ผ้าปิดปาก อดีตป้องกันฝุ่น ปัจจุบัน กันเชื้อโรค

การป้องกันภัย เป็นสัญชาตญาณหนึ่งของมนุษย์

คนโบราณมักสอนให้ ระวังเรื่องการใช้ชีวิตมากมาย ทั้งที่บอกตรงๆ และบอกผ่าน คำสุภาษิต คำพังเพย และแฝงฝากมาในเรื่องความเชื่อ อย่างถ้าจะออกไปไหน โบราณบอกว่า ถ้าจิ้งจกร้องทัก อย่าไป คำเตือนนี้ ถ้าตีความหมายตรงๆ ก็หมายถึง เป็นลางไม่ดี ไม่ควรออกจากบ้าน

ถ้าเป็นความหมายแฝง ก็อาจหมายถึง เมื่อจะออกจากบ้าน พ่อ แม่ หรือผู้ใหญ่เตือนเรื่องการเดินทาง นั่นหมายความว่า ให้ระวัง หรือไม่ก็อาจบอกว่า ไม่ให้ออกไป ถ้าฝืนไป อาจจะเกิดอันตรายได้ ด้วยประสบการณ์ของผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมมองเหตุการณ์ได้ดี

เรื่องนี้ ไม่เชื่อก็ไม่อาจลบหลู่

โลกแม้จะก้าวหน้าอย่างไร แต่เรื่องความเชื่อเก่าๆ ก็ยังอยู่ เช่นเดียวกัน แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าพัฒนาเพียงใด เครื่องมือของใช้เก่าๆ ของชาวบ้านก็ยังอยู่ อย่าง ผ้าปิดปาก เป็นต้น

สมัยเด็กๆ เมื่อรู้ว่า รถโม่ข้าวฟ่างจะมาบ้าน ผู้เขียนเห็นแม่นำเอาเศษผ้ามาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จากนั้นฉีกเอาชายผ้าถุงเก่าๆ มา 4 เส้น เย็บเข้ากับผ้าทั้ง 4 มุม คราวนี้แม่ก็ได้ผ้าปิดปากปิดจมูกแล้ว แม้จะเป็นผ้าที่เย็บขึ้นมาอย่างง่ายๆ ทำขึ้นมาอย่างหยาบๆ แต่ก็ใช้ประโยชน์ได้ดี

ถึงวันรถโม่ข้าวฟ่างมาปฏิบัติงาน แม่ก็จะใช้ผ้านั้นปิดปาก-จมูก เหลือไว้แต่ดวงตา ช่วยกันโกยรวงข้าวฟ่างใส่เข่งใบโตๆยกให้กับคนที่อยู่ปากช่องเครื่องโม่

ปี พ..2559 นี้ พูดถึงรถโม่ข้าวฟ่าง เด็กรุ่นใหม่คงไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และเคยอยู่ในชนบทมาก่อน น่าจะได้เคยเห็นกันมาบ้าง รถโม่นี้ชาวบ้านที่ปลูกข้าวฟ่างจะไปว่าจ้างมาโม่ข้าวฟ่างที่บ้าน เอาเข้าจริงก็คือ รถไถไร่นั่นเอง แต่ติดเครื่องโม่ข้าวฟ่างเข้าไป

ขั้นตอนการโม่คือ นำรวงข้าวฟ่างที่ตากแห้งแล้วใส่เข่งให้เต็ม ยกให้กับคนที่ยืนรอรับอยู่ที่ปากช่องของเครื่องโม่ พอเทข้าวฟ่างลงไป เครื่องโม่ก็จะบดแยกเมล็ดข้าวฟ่างออกจากซังข้าวฟ่าง เมล็ดข้าวฟ่างจะไหลเข้ากระสอบ ส่วนซังข้าวฟ่างจะปลิวไปกองรวมกันอีกที่หนึ่ง

คราวใดที่รถมาโม่ข้าวฟ่าง คราวนั้นชาวบ้านเป็นต้องมาช่วยกันโกยข้าวฟ่าง เรียกว่า ลงแขกช่วยกันลากกระสอบเมล็ดข้าวฟ่าง และช่วยกันโกยซังข้าวฟ่างรวมๆ กันไว้เป็นกองพะเนิน และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ต้องได้เห็นชาวบ้านใช้ผ้าปิดปาก เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากข้าวฟ่าง

ฝุ่นละอองจากการโม่ข้าวฟ่างคันเอามากๆ มันจะลอยฟุ้งจากเครื่องโม่ เราเด็กๆ แม้จะซนอย่างไร ก็มักจะหนีออกไปอยู่ไกลๆ ทั้งๆ ที่อยากเห็นการทำงานของเครื่องโม่ใจจะขาด

ผ้าปิดปากสมัยก่อนใช้ป้องกันฝุ่น ละออง แต่ปัจจุบันมักใช้ปิดป้องกันเชื้อโรค ช่วงที่ไข้หวัดระบาด ไม่ว่าจะหวัดสายพันธุ์ใด คนที่เป็นหวัดและรับผิดชอบต่อสังคม มักใช้ผ้าปิดปาก ป้องกันการแพร่เชื้อไปติดคนอื่น แต่บางคนแม้จะเป็นหวัดแต่ก็ไม่ใช้ผ้าปิดปาก แถมยังไอหรือจามโดยไม่มีผ้าปิดปากอีกด้วย

ผ้าปิดปาก ปัจจุบัน ไม่ต้องเย็บให้เสียเวลาอีกแล้ว เพราะมีขายอยู่ทั่วไป เมื่อต้องการใช้ก็ดิ่งไปที่ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อหรือร้านสะดวกขาย เราซื้อหาได้อย่างง่ายดาย ราคาไม่แพง แถมมีลวดลายสวยงามให้เลือกซื้อหา

คุณสมบัติ ของผ้าปิดปากในปัจจุบัน มิเพียงป้องกันฝุ่น ละออง และเชื้อโรคเท่านั้น บางยี่ห้อยังมีสารฆ่าเชื้อโรคอีกด้วย ด้วยคุณสมบัติดีงามอย่างนี้เอง โอกาสที่จะได้เห็นผ้าปิดปากแบบที่แม่ทำจึงเป็นไปได้ยาก หรือจะบอกว่าไม่มีโอกาสพบก็ไม่น่าจะผิด

ชีวิตคนเราจำเป็นต้องมี เกราะป้องกัน บางเกราะต้องแข็งแกร่ง อย่าง เสื้อเกราะ แต่บางเกราะก็บอบบาง อย่าง ผ้าปิดปาก

เลือกใช้เกราะป้องกันอย่างไร ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของผู้ใช้โดยแท้