ผู้เขียน | พานิชย์ ยศปัญญา |
---|---|
เผยแพร่ |
ไปตามถนนสุวรรณศร ก่อนเข้าตัวเมืองปราจีนบุรี บริเวณสี่แยกไฟแดง มีร้านค้าจำหน่ายพืชผักผลไม้ ดูคึกคักทั้งปี ผลผลิตส่วนใหญ่นำมาจากท้องถิ่น
จากสี่แยกไฟแดงไปถึงวงเวียนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายกิ่งพันธุ์ไม้ผล หากเป็นช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ฝนเริ่มมา จะเห็นรถจอดซื้อจำนวนมาก
บริเวณนี้รู้จักกันดีคือตลาดต้นไม้ชะอม หรือหนองเต่า สาเหตุที่มีการผลิตและขายพันธุ์ไม้กันมากนั้น สืบเนื่องมาจากคนจากกรุงเทพฯ ไปสร้างสวนที่ปราจีนบุรี โดยนำพันธุ์ขนุน มะม่วง ทุเรียน กระท้อน จากเขตปริมณฑลไปปลูก เมื่อมีผลผลิตจึงนำออกมาวางขาย คนซื้อผลผลิตชิมเห็นว่าอร่อย อยากได้พันธุ์ หลังๆ จึงขยายพันธุ์ขาย ตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อ รวมระยะเวลาของการตั้งร้านแถวนี้ ไม่ต่ำกว่า 40 ปีมาแล้ว เมื่อก่อนใครต้องการพันธุ์ขนุนฟ้าถล่ม ทองสุดใจ จำปากรอบ ที่เจ้าของเดิมคือ คุณสมปอง ตวงทอง ต้องไปที่ปราจีนบุรีเท่านั้น
เสน่ห์ที่มีเพิ่มขึ้นของท้องถิ่นนี้ คือไผ่ตง นอกจากหน่อไผ่รสชาติหวานกรอบวางรอคนไปซื้อ ยังมีต้นพันธุ์ให้ซื้อหามาปลูก
การซื้อขายต้นไม้สมัยก่อน หากอยากได้ขนุนเหรียญบาทสัก 2 ต้น อาจจะต้องขับรถจากชัยนาท มุ่งสู่ปราจีนบุรี ใช้เวลาเป็นวัน แต่ทุกวันนี้ เพียงแต่บอกร้านขายต้นไม้ในท้องถิ่น สั่งออเดอร์ไว้ ไม่เกินสัปดาห์ก็ได้ของตามที่ต้องการแล้ว ทั้งนี้ เพราะการสื่อสารการขนส่งรวดเร็วขึ้น
คนเกษตร ทำมาหลายอย่าง
แต่ในที่สุด…พันธุ์ไม้สร้างงานทำเงิน
ไปจากสี่แยกไฟแดงขายผลไม้ราวกิโลเมตรเศษๆ ซ้ายมือเป็นที่ตั้งของวัดหนองเต่า ตรงกันข้ามกับวัดหนองเต่า คือร้านขายต้นไม้ของ คุณไพศักดิ์ ชวิวิทยา บริเวณนั้นอยู่หมู่ที่ 7 ตำบลโคกไม้ลาย อำเภอเมืองปราจีนบุรี
คุณไพศักดิ์ ขายต้นไม้มานานร่วม 10 ปีแล้ว ปริมาณการซื้อขายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ได้ลดลง อาชีพนี้สร้างความมั่นคงให้กับเจ้าของไม่น้อย ภรรยาของเขารับราชการอยู่องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครนายก ลูกสาวคนเดียวเรียนปริญญาโทอยู่มหาวิทยาลัยมหิดล
แต่กว่าที่คุณไพศักดิ์ จะมาลงตัวกับการจำหน่ายต้นไม้ เขาท่องยุทธจักรการเกษตรมาไม่น้อย
คุณไพศักดิ์ มีถิ่นกำเนิดอยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เขาเข้าไปสอบเรียนเกษตรที่วิทยาลัยเกษตรกรรมจันทบุรี เรียนได้ 2 ปี แต่เป็นเพราะเป็นวัยรุ่นคะนอง ก่อนจะขึ้น ปวช.3 มีเหตุให้ต้องหยุดเรียน แต่ช่วงนั้นสอบเทียบ มศ.5 ได้ จึงใช้วุฒิ มศ.5 ไปสอบเรียนต่อที่วิทยาลัยเกษตรกรรมอุดรธานี ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องนำวุฒิ มศ.3 ไปเริ่มต้นใหม่ เขาเรียนจนจบ ปวช. แล้วต่อ ปวส.ที่เดียวกัน จากนั้นจึงสอบเข้าบรรจุเป็นเจ้าพนักงานการเกษตร หรือที่เรียกว่า “เกษตรตำบล” เขาปักหลักรับราชการอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี
