กรมส่งเสริมการเกษตร ปรับ Function ใหม่ให้ทันสมัยบนแอปพลิเคชั่น Farmbook พร้อมเชิญชวนขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน

ข้อมูล farmbook
นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม

นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงความสำคัญของการขึ้นทะเบียนเกษตรกรว่า ทะเบียนเกษตรกร คือข้อมูลของครัวเรือนผู้ประกอบการเกษตรที่แสดงถึงสถานภาพและการประกอบอาชีพการเกษตรของครัวเรือน วัตถุประสงค์ในการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อจัดทำข้อมูลการเกษตรให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง และเป็นข้อมูลเอกภาพให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ในการนำไปใช้วางแผนพัฒนาการเกษตร กำหนดนโยบาย การจัดการด้านการผลิตการตลาด การส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย ที่สำคัญอีกประการหนึ่งสำหรับพี่น้องเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้ว จะได้รับความสะดวกในการใช้สิทธิขอรับการสนับสนุน ช่วยเหลือ หรือรับบริการต่างๆ จากภาครัฐ เช่น กรณีการขอรับการช่วยเหลือเมื่อประสบภัยพิบัติต่างๆ เกษตรกรที่มีทะเบียนเกษตรกรจะได้รับความช่วยเหลือกรณีแปลงปลูกพืชเสียหายจากการประสบภัยพิบัติด้านพืช ตามระเบียบกระทรวงการคลัง และได้รับสิทธิต่างๆ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถแจ้งการเพาะปลูกได้เมื่อปลูกพืชแล้วอย่างน้อย 15 วัน สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร หรือแจ้งเพาะปลูกแปลงใหม่ สามารถแจ้งการเพาะปลูกได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงพร้อมเอกสารสิทธิ์ที่ดิน สำหรับเกษตรกรรายเดิมที่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้ว แจ้งการเพาะปลูกในแปลงเดิมได้ผ่านแอปพลิเคชั่น Farmbook ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เหมาะกับช่วงสถานการณ์ที่มีโรคโควิด-19 ระบาดอยู่ในขณะนี้ นอกจากแจ้งปลูกแล้วยังสามารถติดตามผลการแจ้งขึ้นทะเบียนเกษตรกร และการช่วยเหลือโครงการต่างๆ จากรัฐบาลได้อีกด้วย ล่าสุดกรมส่งเสริมการเกษตรได้ปรับปรุง Function การแจ้งปลูกบน Farmbook โดยเกษตรกรสามารถเพิ่มข้อมูลพิกัดแปลงได้ด้วยตนเอง และมีการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของพื้นที่รวมทั้งช่วงระยะเวลาในการแจ้งปลูกเพื่อลดความผิดพลาด ทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและถูกต้องมากยิ่งขึ้น

สำหรับการใช้งานแอปพลิเคชั่น Farmbook ในเมนูต่างๆ ประกอบด้วย 1. เมนูปรับปรุงทะเบียน ได้แก่ แจ้งปลูก แปลงเดิม พืชชนิดเดิมที่ได้ปรับปรุงในปีที่ผ่านมา โดยเกษตรกรสามารถแจ้งปลูกโดยกดเลือกแปลงเอกสารสิทธิ์/เลือกกิจกรรมการแจ้งปลูก แล้วกรอกข้อมูล พื้นที่ปลูก และเนื้อที่ปลูกให้ถูกต้อง แล้วกดบันทึก ถ่ายภาพแปลง โดยถ่ายภาพกิจกรรมทางการเกษตรที่ได้ทำการแจ้งปลูก สำรวจสมาชิก ดูและปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของทุกคนในครัวเรือนเกษตรกร 2. เมนูติดตามผล ได้แก่ ผลการปรับปรุง แสดงผลการแจ้งปลูกกิจกรรมทางการเกษตร โดยแอปพลิเคชั่นจะแจ้งสถานะในขั้นตอนต่างๆ ซึ่งมีความหมาย ดังนี้ 1. ทบก. แจ้งปลูก/ปรับปรุงจากระบบทะเบียนเกษตรกรโดยเจ้าหน้าที่ 2. Farmbook แจ้งปลูก/ปรับปรุงบนแอปพลิเคชั่น 3. แจ้งวันที่/วันที่ แสดงวันที่แจ้งปลูกหรือปรับปรุง 4. รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ สถานะแรกหลังจากแจ้งปลูก/ปรับปรุงบนแอปพลิเคชั่น รอเจ้าหน้าที่จัดชุด 5. จัดชุดติดประกาศ (สีม่วง) เจ้าหน้าที่จัดชุดในระบบแล้วกำลังทำการติดประกาศ 6. จัดชุด (สีดำ) ข้อมูลผ่านการติดประกาศเรียบร้อยแล้ว    7. ผ่านการแจ้งเพาะปลูกในปีนี้สำเร็จ 8. ไม่ผ่าน การแจ้งเพาะปลูกไม่สำเร็จ ติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ตรวจสอบแปลง ดูประวัติกิจกรรมทางการเกษตรที่ผ่านมา ค่าพิกัดแปลงของที่ดินตามเอกสารสิทธิ์ที่ได้แจ้งไว้ และความเหมาะสมในการทำการเกษตรของที่ดิน ตามข้อมูลกรมที่ดิน ใบรายงานผล แสดงรายงานที่ได้แจ้งปลูกไปแล้ว สำหรับบันทึกหรือพิมพ์เก็บไว้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ หรือเข้าร่วมโครงการกับกรม/กระทรวงอื่น 3 เมนูติดตามสิทธิ ทำให้เกษตรกรสามารถติดตามสิทธิโครงการต่างๆ และ ผลการโอนเงินที่ทาง ธ.ก.ส. ส่งยอดกลับมาให้ได้ด้วยตนเอง ได้แก่ ติดตามสิทธิ กดลูกศรเพื่อดูข้อมูลโครงการที่เข้าร่วมเพื่อดูการส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส หากส่งข้อมูลสำเร็จจะแสดง ส่ง ธ.ก.ส. วัน เดือน ปี ผ่านมากี่วัน หากส่งข้อมูลไม่สำเร็จ จะขึ้นสถานะของข้อมูลแต่ละประเภท เช่น สถานะแปลงไม่ผ่าน และผลการโอนเงิน แสดงรายละเอียดผลการโอนเงินที่ทาง ธ.ก.ส. ส่งยอดเงินของเกษตรกรให้กับกรมส่งเสริมการเกษตร

ข้อมูล farmbook

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงที่ผ่านมาได้มีการใช้ฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรในการช่วยเหลือด้านการเกษตรจากทางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการประกันรายได้พืชเศรษฐกิจ ปี 2562/63 (ข้าว, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, ปาล์มน้ำมัน, มันสำปะหลัง) และล่าสุดก็มีการช่วยเหลือโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ได้รับผลกระทบจากโรค  โควิด-19 ซึ่งการมาแจ้งปรับปรุงการเพาะปลูกพืชให้เป็นปัจจุบัน นอกจากจะเป็นการรักษาสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการกับภาครัฐแล้ว ยังเป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแนวทางเพื่อวางแผนการพัฒนาด้านการเกษตรของประเทศอีกด้วย