กศน.เร่งสร้าง ชุมชนสุขภาวะ และคลังปัญญาผู้สูงอายุทั่วไทย

เมื่อเร็วๆ นี้ ดร. กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมเวทีนำเสนอนโยบาย “คลังปัญญาผู้สูงอายุ เพื่อรวมพลังภาคีและสร้างชุมชนสุขภาวะ” โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาระบบคลังปัญญาผู้สูงอายุ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่งเสริมสมรรถนะการเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านการจัดการความรู้ ผู้นำการเปลี่ยนแปลง และการสื่อสาร เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ต่อยอดองค์ความรู้และภูมิปัญญา เพื่อขับเคลื่อนสู่สังคมสุขภาวะ

การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ใช้นโยบาย กศน. Wow ด้านที่ 4 คือ การเสริมสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่าย Good Partnership ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (มสพช.)

การทำงานร่วมกันในครั้งนี้ มีเป้าหมายหลักคือ นำเอาศักยภาพของบุคลากรและจุดแข็งของแต่ละหน่วยงานมาร่วมกัน จะดำเนินการร่วมกับเครือข่ายโรงเรียน ชุมชน ผู้สูงอายุ และศูนย์เรียนรู้ที่มีอยู่ในชุมชน เพื่อสนับสนุนให้ศูนย์เรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ เป็นศูนย์สร้างสุข และเป็นที่ดำเนินงานยกระดับเรื่องคลังปัญญาผู้สูงอายุในพื้นที่ โดยร่วมกันบูรณาการจัดทำเนื้อหาและร่วมบริหารจัดการข้อมูลคลังปัญญา-ภูมิปัญญาผู้สูงอายุ จัดการความรู้บนเว็บไซต์รวมพลัง (www.thaisynergy.org) ซึ่งเป็นเว็บไซต์กลางที่ร่วมกันพัฒนาขึ้น และจะได้เชื่อมโยงกับเว็บไชต์ กศน. (www.nfe.go.th) และ มสพช. (www.thaiichr.org)

ทั้ง 3 หน่วยงาน จะร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพบุคลากร กศน.เพื่อที่จะทำให้ 60+ ไอดอล กระจายทั่วประเทศไทย พร้อมเติมเต็มศักยภาพในการจัดทำสื่อ และการค้นหาคลังปัญญาที่มีอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ใกล้จะสูญหาย โดยขับเคลื่อนร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อให้การสนับสนุนไปสู่ระดับจังหวัดต่อไป

กศน.ตำบลคลองน้ำไหล คลองลาน กำแพงเพชร จัดโครงการส่งเสริมความสุขผู้สูงอายุ

กศน.ดูแลใส่ใจ “ผู้สูงวัย”

ผู้สูงอายุ เป็นประชากรที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว คือเป็นแหล่งความรู้ ความชำนาญที่มีคุณค่า เป็นผู้ทรงไว้ซึ่งประเพณี วัฒนธรรม และเป็นสายใยแห่งครอบครัวเชื่อมต่อระหว่างบุคคลในช่วงวัยต่างๆ แต่ขณะเดียวกัน ผู้สูงวัยมักมีปัญหาด้านสุขภาพ อนามัยปัญหาด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นกว่าวัยอื่นๆ ดังนั้น การจัดหลักสูตรการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตให้ผู้สูงอายุตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีตนเอง เตรียมตัวเข้าสู่ช่วงวัยสูงอายุอย่างมีศักยภาพ เข้าใจชีวิตส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันการเจ็บป่วยและดูแลตนเองเบื้องต้นได้ สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลก สามารถปรับตัวอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข

สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กำหนดวิสัยทัศน์ให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพทั้งในระบบโรงเรียน นอกระบบโรงเรียน และตามอัธยาศัยอย่างมีคุณภาพ ที่ผ่านมา กศน.จึงได้พัฒนาหลักสูตรบริการทางการศึกษาเพื่อให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้ตลอดชีวิต สอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุ และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

