“ประภัตร”จัดกระหึ่ม! มหกรรม “เกษตรอัจฉริยะ” หวังยกระดับเกษตรกรไทย

กระทรวงเกษตรฯ เตรียมจัดงานใหญ่ มหกรรม “เกษตรอัจฉริยะ” ครั้งที่ 1  ที่พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ระหว่าง วันที่ 24 ธ.ค.63-1 ม.ค.64 โชว์นวัตกรรมทางการเกษตร ยกระดับขีดความสามารถเกษตรกรไทย

นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงานมหกรรม “เกษตร อัจฉริยะ” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 โดยมี นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายมนัส กำเนิดมณี ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการข้าว นายสุรเดช สมิเปรม รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายครรชิต สุขเสถียร รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) นางสมรัก บุษปธำรง รองผู้อำนวยการด้านบริหาร องค์การสะพานปลา และนายประพันธ์ ลีปายะคุณ ผู้ตรวจราชการกรมประมง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานด้วย ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

โดยนายประภัตร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยหน่วยงานในสังกัดกว่า 20 หน่วยงาน ร่วมกับภาคเอกชน เตรียมจัดงานมหกรรม “เกษตรอัจฉริยะ” ครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่าง วันที่ 24 ธันวาคม 2563-1 มกราคม 2564

ซึ่งได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาเป็นประธานเปิดงาน ในวันที่ 24 ธันวาคม 2563 ซึ่งการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ถึงการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง หรือ “เกษตรอัจฉริยะ” มาปรับใช้ ซึ่งตรงกับยุทธศาสตร์ชาติ ข้อที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ ต่อยอดอดีต ปรับปัจจุบัน และสร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มการผลิตทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพมากขึ้น

การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นงานใหญ่ ที่ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกัน นำนิทรรศการนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ อาทิ การประกวดสัตว์ที่เลี้ยงผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น การประกวดกระบือ ไก่พื้นเมืองสวยงาม โคเนื้อ และแพะ จากกรมปศุสัตว์ การจัดแสดงผลงานวิจัยพันธุ์ข้าว นวัตกรรมการลดต้นทุน การแปรรูปและจำหน่ายข้าว จากกรมการข้าว กิจกรรมสร้างรายได้จากการประกอบอาชีพในระยะสั้น เช่น การเลี้ยงจิ้งหรีดครบวงจร จากสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) IoT นิทรรศการเกษตรนอนตีพุง พื้นที่ ส.ป.ก.ทองคำ จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม นิทรรศการฝนหลวง พร้อมเครื่องบินฝนหลวง จากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร

นิทรรศการวันดินโลก สาธิตการทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวา จากกรมพัฒนาที่ดิน นิทรรศด้านน้ำ จากกรมชลประทาน นิทรรศการเทคโนโลยีเรื่องกุ้งก้ามกราม และการประกวดปลาสวยงาม ปลากัด จากกรมประมง นิทรรศการสารชีวภัณฑ์ควบคุมศัตรูพืช จากกรมวิชาการเกษตร นิทรรศการ

และการปล่อยสินเชื่อเงินกู้แก่เกษตรกร จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร นิทรรศการ Application Smart ME จากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ การจัดแสดง Application พยากรณ์ จากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร นิทรรศการทำการเกษตรในพื้นที่แคบ

โรงภาพยนตร์ 2 มิติ จากพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัดแสดงการปลูกพืชในโรงเรียน (ทำน้อยได้มาก) จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) นิทรรศการศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ (NBAC) และ Application กระดานเศรษฐี จากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตผล ผลิตภัณฑ์ ปัจจัยการผลิตทางการเกษตร และสินค้าอุปโภคในราคาถูก อาทิ การประกวดและจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร จากกรมส่งเสริมการเกษตร การจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำที่สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารฟอร์มาลีน และอาหารทะเลแปรรูปต่างๆ จากองค์การสะพานปลา การจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากยางพารา จากการยางแห่งประเทศไทย การแปรรูป หม่อน ถั่งเช่า และจำหน่ายสินค้า ผ้าไหม ผลิตภัณฑ์หม่อน จากกรมหม่อนไหม

นวัตกรรมเลี้ยงโคนม เครื่องรีดนมโค และแจกผลิตภัณฑ์นม จากองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย และจำหน่ายสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหาร จากหน่วยงานภาคเอกชน เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้เข้าชมงาน ได้ชมและศึกษาความรู้นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการเกษตรที่ทันสมัย นำกลับไปปฏิบัติ สามารถสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่มีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก มีแหล่งน้ำธรรมชาติ การชลประทานเหมาะสมแก่การเกษตร พื้นที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำนา และปศุสัตว์ ที่เป็นอาชีพหลักของประชากรมากกว่าร้อยละ 80 ดังนั้น การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงหรือ “เกษตรอัจฉริยะ” มาถ่ายทอดให้กับเกษตรกรได้รู้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร

นางสมรัก บุษปธำรง รองผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา ด้านบริหาร กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่องค์การสะพานปลา(อสป.) เข้าร่วมออกบู๊ธในงานมหกรรม “เกษตรอัจฉริยะ” ครั้งนี้ด้วย ซึ่ง อสป.จะนำสินค้าสัตว์น้ำและอาหารทะเลแปรูปใหม่ๆ มาโชว์และจำหน่ายในราคาพิเศษ โดยเราจะเน้นในเรื่องของความสด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารฟอร์มาลีนเป็นหลัก

“ไฮไลต์ของงานจะพบกับปลาเก๋า ปลาหมอทะเล และปลาอินทรีที่ใหญ่ที่สุด หรือขนาดประมาณตัวละ 300 กิโลกรัม มาโชว์ และที่พิเศษไปกว่านั้นจะทำข้าวต้มปลา พร้อมนำสินค้าสัตว์น้ำและอาหารทะเลแปรรูปมาจำหน่ายในราคาพิเศษตลอด 9 วัน 9 คืน ด้วย รับรองว่าประชาชนจะได้รับประทานอาหารทะเลที่สด สะอาด ปลอดภัย ส่งตรงจากทะเลแน่นอน และสินค้าสัตว์น้ำทุกชนิดที่นำมาจำหน่าย สามารถตรวจสอบย้อนกลับหรือเช็คได้ว่าสินค้าแต่ละชนิด มาจากแหล่งไหน ใครเป็นเจ้าของ และใครเป็นผู้จัดจำหน่าย”