันดับ 4 ของโลก พบว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2563 นี้ การส่งออกไก่ของไทยมีการขยายตัวแล้วถึง 3-4% แม้จะมีอุปสรรคเรื่องการล็อกดาวน์ในประเทศต่างๆ จากปัญหาโควิด-19 ทำให้ลูกค้าชะลอคำสั่งซื้อ แต่เชื่อว่าสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น บางประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง จะทำให้ความต้องการบริโภคเริ่มกลับมา

“สมาคมคาดว่าการส่งออกไก่ในปี 2563 จะมีปริมาณใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ปริมาณ 950,000-960,000 ตัน มูลค่ากว่า 111,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะคลี่คลายเร็วหรือช้า ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยบวกในตลาดจีน ที่เป็นตลาดส่งออกอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่คาดว่าปีนี้จะส่งออกไปจีนได้เพิ่มขึ้นอีก 35,000-40,000 ตัน จากการประกาศรับรองโรงงานไก่อีก 7 แห่ง ทำให้มีโรงงานไก่ของไทยถึง 21 แห่งที่สามารถส่งออกไก่ไปตลาดจีนได้ ขณะที่สิงคโปร์ที่เป็นตลาดอันดับที่ 6 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ การนำเข้าไก่ขยายตัวสูงถึงกว่า 10% และยังคงมีคำสั่งซื้อที่แน่นอนเข้ามาปกติ รวมทั้งมีสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการที่เคยเข้มงวดด้านการนำเข้า เพื่อให้มีปริมาณเนื้อไก่เพียงพอกับการบริโภค ป้องกันปัญหาการขาดแคลนอาหาร สะท้อนว่าตลาดไก่ยังสดใส และไทยพร้อมส่งออกอยู่ตลอดเวลา รอเพียงออร์เดอร์ที่เข้ามาเท่านั้น” นายอนันต์ กล่าว

นายอนันต์ ศิริมงคลเกษม

ขณะเดียวกัน ในตลาดส่งออกอันดับ 1 อย่างญี่ปุ่น ที่มีปริมาณ 438,000 ตัน มูลค่า 59,700 ล้านบาท ซึ่งได้มีการนำเข้าไปสต๊อกเรียบร้อยแล้ว ลูกค้าจึงกำลังรอดูสถานการณ์ก่อน รวมถึงสหภาพยุโรป (EU) ที่เป็นตลาดอันดับ 2 ประมาณ 320,000 ตัน ก็ยังคงโควต้าเดิม มูลค่า 33,800 ล้านบาท และยังรอการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิด-19 อยู่ ส่วนตลาดอื่นๆ คาดว่ามีปริมาณ 196,000 ตัน มูลค่า 18,000 ล้านบาท

นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวถึงประเด็นที่สมาคมผู้แปรรูปสัตว์ปีก (AVEC) สมาคมผู้ค้าสัตว์ปีกแห่งสหภาพยุโรป และสมาคมผู้เลี้ยงและฟักสัตว์ปีกแห่งสหภาพยุโรป (ELPHA) ขอให้คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ปรับลดการนำเข้าไก่เนื้อจากบราซิล ไทย และยูเครน จำนวน 850,000 ตัน เพื่อแก้ปัญหาไก่ในประเทศโอเวอร์ซัพพลาย ว่าเรื่องนี้คณะกรรมาธิการยุโรปต้องมีการพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ และที่สำคัญจะกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศหรือไม่ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าในตลาดนี้ได้ชะลอซื้ออยู่แล้ว เนื่องจากในยุโรปร้านอาหารต่างปิดตัวลงจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไทยส่งเข้าตลาด EU ลดลงอยู่แล้ว ตามความต้องการบริโภคที่ลดลงในช่วงนี้ และเรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลกับรัฐบาลที่จะต้องเจรจากันในการจำกัดหรือชะลอการนำเข้า เนื่องจากในสถานการณ์เช่นนี้ความต้องการย่อมลดลง เป็นปัญหาที่ทั้งโลกต้องเผชิญร่วมกัน