พาณิชย์ผนึกอุตฯ-พลังงานแก้ปมราคาปาล์มดิ่ง

พาณิชย์ผนึกกำลังพลังงาน-อุตสาหกรรมคลอดมาตรการยกระดับราคาผลปาล์มปี ’60/61 เพิ่มการผลิตไบโอดีเซลบี 7-ออกประกาศเพิ่มราคารับซื้อปาล์มเปอร์เซ็นต์สูง 18% หลังเกษตรกรแห่ร้อง รมว.พาณิชย์แก้ปมราคาปาล์ม

แหล่งข่าวจากสภาเกษตรกรแห่งชาติเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในวันที่ 29 มีนาคม 2560 ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ทำหนังสือถึง นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอให้ช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์การรับซื้อปาล์มน้ำมันในราคาที่ไม่เป็นธรรมจากเกษตรกร และคัดค้านการนำเสนอราคาค่าการตลาดของโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน กิโลกรัมละ 4.40 บาท และประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เรื่องแนวทางการปฏิบัติการแสดงราคารับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงที่อัตราน้ำมัน 18% ในราคากิโลกรัมละ 5.50 บาท เนื่องจากราคานั้นจะทำให้เกษตรกรเดือดร้อน

“หลังกรมการค้าภายในเรียกประชุมคณะทำงานกำหนดราคาแนะนำผลปาล์ม ครั้งที่ 3/2560 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม แต่ราคารับซื้อในพื้นที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 6-7 เมษายน 2560 ยังรับซื้อต่ำกว่าราคาแนะนำ กิโลกรัมละ 0.15 บาท เช่น ราคาแนะนำผลปาล์ม 18% กิโลกรัมละ 5.20 บาท แต่ตั้งรับซื้อที่ 5.05 บาท ราคาแนะนำผลปาล์ม 19% กิโลกรัมละ 5.50 บาท ซื้อ 5.35 บาท ราคาแนะนำผลปาล์ม 20% กิโลกรัมละ 5.80 บาท แต่ซื้อที่ 5.65 บาท เป็นต้น”

ล่าสุด นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เตรียมเรียกประชุม คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เพื่อพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ โดยเบื้องต้นจะเสนอขออนุมัติวงเงินจาก คชก. เพื่อพิจารณาให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เข้าไปรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร หากเกิดปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำ และแนวทางที่ 2 จะขอความร่วมมือกระทรวงพลังงานให้เพิ่มการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล จากบี 5 เป็นบี 7 หรือมากกว่านั้น เพื่อเพิ่มปริมาณความต้องการใช้ช่วยดูดซับผลผลิตปาล์มปี 2560/2561 ที่คาดว่าจะมี 11.7 ล้านตัน

ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้มีมาตรการรับซื้อผลปาล์ม โดยขออนุมัติวงเงินช่วยเหลือเกษตรกร 2,950 ล้านบาท จาก คชก. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2559 เพื่อให้ อคส. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบในปี 2559/2560 ปริมาณ 1 แสนตัน จากโรงสกัดน้ำมันปาล์มที่เข้าร่วมโครงการ ในราคาไม่ต่ำกว่า 26.20 บาท ต่อกิโลกรัม เพื่อให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรไม่ต่ำกว่า 4.20 บาท ต่อกิโลกรัม ในอัตราน้ำมัน 17 % โดยระยะเวลาในการรับซื้อตั้งแต่เดือนเมษายน 2559 และสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2560

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในการประชุมแนวทางจัดการสินค้าปาล์มน้ำมัน เพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ร่วมกับตัวแทนหน่วยงานราชการทั้งกะทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้เสนอให้กระทรวงอุตสาหกรรมใช้ พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 กำหนดให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มสดจากเกษตรกรในเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% เพราะหลังจากสำรวจพื้นที่ปลูกปาล์มแล้วพบว่า เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มส่วนใหญ่สามารถผลิตปาล์มในเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้ตั้งแต่ 18-20% แต่ที่ผ่านมามีการรับซื้อผลปาล์มในเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำกว่า 18% เนื่องจากมีการเร่งตัดปาล์มก่อนกำหนด (ปาล์มดิบ) ส่งผลให้ขายได้ราคาที่ต่ำเกินกว่าความเป็นจริง

“ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ออกมาประกาศราคาแนะนำรับซื้อผลปาล์มสดไว้ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% แต่ไม่ใช่มาตรการบังคับ หากจะออกมาตรการบังคับต้องใช้ความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมในการกำหนดให้โรงงานรับซื้อเปอร์เซ็นต์น้ำมันดังกล่าว” นางนันทวัลย์ กล่าว

พร้อมกันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ กำหนดมาตรฐานของลานเทห้ามแยกผลปาล์มทะลายให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และกระทรวงพาณิชย์จะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่และชุมพรให้แจ้งเกษตรกรตัดผลปาล์มสุกเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% เพิ่มเป็น 20% จะช่วยให้ได้ราคาสูงขึ้น กิโลกรัมละ 90 สตางค์ เกษตรกรทั้งระบบจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 10,500 ล้านบาท ซึ่งตามเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์ปาล์ม 20 ปี มุ่งเพิ่มเปอร์เซ็นต์ปาล์มน้ำมันให้ได้ 22% เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันไทย

 

ขอบคุณข้อมูล หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