เนื่องจากเป็นคนไม่หยุดนิ่ง เขาทำงานหลักไปด้วย ทำงานค้าขายและทำสวนไปด้วย หลายสิ่งหลายอย่างทำท่าจะไปได้ดี แต่เพราะทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน ระยะหลังๆ กิจการซบเซา เขาตัดสินใจลาออกจากราชการก่อนกำหนด เมื่อปี 2543 เพื่อไปแสวงโชคที่ออสเตรเลียเป็นเวลา 1 ปี แต่หลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นใจ จึงกลับเมืองไทย แล้วพบว่า หน้าวัดหนองเต่า มีที่ว่างสำหรับให้เช่าขายต้นไม้ พื้นที่งานเศษๆ เขาตัดสินใจเช่า
เริ่มต้นอย่างไร
ตั้งแต่เรียนในสถาบันการเกษตรแล้ว ที่คุณไพศักดิ์เรียนรู้งานขยายพันธุ์ไม้ เมื่อมาทำงานได้ซื้อที่แปลงหนึ่งกว่า 10 ไร่ ที่อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ปลูกมะขามหวานและไม้ผลชนิดอื่น นอกจากเก็บผลผลิตแล้วยังมีการขยายพันธุ์ไม้อยู่บ้าง แต่เนื่องจากขาดแคลนแรงงาน จึงขายที่แปลงดังกล่าวไป
เมื่อต้องมาจำหน่ายพันธุ์ไม้ คุณไพศักดิ์จึงปลูกต้นพ่อแม่พันธุ์ไว้ แล้วขยายพันธุ์ โดยการทาบกิ่ง เสียบยอด ติดตา เมื่อพร้อมจำหน่ายก็นำมาวางตั้งไว้ที่หน้าร้าน
เนื่องจากท้องถิ่นแถบนั้น เป็นศูนย์รวมของพันธุ์ไม้ผล เกษตรกรที่สนใจทำสวน เมื่อวิ่งรถไป ต้องการต้นไม้ 5-6 ชนิด สามารถหาได้ครบ หรือต้องการชนิดละ 4-5 พันธุ์ ก็หาได้ไม่ยาก ด้วยเหตุนี้ ต้นไม้ของคุณ ไพศักดิ์ จึงจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน
แรกสุดที่มาจำหน่ายต้นไม้…คุณไพศักดิ์ขยายพันธุ์ขายเองทั้งหมด ต่อมามีปัญหาเรื่องแรงงาน จึงเหลือทำเองไม่มากนัก ส่วนใหญ่รับมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ซึ่งทุกวันนี้ การปลอมปนพันธุ์ไม่มีให้เห็น เพราะพันธุ์หาได้ไม่ยาก ผู้ผลิตจะแข่งกันเรื่องคุณภาพ รวมทั้งราคาที่เสนอขาย ด้วยเหตุนี้ผลประโยชน์จึงตกแก่เกษตรกรผู้ซื้อมาปลูก
กิ่งพันธุ์ยอดนิยม
เป็นที่ทราบกันดีว่า บ้านเราเป็นเมืองร้อน จึงต้องปลูกต้นไม้ให้กับสภาพอากาศ
เจ้าของร้านจำหน่ายต้นไม้แห่งนี้ บอกว่า ชนิดของพันธุ์ไม้ผลที่จำหน่ายได้ดีคือ มะม่วง ขนุน มะกรูด มะนาว
แน่นอนว่า มะม่วงนั้นเป็นไม้ผลสามัญประจำบ้านไปแล้ว ใครที่สร้างบ้านใหม่ อยากปลูกต้นไม้สักต้นสองต้น นึกอะไรไม่ออกก็ปลูกมะม่วง ข้อดีของพืชชนิดนี้คือทนทาน ให้ร่มเงาได้ดี ปลูกเลี้ยงไม่ยาก ผลผลิตเหมาะต่อการบริโภค ขนาดของผลไม่ใหญ่เกินไป
เจ้าของร้านบอกว่า มะม่วงที่คนมาซื้อ เป็นพันธุ์ที่รู้จักกันทั่วไป อย่างเขียวเสวย น้ำดอกไม้
หากเป็นขนุน มีพันธุ์ทองประเสริฐ เพชรราชา มาเลเซีย ปีเดียวทะวาย แดงสุริยา
