ที่มา | เรื่องเล่าจากกศน. |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค22 |
เผยแพร่ |
“จังหวัดอ่างทอง” เป็นที่ราบลุ่ม มีลักษณะเป็นแอ่งรับน้ำ สภาพภูมิประเทศเหมาะแก่การเพาะปลูก ประชากรส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพทางเกษตรกรรม เช่น ทำนา ปลูกอ้อย ทำสวนผลไม้ ปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา และฟาร์มปศุสัตว์ ส่วนโรงงานอุตสาหกรรมมีจำนวนน้อย เมื่อว่างเว้นจากการทำนา ชาวอ่างทองนิยมใช้เวลาว่างผลิตสินค้าหัตถกรรมเป็นรายได้เสริม ได้แก่
สินค้าดอกไม้ประดิษฐ์ (ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา) ตุ๊กตาชาววัง ( ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก) ผ้าทอมือ (ตำบลสระแก้ว อำเภอป่าโมก) ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวา (ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง และตำบลไชยภูมิ อำเภอไชโย) เครื่องจักสานหวาย และไม้ไผ่ (อำเภอโพธิ์ทอง, อำเภอไชโย และอำเภอแสวงหา) และอุตสาหกรรมทำกลอง (ตำบลเอกราช อำเภอป่าโมก) ซึ่งสินค้าหัตถกรรมทุกประเภทมีความประณีต สวยงาม ส่งขายทั่วประเทศ และส่งออก
สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดอ่างทอง (สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง) ได้มีการพัฒนาครู และบุคลากรของ กศน.อย่างสม่ำเสมอ โดยจัดอบรมครูผู้สอนทางระบบออนไลน์ ทั้งในเรื่องหลักสูตรพื้นฐาน และหลักสูตรอาชีพ ตามแนวทางวิถีชีวิตใหม่ New Normal เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สอดคล้องกับนโยบายของ ดร. กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ขณะเดียวกันสำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ส่งเสริมให้ ครู กศน.นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้พัฒนาระบบการเรียนออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชั่น “ONIE Online” อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาตลอดชีวิตแก่คนไทยทุกช่วงวัย และส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ สามารถนำความรู้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีขึ้น
ในช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ได้พัฒนา กศน.ตำบล ให้มีบรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ (Good Place-Best Check in) พร้อมให้บริการกิจกรรมการศึกษาและเรียนรู้ เป็นแหล่งข้อมูลสาธารณะที่สวยงาม ปลอดภัย และง่ายต่อการเรียนรู้สำหรับทุกคนทุกช่วงวัย โดยยกระดับ กศน.ตำบล อำเภอละ 1 แห่ง เป็น กศน.ตำบล 5 ดี พรีเมี่ยม ที่ประกอบด้วย ครูดี สถานที่ดี (ตามบริบทของพื้นที่) กิจกรรมดี เครือข่ายดี และมีนวัตกรรมดีมีประโยชน์
ส่งเสริมความรู้พัฒนาอาชีพ
เนื่องจากการจัดการศึกษาอาชีพมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพราะช่วยพัฒนาประชากรของประเทศให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะในการประกอบอาชีพ ทั้งช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงาน สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจชุมชน ทำให้ประชาชนมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง และมีงานทำอย่างยั่งยืน
สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง มุ่งเดินหน้าจัดการศึกษาหลักสูตรอาชีพเพื่อการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้แก่ทุกชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีนี้ เร่งดำเนินโครงการหลักสูตรอาชีพ เพื่อพัฒนา “ผลิตภัณฑ์ กศน.พรีเมี่ยม” ภายใต้ตราสัญลักษณ์ กศน.แบรนด์ “ONIE” หมายถึง การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเกิดจากการจัดหลักสูตรอาชีพของครู กศน.ในแต่ละชุมชนได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจออนไลน์ กลยุทธ์การตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสู่ระบบ e-Commerce โดยมีเป้าหมายหลักคือ ยกระดับผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ONIE” ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ กศน.พรีเมี่ยม ของ สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง มีหลากหลายรูปแบบ ที่เกิดจากการจัดหลักสูตรอาชีพของครู กศน.ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ที่เน้นการบูรณาการเนื้อหาสาระภาคทฤษฎีควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริง ผู้เรียนสามารถนำความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพได้จริงอย่างมีคุณภาพ