Advertisement
ผู้สูงวัยได้เรียนรู้เรื่องการดูแลสุขภาพ

สำหรับหลักสูตรที่นำมาใช้บริการทางศึกษาให้แก่ผู้สูงวัย ได้แก่ หลักสูตรการดูแลสุขภาพที่จำเป็นของผู้สูงอายุ ปัญหาด้านสุขภาพและโรคต่างๆ ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ สิทธิและสวัสดิการของผู้สูงอายุตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ การเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ และสังคมของผู้สูงอายุ การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ การพัฒนาจิตสำหรับผู้สูงอายุ (ฝึกโยคะ ฝึกสมาธิ การฝึกไทเก็ก) การใช้ชีวิตอย่างมีความสุขของผู้สูงอายุ (การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม) เทคโนโลยีการสื่อสารสำหรับผู้สูง (การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสารและสืบค้นข้อมูลข่าวสาร การใช้งาน facebook, Line จากโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรการนันทนาการและการใช้เวลาว่างสำหรับผู้สูงอายุ เช่น การออกกำลังกายประกอบดนตรีและอุปกรณ์ สอนเต้นลีลาศ กิจกรรมการปลูกผักเพื่อการบริโภค เช่น ปลูกผักสวนครัวในกระถาง การเพาะถั่วงอกคอนโดฯ การเพาะเห็ดในตะกร้า การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ หรืองานประดิษฐ์ เช่น การสานตะกร้า การสานกระเป๋า การจัดดอกไม้ การทำผลิตภัณฑ์โปรยทาน ฯลฯ เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ขณะเดียวกันช่วยให้ผู้สูงวัยมีกิจกรรมสัมพันธ์และเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมได้

Advertisement

อาหารและโภชนาการ ของผู้สูงอายุ

แนวทางการปฏิบัติตัวเพื่อส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงวัย นอกจากนอนหลับให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง รวมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว เรื่องอาหารก็ดูแลใส่ใจ รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ทุกมื้อ เพื่อส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

กศน.แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก จัดอบรมการทำน้ำข้าวกล้องงอก

ก่อนหน้านี้ กศน.แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กทม. ได้จัดอบรมการศึกษาเพื่อเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง งบประมาณ 2563 โดยเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยและผู้สนใจได้เรียนรู้วิชา การทำน้ำข้าวกล้องงอก หนึ่งในอาหารทางเลือกสำหรับบำรุงสุขภาพที่ทำบริโภคได้ง่ายในครัวเรือน การรับประทานข้าวกล้องช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ช่วยระบบย่อยอาหาร และช่วยควบคุมน้ำหนักตัวได้

หากทำน้ำข้าวกล้องงอกจากข้าวกล้องสีนิล ร่างกายจะได้รับประโยชน์มากเพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี 2 และใยอาหาร ซึ่งพบในปริมาณที่สูงกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีสารกาบาซึ่งเป็นสารสำคัญทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท ช่วยรักษาสมดุลในสมอง และป้องกันโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

เมล็ดข้าวงอก

วิธีทำ น้ำข้าวกล้องงอก

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากคัดเลือกเมล็ดข้าวกล้องใหม่ ลักษณะดี คือ มีจมูกข้าวและเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวที่เป็นสีน้ำตาลและสีแดงอยู่ เมล็ดข้าวกล้องงอกแบบนี้ จะมีแร่ธาตุที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายอย่างครบถ้วน ทั้งวิตามิน เกลือแร่ และแคลเซียม หลังจากนั้นใช้เมล็ดข้าวกล้องงอก ปริมาณ 1 ขีด (100 กรัม) นำมาล้างทำความสะอาด 1 ครั้ง ก่อนนำไปแช่น้ำปริมาณ 1 ลิตร ทิ้งไว้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง เมื่อได้ที่สังเกตดูดีๆ จะเห็นเป็นตุ่มงอกสีขาวขึ้นมาที่เมล็ดข้าว

จากนั้นนำเมล็ดข้าวกล้องงอกที่แช่ไว้แล้วขึ้นมาผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปต้มต่อ โดยใช้ไฟปานกลางต้มจนเดือดพอประมาณ อย่าให้เดือดมากเพราะสารกาบาจะถูกทำลายมากไปด้วย เคี่ยวต่อขณะเดือดสักพัก ประมาณ 15-20 นาที ทำแบบนี้จะยังเก็บสารกาบาไว้ในข้าวได้ถึง 70% ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอกับร่างกาย จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง หรือกระชอน จะได้น้ำข้าวกล้องงอกที่อุดมด้วยประโยชน์ สามารถเพิ่มรสชาติที่ชอบได้ด้วยเกลือป่น ปกติในน้ำข้าวกล้องงอกที่ได้จะมีความหวานในตัวอยู่แล้ว แต่ก็สามารถปรุงน้ำตาลเพิ่มนิดหน่อยได้ตามต้องการ

น้ำข้าวกล้องงอกที่ทำเสร็จ พร้อมจำหน่าย

ซึ่งการนำข้าวกล้องมาทำเป็นเครื่องดื่มจะได้สารกาบามากกว่าวิธีการหุงเป็นข้าวสวยรับประทานถึง 10% การทำน้ำข้าวกล้องงอกไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำบริโภคได้เองในครัวเรือน หรือผลิตออกขายก็สร้างรายได้ดีเช่นกัน

…………………..

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปี (24 ฉบับ) ลดราคาทันที 15% พร้อมแถมฟรีอีก1เดือน สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธ.ค. 63 เท่านั้น!!คลิกดูรายละเอียดที่นี่