“ใน 12 เดือน…คนมาซื้อมากเดือนมีนาคม-กรกฎาคม ส่วนเดือนสิงหาคม-กุมภาพันธ์ ก็ขายได้เรื่อยๆ เกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ หน้าฝนคนปลูกต้นไม้ ผมดูแลที่นี่เป็นหลัก แฟนรับราชการ จึงต้องจ้างคนช่วยประจำ 2 คน รดน้ำ ขึ้นต้นไม้เมื่อมีคนมาซื้อ ค่าแรงวันละ 400 บาท…คนที่มาซื้อ มาจากทั่วไป อย่างสุราษฎร์ธานี จันทบุรี เชียงราย” คุณไพศักดิ์ บอก
ถามว่า…มีวิธีการให้ลูกค้ารู้จักร้านต้นไม้ได้อย่างไร
“ปากต่อปาก ลูกค้าเคยมาซื้อเรา เราให้บริการเขาดี เราจัดต้นไม้ให้เขาไม่ได้ยัดต้นไม้ เขาได้ต้นไม้สวยๆ สม่ำเสมอ หลังๆ ก็ซื้อเรื่อยมา” เจ้าของบอก
มีขายส่งทีละมากๆ
เดิมทีคุณไพศักดิ์ บอกว่า ตนเองจำหน่ายต้นไม้ให้กับผู้ปลูกโดยตรง
อย่างเกษตรกรอยู่จังหวัดนครราชสีมา จะทำสวน มาซื้อมะม่วง 200 ต้น ขนุน 300 ต้น มะพร้าวน้ำหอม 100 ต้น มากบ้างน้อยบ้าง
ระยะหลัง ในต่างจังหวัด เกิดร้านจำหน่ายต้นไม้ขึ้น ทุกภาคของประเทศไทย เช่น ชุมพร เชียงใหม่ ขอนแก่น นครสวรรค์ ร้านต้นไม้เหล่านี้ จะมาซื้อต้นไม้ครั้งหนึ่งจำนวนมาก เพื่อนำไปวางตั้งขายที่ร้าน คุณไพศักดิ์มีลูกค้าเป็นร้านต้นไม้ไม่น้อย ดังนั้น บางเดือนต้องเสาะหาต้นไม้ล็อตใหญ่ๆ 7-8 ล็อตด้วยกัน ถือว่าเป็นงานหนัก ส่วนนี้ต้องหาทีมงานมาเพิ่มชั่วคราว
“กรณีการซื้อขายเพื่อส่งไปต่างจังหวัด บวกราคาไม่แพง อย่างขนุนปีนี้แพง ของขาดตลาด ซื้อมา 55 ขาย 60 บาท ค่าแรงของทีมงานขึ้นต้นไม้วันละ 700 บาท ส่วนหนึ่งที่เราอยู่ได้เพราะขายถูกกว่าร้านอื่น โดยที่ขนาดและคุณภาพไม่ต่างกัน” คุณไพศักดิ์ บอก
อาชีพนี้อยู่ได้
คุณไพศักดิ์ อายุเลยวัยเกษียณมา 2-3 ปี เมื่อก่อนเขาบอกว่า ใช้ชีวิตอย่างคนเกษตรทั่วไป โดยเฉพาะการดื่มกิน หลังๆ สุขภาพบังคับ จึงเลิกมากว่า 10 ปีแล้ว
“อาชีพนี้อยู่ได้ ส่งลูกเรียน ส่วนหนึ่งลูกเรียนดีได้ทุน งานขายต้นไม้ไม่มีวันว่าง ไม่ได้หยุด นอกจากจะหยุดเอง ติดธุระก็หยุด ไปงานเลี้ยงรุ่น ปีที่แล้วงานเลี้ยงรุ่นเกษตรจันทบุรี กระทิง ที่ลพบุรี ปีนี้เห็นว่าจะไปชุมพร ผมไปร่วมทุกครั้ง ตอนไปเรียนเป็น 100 คน จบตามหลักสูตรจริงไม่กี่คน”
คุณไพศักดิ์พูดถึงอาชีพที่ทำอยู่ และบอกต่ออีกว่า
“ถามว่าเหนื่อยไหม…ไม่เหนื่อย แต่เครียด เพราะลูกค้าสั่งของ บางครั้งของไม่เต็มรถ ต้องหาทางแก้ไข…ก็อยากบอกว่า ปลูกต้นไม้ นอกจากได้ผลผลิตแล้ว ได้ความร่มเย็น”
เป็นงานของคนเกษตร ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ หากมองย้อนไปแล้ว วิชาที่เรียนมา สามารถนำมาประกอบวิชาชีพได้อย่างดี
ผู้สนใจอุดหนุนต้นไม้ ถามได้ ที่โทรศัพท์ 082-200-8268 และ 098-246-1205 หรือ FB : ไพศักดิ์ ชวิวิทยา
…………………
เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563