ผลิตภัณฑ์ กศน.พรีเมี่ยม ของ สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำพริกเผา (กศน.ตำบลบางระกำ อำเภอโพธิ์ทอง) ผลิตภัณฑ์ไข่เค็มสมุนไพร อินทประมูล (กศน.ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง) ผลิตภัณฑ์กล้วยม้วนไฮโซ (กศน.อำเภอโพธิ์ทอง) ผลิตภัณฑ์เชือกมัดฟาง (กศน.อำเภอไชโย) ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่ได้รับการจดอนุสิทธิบัตร มีช่องทางจัดจำหน่ายทั้งแบบซื้อขายโดยตรงและออนไลน์ทาง “เฟซบุ๊ก OOCC”
ผลิตภัณฑ์เชือกมัดฟาง
ทุกวันนี้ กระแสแฟชั่นการนำวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาสร้างเป็นชิ้นงานเพื่อต่อยอด สร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการยกคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์และถ่ายทอดความรู้จากภูมิปัญญาชาวบ้านไปยังคนรุ่นต่อไป เพื่อไม่ให้ความรู้สิ้นสูญแล้ว ยังสนับสนุนให้ประชาชนมีแนวทางในการประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับตนเอง ตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
“ผลิตภัณฑ์เชือกมัดฟาง” หนึ่งในสินค้าผลิตภัณฑ์ กศน.พรีเมี่ยม (ONIE Premium) ของ สำนักงาน กศน.จังหวัดอ่างทอง สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในเรื่อง เทรนด์ “รักษ์โลก” ที่นิยมสินค้าแฟชั่นที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ผลิตภัณฑ์เชือกมัดฟาง มีจุดเริ่มต้นมาจาก เชือกปอป่าน ซึ่งในอดีต ช่วงที่ชาวนาเกี่ยวข้าวมักใช้เชือกปอป่านมัดฟ่อนข้าว ว่างเว้นจากฤดูทำนาเกษตรกรมีเวลาว่างก็รวมตัวกันนำเชือกปอมาใช้ประโยชน์ในงานจักสาน เช่น ตะกร้าใส่ของ ฝาชี เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ
ต่อมา กศน.ได้จัดหาวิทยากรมาอบรมความรู้เรื่องงานประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ ก็ได้นำเชือกปอมาใช้เป็นวัสดุดิบในงานจักสาน พร้อมเปลี่ยนแปลงรูปแบบเป็นตะกร้าเชือกมัดฟาง สำหรับใช้ประโยชน์ในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึก มอบให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และพัฒนารูปแบบสินค้าในรูปใหม่ๆ ใช้ประโยชน์ได้หลากหลายมากขึ้น เช่น เก้าอี้รังนก กระจาดหาบจากใช้เชือกมัดฟาง ซึ่งเป็นการผสานวิถีชีวิตดั้งเดิมเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
ไข่เค็มสมุนไพร ทำง่าย ขายดี
ผลิตภัณฑ์ไข่เค็มสมุนไพร อินทประมูล เป็นสินค้าเด่นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอ่างทอง เป็นสินค้าขายดี เป็นที่นิยมของประชาชนจำนวนมาก เปิดอบรมหลักสูตรนี้ครั้งใดมีผู้สนใจเข้ามาเรียนรู้เป็นจำนวนมาก เพราะสามารถนำความรู้ไปทำไข่เค็มเป็นเมนูอาหารประจำครัวเรือนได้แล้ว ยังเป็นอาชีพที่สร้างรายได้อีกด้วย
การทำไข่เค็มสมุนไพรไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด เริ่มจากจัดเตรียมวัตถุดิบสมุนไพร เช่น ใบเตย ไข่เป็ดสดใหม่ เกลือ ดินสอพอง ส่วนวิธีการทำ เริ่มจากล้างไข่เป็ดให้สะอาด นำไปผึ่งให้แห้ง ผสมดินสอพองและเกลือลงในถาด ใส่น้ำ นวดให้เข้ากัน นำส่วนผสมที่ได้มาหุ้มไข่เป็ดทุกฟองให้มิด นำไข่ที่ได้มาคลุกด้วยใบเตยป่น ซึ่งใบเตยจะทำให้ได้สีเขียวธรรมชาติ นำไข่ที่คลุกใบเตยป่นเก็บไว้ 3-4 วัน ทอดไข่ดาวได้ หากเก็บไว้นาน 7 วัน นำมาต้มเป็นไข่เค็มใบเตยได้ ไข่เค็มมีกลิ่นหอมของใบเตย หากเก็บไข่เค็มไว้ในตู้เย็น เก็บรักษาคุณภาพได้นานหลายเดือน